“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์ สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีติ่งแดงด้อมส้ม อย่างเท่าเทียม” เริ่มต้นบุคคลแรก “หนูน้อยถุงเท้าแดง/บุรุษผู้ไร้ภาวะผู้นำอย่างสิ้นเชิง” กับบทบรรณาธิการที่ว่า “อาถรรพณ์ระบอบทักษิณ/ชะตากรรมหนูน้อยถุงเท้าแดง” อาถรรพณ์ที่ยากจะหนีพ้นและยากจะแก้ไขเพราะเป็นเรื่องของ “ปลาหมอตายเพราะปาก, แกว่งเท้าหาเสี้ยน” มิใช่ “นิติสงคราม” แต่อย่างใด...

nn กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ระดับ“ผู้กำกับการ(พ.ต.อ.)” ที่เผลอ “สำรอกสำราก” และมาแก้ตัวแก้เกี้ยวในภายหลังที่ช้าเกินไปเสียแล้ว เพราะ “ขว้างงูไม่พ้นคอ งูพิษจึ่งฉกที่คอ” พิษซ่านกระเซ็นถึงหัวใจอย่างรวดเร็วเกินเยียวยาแก้ไขนี่ถือเป็นวิบากกรรมกระทอกแรกเท่านั้น...

nn เพราะกระทอกสอง ของ “หนูน้อยถุงเท้าแดง” จะต้องประสบวิบากกรรมในการตราพระราชบัญญัติเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่ทำลายวินัยการเงินการคลังส่อทุจริต ทำลายความโปร่งใสและนำไปสู่การฉ้อราษฎร์บังหลวง ... “เหมือนเมื่อครั้งรัฐบาล “ปูจ๊าดง่าว–นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” พยายามออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้าน ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำลายความโปร่งใส ให้เกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ว่าถ้ากฎหมายนี้ (ร่างพ.ร.บ.กู้เงินสองล้านล้านบาท) ผ่าน “เผด็จการรัฐสภา” ในเวลานั้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะดึงเงินจากคลังได้อย่างอิสระ ไม่ผ่านสำนักงบประมาณ และอาจส่อที่จะเกิดทุจริต...

nn “ร่างพระราชบัญญัติกู้เงินมาแจก 5 แสนล้านบาท” ที่มีลักษณะเดียวกันก็คงไม่แตกต่างกันคือทำลายวินัยการเงินการคลังส่อทุจริต และอาจเกิดหายนะอย่างโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดจนเกิดความเสียหายหลายแสนล้านบาทก็เป็นได้ในเมื่อไม่ได้มีการศึกษาการดำเนินการและวางแผนอย่างรอบคอบมาแต่ต้น จากที่ สำรอกสำรากเคาะกะลาหลอกลวงประชาชนและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่านโยบายโครงการนี้ไม่จำเป็นต้องกู้เงินมาดำเนินนโยบายแต่ใช้การบริหารงบประมาณ สุดท้ายสังคมไทยก็เหม็นขี้ปากเหม็น “น้ำลายบูด”...

nn อย่างที่เคยนำเรียนเสนอมาแล้ว ว่า ภาคการส่งออกของไทยชะลอตัวลดลง ภาคการผลิตการเกษตรลดลง เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมก็ลดลงตามไปด้วยตามความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ลดลง...มันคือวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศหรือมันคือการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดไร้ฝีมือของ “ท่านผู้นำหนูน้อยถุงเท้าแดง” กันแน่!?!?!...

nn ฤๅจะเป็นอาถรรพณ์ระบอบทักษิณที่ชะตากรรมผู้นำภายใต้ “แอนิมอลฟาร์มจันทร์ส่องหล้า”มักสิ้นอายุขัยด้วยมาตรา 185 (3) , 182 (7) ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และมาตรา 157 ตัวอย่าง อาทิ “นายกฯชมพู่ผ่าซีก-สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์,ปูจ๊าดง่าว – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นต้น ย้อนดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นได้ว่าไม่มี “นิติสงคราม” แม้แต่น้อย...

