วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568
พระราชทานพระบรมราชานุญาต
ปชช.ถวายสักการะ
เบื้องหน้า‘พระฉายาลักษณ์’ทุกวัน
เริ่มตั้งแต่27ตุลาคม2568
ให้เข้ากราบบังคมพระบรมศพ
ตั้งแต่9พฤศจิกายนเป็นต้นไป
สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวันตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมนี้ โดยให้เข้าถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ขณะที่ประชาชนเฝ้าส่งเสด็จฯเต็ม 2 ฝั่ง เส้นทางเคลื่อนขบวนเชิญพระบรมศพ จากรพ.จุฬาฯไปยังพระบรมมหาราชวัง ด้วยความเศร้าสลด
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง “การถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ระบุว่า ด้วยสำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดังนี้1.พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวัน เวลา 08.30 น.-16.00 น.เริ่มตั้งแต่จันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ในการนี้ ได้จัดสมุดหลวงลงนามถวายความอาลัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เริ่มให้ปชช.ถวายบังคมฯ9พ.ย.นี้
2.พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ทุกวัน เวลา 09.00 น.- 21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568
3.พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ราชสกุล คณะองคมนตรี คณะรัฐบาล คณะบุคคล ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ภายหลังการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 100 วัน จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ณ วันที่ 26ตุลาคม2568
ปชช.ถวายน้ำสรงฯ-ลงนามอาลัย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครจัดกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้มีส่วนร่วมในการไว้อาลัยถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงโดยนายอรรษิษฐ์สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ถึงแนวทางอันเกี่ยวเนื่องกับงานพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงส่วนภูมิภาค ณ สถานที่ซึ่งจังหวัดและอำเภอกำหนด (โดยอำเภอเมืองจัดร่วมกับจังหวัด)
สำหรับวันเดียวกันนี้ (26ตุลาคม) ดังนี้ 1.พิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.2.จัดโต๊ะและเก้าอี้สำหรับลงนามแสดงความไว้อาลัย พร้อมตกแต่งอาคารสถานที่ ด้วยผ้าดำขาว ให้เหมาะสมแก่พระเกียรติยศ 3.การแต่งกาย ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ชุดปกติขาว ประดับแขนทุกข์ สำหรับประชาชน แต่งกายไว้ทุกข์ กระทรวงมหาดไทยจึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในสถานที่ซึ่งจังหวัดและอำเภอกำหนดทั่วประเทศ
โคราชจัดพิธีแสดงความอาลัย
ที่ จ.นครราชสีมา บริเวณศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีอาสาสมัครรักษาดินแดนยืนชักธงเคารพธงชาติ จากนั้นได้ชักธงลงครึ่งเสา นอกจากนี้มีการติดผ้าแพรขาว-ดำ ก่อนจะเปิดให้พี่น้องประชาชน ลงนามแสดงความอาลัย และประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เวลา 08.30 น.นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รอง ผวจ.นครราชสีมาได้นำหัวหน้าส่วนราชาการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดตกแต่งอาคารสถานที่พร้อมต้อนรับพี่น้องประชาชนชุดแรก 10 คนที่สวมใส่เสื้อผ้าสีดำดำ-ขาวแต่งกายไว้ทุกข์ ทยอยเดินทางมาลงนามแสดงความไว้อาลัย โดยมีการจัดโต๊ะและเก้าอี้ สมุดลงนาม พร้อมกระทำพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีพี่น้องประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมพิธีด้วยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
สงขลาจัดสักการะพระบรมศพฯ
ที่โรงเรียนหาดใหญ่สมบูรณ์กุลกัลยา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ เป็นประธานในพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพและลงนามแสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนประชาชนใน อ.หาดใหญ่ ร่วมแสดงความอาลัยอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยนายเอก เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะร่วมพิธีในวันเดียวกันนี้อย่างเต็มที่
