เปรียบเทียบระบบ OCR บัตรประชาชน: Open Source vs Commercial

เปรียบเทียบระบบ OCR บัตรประชาชน: Open Source vs Commercial

วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.31 น.
Tag :

 

ในยุคที่ธุรกรรมออนไลน์กลายเป็นหัวใจหลักของการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีธนาคาร การสมัครสินเชื่อ หรือแม้แต่การเข้าใช้บริการภาครัฐOCR บัตรประชาชนคือเทคโนโลยีสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสะดวกเหล่านี้ แต่เมื่อองค์กรต้องตัดสินใจเลือกโซลูชัน OCR สำหรับใช้งานจริง คำถามหนึ่งที่มักเกิดขึ้น คือควรเลือกใช้ระบบ Open Source ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือควรลงทุนกับระบบ Commercial ที่มาพร้อม API และบริการเสริม ?


คำตอบไม่ง่ายนัก เพราะประเด็นไม่ได้อยู่แค่ “ฟรี” หรือ “เสียเงิน” แต่ขึ้นอยู่กับความแม่นยำ การรองรับภาษาไทย ความเร็วในการประมวลผล และความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ซึ่งล้วนมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบในระยะยาว

1. ความแม่นยำ

หนึ่งในความท้าทายของ OCR บัตรประชาชน คือโครงสร้างข้อมูลที่มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ฟอนต์เฉพาะ และตำแหน่งข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่างแต่ละรุ่นของบัตร

  • Tesseract (Open Source)มีการรองรับภาษาไทยโดยตรง แต่การแยกแยะข้อมูลในฟอร์แมตของบัตรประชาชนยังมีข้อจำกัดสูง โดยเฉพาะเมื่อภาพมีความเบลอ แสงสะท้อน หรือมีคราบ รอยพับ
  • Google Vision AI หรือ AWS Textract (Commercial)มักให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยสามารถจับ Layout ของเอกสาร และตีความบริบทของข้อมูลได้ดีกว่า แม้ในภาพที่คุณภาพไม่สมบูรณ์

หากเป้าหมายขององค์กรคือความแม่นยำระดับใช้งานจริงได้โดยไม่ต้อง Manual Checking ซ้ำ ระบบ Commercial คือทางเลือกที่เหนือกว่า

2. ความเร็วและการประมวลผลแบบเรียลไทม์

อีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรขนาดใหญ่ต้องคำนึงถึงคือ “ความเร็วในการประมวลผล”

  • Tesseract แม้จะทำงานได้รวดเร็วในเครื่องเดสก์ท็อป แต่หากนำไปใช้บน Cloud หรือบริการ Web-Based ต้องพัฒนา Interface และระบบต่อเชื่อมเองทั้งหมด ซึ่งอาจเพิ่มภาระทางเทคนิค
  • ระบบ Commercial OCR มักมี API ที่รองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบ Cache, Load Balancing และรองรับการประมวลผลจำนวนมากพร้อมกัน (Scalability)

หากธุรกิจมีผู้ใช้งานจำนวนมาก หรือเน้นการใช้งานแบบออนไลน์เรียลไทม์ ระบบ Commercial OCR จะช่วยลดเวลาในการพัฒนาและตอบสนองความต้องการได้ตรงจุดมากกว่า

3. การรองรับภาษาไทยและการจัดการข้อมูลเฉพาะ

แม้หลายระบบ OCR บัตรประชาชน จะรองรับภาษาไทย แต่การรองรับในระดับ “รู้จักภาษา” กับ “เข้าใจบริบทของข้อมูลไทย” เป็นคนละเรื่องกัน

  • Tesseractรองรับภาษาไทยแบบพื้นฐาน แต่ต้องใช้เวลาในการฝึกโมเดลและ Preprocess ข้อมูล เช่น การปรับ Contrast การลบพื้นหลัง และการตัดขอบเอกสาร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • ระบบ Commercialส่วนมากมีโมเดล OCR ที่ได้รับการเทรนกับข้อมูลภาษาไทยจริงจำนวนมาก พร้อมมีฟีเจอร์เช่น Entity Extraction หรือ Smart Labeling ที่สามารถแยกเลขบัตร วันเกิด ที่อยู่ ฯลฯ ได้โดยอัตโนมัติ

            หากข้อมูลจากบัตรประชาชนต้องนำไปใช้ต่อในระบบหลังบ้าน (เช่น CRM, E-KYC) การมีฟีเจอร์รองรับข้อมูลเฉพาะแบบนี้คือจุดได้เปรียบของระบบ Commercial

สรุปจะเลือก OCR บัตรประชาชนแบบไหนดี ?

คำตอบคือขึ้นอยู่กับ “บริบท” ขององค์กร หากเป็นสตาร์ทอัพที่มีทีมพัฒนาเก่ง และต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะเริ่มต้น OCR บัตรประชาชน แบบ Open Source อย่าง Tesseract อาจตอบโจทย์

แต่หากต้องการระบบที่เสถียร แม่นยำ สามารถรองรับผู้ใช้จำนวนมากได้โดยไม่สะดุด ระบบ Commercial OCR คือทางเลือกที่ช่วยให้เดินหน้าได้เร็วกว่า 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top