หนังสือพิมพ์ แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระเหมือนเดิม ท่ามกลางกลศึกแก่งแย่งอำนาจของ 3 ก๊กการเมือง แดง-น้ำเงิน-ส้ม หักเหลี่ยมเฉือนคม พลิกไปพลิกมา ฝุ่นตลบจนถึงนาทีสุดท้าย โดยไม่ละอายต่อสายตาของคนทั้งประเทศที่นั่งมองดูกันตาปริบๆ

...nn ในที่สุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผงาดนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สมใจอยาก ด้วยมติท่วมท้น 311 : 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ซึ่งต้องถูกบันทึกไว้อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะนี่คือ 1 ใน 5 ตามเงื่อนไข MOA ของพรรคประชาชน ฉบับที่เรียกว่า ดีลปีศาจ

...nn เมื่อ ถอดรหัสตัวเลข 311 เสียงออกมา น่าสนใจตรงที่ว่า เดิมทีมี 146 เสียง (รวม 8 งูเห่าเพื่อไทยแล้ว) ที่สนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯรัฐบาลเสียงข้างน้อย เมื่อบวกรวม 143 เสียงของพรรคประชาชน ก็เท่ากับ 289 เสียง นั่นแปลว่า ใน 22 เสียงที่งอกมาใหม่มาจากงูเห่าที่ไม่ปรากฏสัญชาติ ซุกตัวเงียบๆอยู่ในอุ้งมือสีน้ำเงิน แต่โผล่หัวไม่ได้เพราะมี MOA ค้ำคออยู่

…nn แต่กว่า เสี่ยหนู จะฝ่าด่านขึ้นโขยกเก้าอี้นายกฯ ได้ ก็ถูก ฝ่ายแดง ลากเข้าเกมทุบถองกลางสภาฯพอหอมปากหอมคอ ส่งสัญญาณว่า จากนี้ไปอีก 4 เดือน เพื่อไทย จะสวมวิญาณเป็นฝ่ายแค้น เดินหน้าล่อเป้าทำลายล้าง หนูน้ำเงิน-ส้มเท้ง อย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน

…nn ฉะนั้นความหวังที่จะเห็น รัฐบาลเสียงข้างน้อย เข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องชาวบ้าน วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาชายแดนไทย-เขมรนั้น อย่าไปคิดให้เสียเวลา เพราะ นายกฯหนู ที่เขาโหวตให้นั้น จะถูกชี้นิ้วบงการอยู่ 2 เรื่องหลักๆ คือ จัดทำประชามติแก้รัฐธรรม และยุบสภา

…nn ฉากต่อไป เมื่อเริ่มนับถอยหลัง 4 เดือน จับตาดูกันให้ดีๆ อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็คงจะได้เห็นใน ความวิปริตทางการเมืองยุค 3 ก๊กนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้หมด เพราะนี่คือความพิสดาร ในสมการ รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ต้องทำตามฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ต้องเอาตัวรอดเป็นวันๆ

…nn ที่พิสดารกว่านั้น ก็คือ กรณี ทักษิณ ชินวัตร อยู่ๆก็เผ่นขึ้นเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 กันยายน ไปโผล่อีกทีเมืองดูไบ รำลึก 17 ปีแห่งความหลังตอนหนีคดี ก่อนโหวตนายกฯไม่กี่ชั่วโมง และ ก่อนศาลฎีกาฯนัดพิพากษาคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 แค่ 3-4 วัน

...nnแม้เจ้าตัวออกมาอ้างว่า จริงๆตั้งใจจะไปหาหมอกระดูกที่สิงคโปร์ แต่ถูก ตม.กักตัวไว้ 2 ชม. ไปไม่ทันสนามบินเอกชนปิดก่อน ต้องเปลี่ยนแผนกลางอากาศไปหาหมอที่ดูไบแทน พร้อมยืนยัน จะกลับไทยแน่ไม่เกินวันที่ 8 ก.ย.นี้ เพื่อไปศาลเองวันที่ 9 ก.ย. แต่ใครจะเชื่อ??? 

...nn หนี-ไม่หนีจึงเป็นประเด็นร้อน ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ เพราะพฤติกรรมออกนอกประเทศท่าทางลุกลี้ลุกลน ลับๆ ล่อๆ พิกล เอาเป็นว่า ถ้าหนีจริง คราวนี้คงไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีก อับอายชั่วลูกชั่วหลาน อวสานตระกูลชินแต่ถ้ากลับมาจริง ก็ยังต้องลุ้นเหนื่อย

...nn ที่แน่ๆ คือ เมื่อ นายใหญ่ แพ้ศึก ครูใหญ่ อย่างราบคาบคราวนี้ นอกจากพลพรรคเพื่อไทยต้องเก็บกระเป๋าออกจากทำเนียบ ไปนั่งทำหน้าเขินๆเป็นฝ่ายค้านแล้ว ยังต้องลุ้นอีก 2 กระทอกว่า นายใหญ่จะกลับมาจริงไหม และวันที่ 9 ก.ย.นั้น ผลจะเป็นบวกหรือลบ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยชี้ว่า พรรคจะแตกหรือไม่

...nn สมรภูมิ บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว กลับมาเดือดอีกครั้ง หลัง ทหารเขมรเล่นวิชามาร ใช้แผนโล่มนุษย์ เกณฑ์ชาวบ้านปิดถนนหมายเลข 58 ฝั่งกัมพูชาบุกประชิดชายแดน ประจันหน้า ทหารไทย เพราะไม่พอใจถูกปักป้ายขับไล่ 170 ครัวเรือน ออกจากพื้นที่รุกล้ำอธิปไตยไทย

...nn แถมยังเหิมเกริม บุกอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ ถือท่อนไม้ผลักอก ขับไล่ทหารไทยยั่วยุสารพัด แต่ฝ่ายเรารู้ทันเกม นับหนึ่งถึงล้าน ใช้ความอดทน ยืดหยัดปกป้องแผ่นดินไทย แต่ถ้ามันถึงขั้น รุกเข้ามาทำลายป้าย เหมือนคราวรื้อรั้วลวดหนามที่ผ่านมา ต้องจัดให้หนักตามกฎอัยการศึก

…nn งานนี้ รั้วชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมาแล้ว หลัง ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เห็นชอบในหลักการ ให้สร้างบริเวณหลักเขตแดน 50-51 ระยะทาง 16 กม.บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว หวังว่านี่จะเป็น รั้วตั้งต้น เพื่อความมั่นคงของชาติในอนาคต

...nnเป็นไปได้อยากให้รีบทำรั้วเร็วๆ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว ดูจากการกระทำ เขมรเจ้าเล่ห์อยากได้ดินแดนไทยจนตัวสั่น ไม่กลัวแม้กระทั่งทหารไทยนับวันยิ่งป่าเถื่อน-เหิมเกริม แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ง่าย ต้องเห็นตรงกันระหว่าง 2 ประเทศ ที่สำคัญคือ ต้องผ่าน ครม.ก่อน แต่ตอนนี้ การเมืองไทยกำลังแย่งชามข้าว

...nn ที่น่าห่วงสุดตอนนี้คือ วิกฤตเศรษฐกิจ ได้ก่อตัวปะทุรุนแรง ชาวบ้านร้านค้าบ่นกันทุกหัวระแหง บ้านเมืองเข้าสู่ยุคฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพงของแท้ ขนาดร้านค้าดังๆระดับตำนานยังยืนไม่ไหว ย่ำแย่ไปตามๆ กัน อยู่ได้เฉพาะคนที่ไม่ได้เป็นหนี้

...nn สภาพัฒน์ ได้ออกมาเตือนการคลังไทยกำลังเปราะบางหนี้สาธารณะพุ่งสูง การจัดเก็บรายได้อยู่ในระดับต่ำ เสี่ยงโดนหั่นเรตติ้งไม่น่าลงทุน ส่อเข้าเกณฑ์เผาจริงภายในปี 2570 ส่วน หนี้ครัวเรือนไตรมาสแรกปีนี้หดตัวครั้งแรก แต่หนี้เสียพุ่งทะลุ 1.19 ล้านล้านบาท

...nn สุดท้ายคนจะแห่กันไปพึ่ง เงินกู้นอกระบบผ่านแอป ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง สารพัดกับดักร้านอาหาร ชาบู ตั๋วหนัง ตั๋วเครื่องบิน เติมน้ำมัน กำลังโตวันโตคืน เชิญชวนให้ก่อหนี้เกินตัว กลายเป็นระเบิดเวลาดันหนี้พุ่ง หากไม่มีมาตรการควบคุมเข้มงวด ก็เป็นปัญหาที่น่าห่วง

...nn ตัวเลข หนี้ครัวเรือนที่หดตัวรอบนี้ไม่ใช่ว่าคนไทยมีรายได้ใช้หนี้มากขึ้นจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ครัวเรือนไม่มีปัญญาก่อหนี้แล้ว ส่วนแบงก์พาณิชย์ก็ไม่ปล่อยกู้ง่ายๆ คราวนี้ก็หดตัวแรงเกือบทุกประเภทสินเชื่อ การจับจ่ายใช้สอยลดลงไปเยอะ เหลือแต่แบงก์รัฐที่คอยประคับประคองต่อท่อให้หายใจพะงาบๆ…สวัสดี

สิบแปดสิงห์