ชาวปทุมฯถวายน้ำสรงร่วมอาลัย
ด้านนายเอกวิทย์ มีเพียร ผวจ.ปทุมธานี น้อมนำดวงใจพสกนิกรจังหวัดปทุมธานี ทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และลงนามถวายความไว้อาลัย ที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนพี่น้องประชาชนใน จ.ปทุมธานี เข้าร่วมต่อเนื่องตลอดวัน
วังช้างอยุธยาฯนำช้างยืนสงบนิ่ง
ที่หมู่บ้านช้างอยุธยาแลเพนียดคล้องช้าง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูเกษมจันทวิมล (พระอาจารย์แดง) เจ้าคณะตำบลท่าวาสุกรี เขต 3 เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ พร้อมด้วย นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาแลเพนียด พร้อมควาญช้าง นำช้าง 9 เชือก ยืนสงบนิ่ง น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังเสด็จสู่สวรรคาลัย
นายลายทองเหรียญกล่าวว่า วังช้างแลเพนียดน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีพระเมตตาต่อชาวช้าง จึงนำช้าง 9 เชือก มายืนสงบนิ่ง ตั้งจิตอธิษฐานเป็นเวลา 93 วินาที น้อมถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ผู้ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรแห่งแผ่นดิน และทรงเป็นศูนย์รวมความรัก ความศรัทธาและความผูกพันของปวงชนชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงอุปถัมภ์การอนุรักษ์ช้างไทย ทรงห่วงใยช้างไทยทุกเชือก และทรงเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของช้างไทยอันเป็นสัตว์คู่แผ่นดิน พระมหากรุณาธิคุณนี้จะสถิตอยู่ในใจของเราชาววังช้างอยุธยาและประชาชนชาวไทยตราบนิจนิรันดร์
นายลายทองเหรียญ กล่าวต่อว่า ครอบครัวตนเคยรับสนองงานและนำช้างไปแสดงต่อหน้าพระที่นั่ง พระพันปีหลวง ทรงรับสั่งว่า ให้ดูแลช้างให้ดี เลี้ยงให้ดี ให้เชื่องอยู่กับคนได้ ตนได้รับรับคำแนะนำจากพระองค์มาปฏิบัติ ได้ขยายพันธุ์ช้าง เกิดในแผ่นดินพระนครศรีอยุธยา ได้ลูกช้างมากว่า 100 เชือก พระพันปีหลวง มีสายพระเนตรที่ยาวไกล จึงมีรับสั่งและแนะแนวทางการเลี้ยงดูช้าง โดยตนพร้อมกับช้างและควาญช้างจะไปร่วมเดินทางถวายความอาลัยส่งเสด็จสวรรคาลัย ที่พระบรมมหาราชวังในเร็ววันนี้
เชียงใหม่ร่วมจัดถวายความอาลัย
ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการร่วมถวายความอาลัย ว่าพสกนิกรชาวเชียงใหม่ ต่างแต่งกายชุดสีดำไว้ทุกข์ ทยอยเดินทางมาถวายน้ำสรงพระบรมศพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และลงนามถวายความอาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ภายหลังได้มีประกาศสำนักพระราชวัง สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต
กะเหรี่ยงKNUลดธงลงครึ่งเสา
ขณะเดียวกัน สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ประจำจังหวัดมะริด-ทวาย ประเทศเมียนมา ได้ประกาศลดธงครึ่งเสาเพื่อแสดงความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต พร้อมส่งสารแสดงความอาลัย มีใจความว่า “พวกเรา คณะผู้นำและสมาชิกแห่งสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และประชาชนชาวไทยทุกคน ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งจะทรงเป็นที่จดจำตลอดไปในฐานะพระราชินีผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อพสกนิกรชาวไทย ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเพื่อสร้างความหวังและความสุขให้กับชุมชน และทรงมุ่งมั่นส่งเสริมความงดงามของศิลปหัตถกรรมและวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป พระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระปรีชาญาณของพระองค์ เป็นดั่งแสงสว่างนำทางให้กับผู้คนมากมาย รวมถึงประชาชนชาวกะเหรี่ยงพวกเราขอร่วมไว้อาลัยกับประชาชนชาวไทยต่อการสูญเสียสมเด็จพระราชินีผู้ทรงคุณอันประเสริฐพระองค์นี้ด้วยความอาลัยยิ่ง”
รพ.จุฬาฯเปิดให้ปชช.ร่วมอาลัย
ขณะที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนพร้อมใจแต่งกายด้วยชุดสีดำเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่องด้วยความโศกเศร้า โดยเวลา 08.00-12.00 น.บริเวณโถงชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ทางโรงพยาบาลฯ ได้จัดสถานที่ให้ประชาชนถวายความอาลัยหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