nn “เสี่ยอ้วน - ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ผู้อาวุโสประสบการณ์ ทางการเมืองแกร่งกล้าอย่า ตะแบงให้ลิ้นแตกเป็นแฉก เลยกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับว่า “พรรคเพื่อไทย” ไม่มีการฝากผกก. แจง “นายกฯ” พูดกับ สส.ให้เข้าใจ... เข้าใจว่า??? ชัดเจนขนาดนั้นตั้งสติให้มีสมาธิ...ปัญญาจะได้เกิดดีกว่าไหม เตรียมข้อมูลไปสู้ในศาลรัฐธรรมนูญแต่เนิ่นๆ น่าจะเป็นประโยชน์กับตนเองและพวกพ้องดีกว่ามาโต้แย้งกับเสียงสำรอกสำรากที่ความหมายชัดเจนในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เพราะอาการที่เกิดขึ้นผ่านสื่อสารมวลชน ไม่ใช่อาการ “หมาเห่าใบตองแห้ง” แต่อมยิ้มฉะฉานชัดเจนว่าได้สนองตอบให้แล้วอย่าลืมเสียล่ะ?? หุยสส์ ฮาสสส์!?!?! ...

nn “ไม้หน้าสาม” อยากเตือน “ท่านผู้นำ-หนูน้อยถุงเท้าแดง/เศรษฐา ทวีสิน” ว่า “จุดจบของการไม่ปรับทัศนคติคือ จะไม่มีใครอยากอยู่ในชีวิตของคุณอีกต่อไป” ดังนั้นเสียงสำรอกผ่านนสพ.ประชาชาติธุรกิจที่ว่า “พูดตรงไปตรงมา ถ้าร่างกฎหมายกู้เงินมาแจกไม่ผ่าน, ก็ถือเป็นความซวยของประเทศ” ท่านคิดเยี่ยงนี้จริงหรือ ความซวยของประเทศและประชาชนที่ไปเลือก “พรรคเพื่อไทย” ที่มีโจรเทวดาบงการอยู่เบื้องหลังถึง 10 ล้านคนอย่างนั้นรึป่าว ถึงได้รัฐบาลห่วยแตกที่ไม่มีความรับผิดชอบประสิทธิภาพต่ำขาดวุฒิภาวะผู้นำเยี่ยงนี้...

nn ใช้ส่วนไหนคิดใช้ส่วนไหนตริตรองกับเสียงสำรอกสำรากที่ว่า “เศรษฐกิจประเทศเรากำลังวิกฤต” แต่ท่านผู้นำนั่งเครื่องบินหอบหิ้วภาคเอกชนปนคนกันเองอย่างภริยาและบุตรสาวข้ามน้ำข้ามทะเลแล้วไปชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย แต่กลับประกาศว่าจะไม่ “ปฏิรูป แต่ใช้วิธีปฏิบัติแบบค่อยเป็นค่อยไป...ยังไม่มีนโยบายปรับโครงสร้างปัญหาคาราคาซัง” อย่างจริงจัง ถามแทนติ่งแดงด้อมส้มจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวรอฟังแต่เสียงเคาะกะลาอย่างตรงไปตรงมาจาก “ท่านผู้นำหนูน้อยถุงเท้าแดง” นักลงทุนต่างประเทศเหล่านั้นเขามีสมองคิดหรือไม่โลกทุกวันนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์ เป็นยุค Globalization หรือยุคที่โลกไร้พรมแดนเขาจะประเมินไทยอยู่ในระดับไหน? ในเมื่อเสียงเห่าหอนกระโชกอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ว่า “ประเทศไทยกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ” แสนสาหัส "เพราะ“ม้าป่วย”มาตลอด 8-9 ปี แต่มีรายได้เหลือมากกว่าประมาณการกว่า 400,000 ล้านบาท” ... ย้อนแย้งแสดงความชัดเจนว่า รัฐบาลที่รับช่วงต่อจากรัฐบาลรปภ.โง่ไร้ประสิทธิภาพ มีแต่เส้นขนมจีนล้วน/บ่มิไก๊!?!?! นี่สิครับท่านผู้นำถึงจะสำรอกสำรากอย่างถูกต้องอย่างผู้มีสามัญสำนึกและชุดความคิดว่า เพราะพวกท่านเป็นรัฐบาลถือเป็นความซวยของประเทศ ไม่ใช่ร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านไม่ผ่านการพิจารณาเป็นกฎหมาย... การบอกว่าประเทศวิกฤตประชาชนอดอยาก ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน นักลงทุนจะมาลงทุนได้อย่างไร หรือเป็นความตั้งใจที่ต้องการแช่แข็งให้ประเทศ อยู่ใน “ระบอบทักษิณ” อีกครั้ง...

nn ไอ้ที่กระพือข่าวดีลของยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกาด้านไอทีฤๅจะเป็นเสียงผายลมกับกลิ่นความเจริญที่ไม่พึงปรารถนา ว่ากันตามจริง ดีลนี้ไม่ใช่เพราะท่านผู้นำเปิดเจรจาการค้าการลงทุน แต่แค่มาสานต่องานคั่งค้างของ “ลุงตู่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ที่ว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” มิใช่หรือ...nn

 

ไม้หน้าสาม