ปชช.หลั่งไหลกราบพระบรมศพ พระพันปีหลวง

ปชช.หลั่งไหลกราบพระบรมศพ พระพันปีหลวง

วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปชช.หลั่งไหลกราบพระบรมศพ

พระพันปีหลวง

มาจากทั่วทุกสารทิศ

ต่างร่วมใจน้อมสำนึก

พระมหากรุณาธิคุณ

ทรงช่วยเหลือพสกนิกร

 

ประชาชนจากหลายจังหวัด มุ่งมั่นตั้งใจเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง”ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการช่วยเหลือ พสกนิกรให้มีอาชีพมีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระโกศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2568 เวลา 08.00 – 21.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่สํานักพระราชวัง จิตอาสา 904 และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อย รวมถึงคอยให้คำแนะนำอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุ ผู้พิการและประชาชนตลอดเส้นทางเพื่อให้การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

สำหรับบรรยากาศวันที่ 13 ประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจำนวนมากพร้อมใจแต่งกายด้วยชุดสุภาพสีดำไว้ทุกข์หลั่งไหลเดินทางผ่านจุดคัดกรองที่ท้องสนามหลวงและเข้าพักยังจุดพักคอยที่อุโมงค์หน้าพระลาน ผ่านประตูมณีนพรัตน์ มุ่งหน้าเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง

นอกจากนี้ มีคณะบุคคลจากจังหวัดต่าง ๆ อาทิ จ. นครนายก จ.นครปฐม จ.ชลบุรี และจ.นครราชสีมา รวม 3,000 คน และมีคณะครูและนักเรียนโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ, กรมจเรทหารบก, บริษัท ซี.ที.เอส สแตนเลส จำกัด,บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) , มูลนิธิชัยพัฒนา , คณะครูและนักเรียนโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ฉะเชิงเทรา 800 คน , ท่านชายวิสิทธิ์ เสือสืบพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิพิทักษ์ไทย พร้อมคณะ เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ ช่วยเหลือพสกนิกรให้มีอาชีพมีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ด้าน นายประสาน ผ่องภิญโญ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลคลองตำหรุ จ.ชลบุรี กล่าวว่า วันนี้ชาวคลองตำหรุ เดินทางมาพร้อมประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี กว่า 750 คน เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณห่วงใยและเมตตาต่อชาวชลบุรี ทรงส่งเสริมผ้าไทย และผ้าพื้นถิ่น ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริมและยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ชาวคลองตำหรุสืบสานพระราชปณิธานผ่านงานผ้ามัดย้อมด้วยสีธรรมชาติ อย่างเปลือกต้นตะบูน เป็นมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ จ.ชลบุรี ปัจจุบันชุมชนจัดตั้งเป็นกลุ่มงานผ้ามัดย้อม มีผลิตภัณฑ์ทั้งเสื้อผ้าและของใช้ พัฒนาการออกแบบสวยงาม ผ้ามัดย้อมเป็นผ้าไทยอีกประเภท

“ชาวชลบุรี ภาคภูมิใจที่ได้เผยแพร่ความสวยงามของผ้าพื้นถิ่น พวกเราจะร้อยเรียงความรักที่มีต่อสมเด็จพระพันปีหลวง ร่วมพัฒนาผ้ามัดย้อมผ้าไทยต่อไป พระราชดำริด้านผ้าไทยไม่ได้ส่งเสริมอาชีพเฉพาะในชุมชน ทรงดำเนินโครงการศิลปาชีพฯ ในค่ายทหาร อย่างกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี ช่วยเพิ่มรายได้และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของกำลังพลอีกด้วย พระเมตตาแผ่ไพศาล ” นายประสาน กล่าว

ขณะที่ นายยุทธนา ฉ่ำธงชัย นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนและชาวอำเภอห้วยแถลงร่วมกับคณะประชาชน จ.นครราชสีมา กว่า 800 คน ออกเดินทางมาเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 20 พ.ย.2568 มาถึงพื้นที่สนามหลวง กรุงเทพฯ เวลา 7.30 น. ซึ่งมีคณะประชาชนจากหลายจังหวัดมากันมากมาย แต่ก็เฝ้ารอ จนได้เข้ากราบช่วงเวลา 11.30 น. ทุกคนเสียใจและคิดถึงพระองค์ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงติดตาม ในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครราชสีมา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่น ทำให้ชาวโคราชมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงเปิดโรงเรียนส่งเสริมการศึกษา เป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของชาวนครราชสีมาตลอดมา ทุกพระราชกรณียกิจเป็นมงคลต่อผืนดินจังหวัดนครราชสีมา

ส่วนนางกิตติมา ทะมานนท์ ชาวอำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี อายุ 70 ปี กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมากราบพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมาพักค้างบ้านลูกสาวที่ จ.สมุทรสาคร ก่อน รุ่งเช้าลูกสาวมาส่งที่จุดพักคอยสนามหลวง เพื่อรอคิวเข้ากราบฯ แม้ตนเองจะแขนหักจากอุบัติเหตุและต้องใช้บริการรถเข็น โดยมีจิตอาสาช่วยเหลืออำนวยความสะดวก ไม่เคยท้อและตั้งใจว่าจะต้องมากราบพระบรมศพอีก สมัยในหลวง รัชกาลที่ 9 สวรรคต มากราบพระบรมศพ 100 กว่าครั้ง ตนเคยเฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง ร.9 สมเด็จพระพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ ในพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ตอนนั้นปลาบปลื้มมาก ได้ชื่นชมพระบารมีใกล้ชิด รวมถึงมีโอกาสไปท่องเที่ยวชุมชนทอผ้า จ.สุรินทร์ ชาวบ้านสืบสานพระราชดำริอนุรักษ์ผ้าไทยจนทุกวันนี้ ผ้าไหมสุรินทร์งดงามมาก เป็นสินค้าที่มีราคา ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้านดีขึ้น ประทับใจทรงให้ความสำคัญต่ออาชีพทอผ้าไหมไทย ทรงเป็นมารดาแห่งผ้าไหมไทยอย่างแท้จริง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top