น.ส.สุทธิศา ไตรกิศยาโสภณ กล่าวว่า ช่วงเช้าตนและพี่สาวได้เดินทางไปถวายน้ำสรงพระบรมศพ ที่ศาลาสหทัยฯมาแล้ว จากนั้นจึงเดินทางมายัง รพ.จุฬาฯ เพื่อลงนามถวายความอาลัยและจะรอส่งขบวนพระบรมศพเคลื่อนไปพระบรมมหาราชวังด้วย
“สมเด็จพระพันปีหลวง เปรียบเสมือนแม่ของแผ่นดิน สำหรับภาพความทรงจำที่ประทับใจคือ ภาพทรงงานหนัก ทรงเดินทางไปเยี่ยมราษฎร์พร้อมในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนพระองค์ก็เสด็จไปทุกที่ และนาทีแรกที่ทราบข่าวว่าพระองค์สวรรคต รู้สึกช็อก เสียใจ เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้ว่าสักวันต้องสูญเสียพระองค์แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เหมือนฟ้าฟาดกลางดวงใจ ประเทศสูญเสียแม่ของแผ่นดิน” น.ส.สุทธิศา กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
อดีตครูเผยใจหายสูญเสียพระองค์
ด้านนางอุไรวรรณ ไผทฉันท์ อายุ 63 ปี อดีตครูชาวปากน้ำ จ.สมุทรปราการกล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมากับเพื่อนครู เพื่อมาลงนามถวายความอาลัยที่ รพ.จุฬาฯ รู้สึกใจหายมากที่สูญเสียพระองค์ภาพความทรงจำต่อพระองค์ คือโครงการป่ารักษ์น้ำการส่งเสริมเกี่ยวกับการทอผ้า ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพ เราในฐานะครูได้นำคำสอนของพระองค์ท่านมาสอนนักเรียน พานักเรียนไปทัศนศึกษาศูนย์ศิลปาชีพฯ
ปชช.ถวายน้ำสรงฯที่ศาลาสหทัยฯ
ที่ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง ตามที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น.ได้มีคณะบุคคล ข้าราชการ และประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำ เข้ามาต่อแถวรอคิวเพื่อเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ และลงนามถวายความอาลัยน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ หน่วยราชการในพระองค์, นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อมด้วยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ณรงค์ เจียรวนนท์, นางปวีณา หงสกุล, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ, พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภราชสกุลเทวกุล เป็นต้น
ทั้งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าโดยประชาชนบางคนถือพระฉายาลักษณ์ และพระสาทิสลักษณ์แนบไว้ที่อก และขณะที่ถวายน้ำสรงฯ ประชาชนบางคนได้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจอย่างมิอาจสะกดกลั้นไว้ได้
ดญ.วัย10ขวบแสดงความอาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด.ญ.ฑิธารา มาเปี่ยม วัย 10 ปี หนึ่งในจำนวนผู้ที่เดินทางมายังศาลาสหทัยฯ ถือพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระพันปีหลวง กล่าวว่า ออกจากบ้านที่บางใหญ่ มากับคุณย่า ตอนตี 5โดยตั้งใจมาร่วมถวายสักการะน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ซึ่งวัยของตนอาจไม่ทันได้เห็นงานที่พระองค์ทรงทำ แต่คุณย่าเล่าให้ฟังบ่อยๆ และพาไปทำจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคม การได้มาครั้งนี้รู้สึกภูมิใจที่ได้มาแสดงความเคารพสมเด็จพระพันปีหลวง
ปชช.เฝ้ารับเสด็จฯตลอดเส้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง และตลอดแนวถนนราชดำเนิน ฝั่งศาลฎีกา มีประชาชนจำนวนมาก ต่างมาจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้าฯรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปในการเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จาก รพ.จุฬาฯ ไปยังพระบรมมหาราชวัง ซึ่งตลอดเส้นทางถนนอังรีดูนังต์จนถึงพระบรมมหาราชวัง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร โดยเส้นทางจะเริ่มต้นจาก 1.รพ.จุฬาฯ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนอังรีดูนังต์2.เลี้ยวขวาเข้าถนนพระรามที่ 4 มุ่งหน้าแยกสามย่าน 3.จากแยกสามย่านเลี้ยวขวา เข้าสู่ถนนพญาไท 4.จากแยกพญาไท เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนศรีอยุธยา 5.จากนั้นเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าสู่ถนนหน้าพระลาน และ 6.เข้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง