แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nnไปๆ มาๆ ปัญหา “แก๊งสแกมเมอร์” ดันกลายเป็นหนามที่คอยทิ่มอกรัฐบาล“อนุทิน” ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเข้ามาบริหารงานได้เพียงเดือนเศษๆ เท่านั้น....แต่อย่างน้อยที่สุด “สแกมเมอร์” ก็พ่นพิษ ฟาดหัวฟาดหางจนทำให้“วรภัค ธันยาวงษ์” ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ชิงลาออกจากตำแหน่งรมช.คลังทั้งๆ ที่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่ง และยังไม่ได้มีการสืบสวน สอบสวนใดๆ ทั้งสิ้น

...nn มีข่าวว่า วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ คณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “กมธ.ความมั่นคงฯ” ซึ่งมี “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ได้เล่น “ของใหญ่” โดยเตรียมที่จะเชิญ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ....ต้องทำความเข้าใจกันว่า “โรม” เกาะติดและติดตามปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย กรณีของ“บีไอซี กรุ๊ป” “บีไอซี แบงก์” และ “นายยิม เลียก” ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ…นอกเหนือจาก “อนุทิน” แล้ว กมธ.ความมั่นคงฯ ยังได้เชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย อาทิ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์, นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง, พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ, นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม, นายรีวิน เพทายบรรลือ

...nn “คชสีห์” ว่า เรื่องที่คณะกรรมาธิการ จะเชิญใครต่อใครนั้น สามารถเชิญได้ ส่วนเชิญแล้วจะมาหรือไม่ ถือเป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้นๆ

...nn วันวานนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจจากการเยือนเกาหลีใต้ เพื่อรวมประชุมเอเปก “อนุทิน” ได้กลับมาเริ่มงานด้วยการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ...“ฉัตรชัยพรหมเลิศ” ประธานกรรมการ ปปง. ให้ข้อมูลว่า ปปง. มีการจัดการกับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 800,000 บัญชีและมีเงินคงค้างในระบบกว่า 3,000 กว่าล้านบาท ขณะเดียวกันยังรายงานอุปสรรคปัญหาว่า การทำงานของ ปปง. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของไทยที่มีกฎหมายเฉพาะอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งเป็นมาตรฐานกฎหมายไทยที่ต้องปฏิบัติตามสากล ซึ่งถือเป็นปัญหาอุปสรรคขณะเดียวกัน อีกหนึ่งปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการคือ ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ ควรจะต้องมีระบบ AI หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามา เพราะ ปปง. จะต้องมีฐานข้อมูลรองรับ

...nn ขณะที่ตัวนายกรัฐมนตรีพูดแบบเปิดอก เปิดใจว่า “ภารกิจของ ปปง. ได้รับความสนใจจากประชาชนและสังคมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วงนี้ไม่มีอะไรดังไปกว่าสแกมเมอร์ อาชญากรรมทางการเงินและเทคโนโลยีซึ่งในธุรกรรมต่างๆ ของมิจฉาชีพ ธุรกิจประเภทนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้กับภารกิจของ ปปง. ที่ต้องฟอกเงินให้สะอาด เพราะเงินไม่ใช่เทา แต่ดำฟอกอย่างไรก็ไม่สะอาด…ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงาน ปปง. ต้องยอมรับว่ามีความกดดันจากประชาชนและสังคม ตลอดจนประชาคมนานาชาติ ในเรื่องของการดำเนินการปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “สแกมเมอร์” ซึ่งถ้าเราดำเนินการไม่เด็ดขาด ไม่เต็มที่ ไม่ใช่เพียงแค่จะถูกตราหน้าว่าไม่มีผลงาน แต่สิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นคือการถูกคว่ำบาตร ถูกกีดกัน และถูกกดดันจากนานาชาติ นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก”

...nn พรรคเพื่อไทย เปิดตัวกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไปเรียบร้อย โดยได้ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” อดีตรมช.คลัง เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนที่ “แพทองธาร” ที่ชิงลาออกจากตำแหน่งไปก่อนที่จะ “ตายหมู่” กันทั้งพรรค

...nn “คชสีห์” ไม่ได้คิดจะดิสเครดิต “จุลพันธ์” เพราะยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่ที่ปักใจเชื่อแน่ๆก็คือ “จุลพันธ์” น่าจะมีบทบาทและสถานภาพไม่ได้แตกต่างไปจาก “หมอชลน่าน” สมัยสวมหัวโขนเป็นหัวหน้าพรรค เพราะถึงที่สุดแล้วยังไงๆ พรรคเพื่อไทย ก็คือ สมบัติของ “ชินวัตร”!!

...nn นายกฯอนุทิน ยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่า จะอยู่ไม่เกิน 4 เดือนและจะยุบสภาแน่นอน แต่การเมืองก็คือการเมืองวันยังค่ำ เพราะแม้จะเพิ่งตกมาเป็นฝ่ายค้านได้แบบที่บาดแผลยังไม่ทันจะแห้งสนิท แต่พรรคเพื่อไทย ก็ขู่ฟ่อๆ เตรียมที่จะซักฟอกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทันที

...nn “สรวงศ์ เทียนทอง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แจงถึงความคืบหน้าการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่ามีการพูดคุยกันเบื้องต้น และคณะยุทธศาสตร์ของพรรคก็คุยกันอยู่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ไปกระทบต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องคำนึงถึงไทม์ไลน์ต่างๆ ด้วย แต่เรื่องนี้เคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องของพยานหลักฐานต่างๆ ต้องพร้อมที่จะอภิปราย....“คชสีห์” แปลไทยเป็นไทย ตีความได้ว่า จนป่านนี้ เพื่อไทยก็ยังไม่รู้เลยว่า จะอภิปรายรัฐบาลทั้งคณะ หรือรายบุคคล และยังไม่รู้ด้วยว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร แต่ขู่ไว้ก่อน!!...nn

คชสีห์