สองลีกดังยืนยันโปรแกรมการดวลแข้ง “รีสตาร์ท ซีซั่น 2019-20” สุดคึกคักทั้งศึกลา ลีกา สเปน และกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หลังจากทั้งสองประเทศนี้โดนพิษโคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 เล่นงานจนอ่วมอรทัย พร้อมกับเป็น2 ชาติในยุโรปที่โดนพิษการติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ อีกด้วย
ในการแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ของประเทศสเปน ที่คนทั่วโลกรู้จักในนามของ “ลา ลีกา” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ “ปริเมรา ดิบิซิออน” เปิดโปรแกรมรีสตาร์ทกลับมาเรียบร้อยแล้ว โดยจะเตะกันสนั่นหวั่นไหว 8 วันติดต่อกันประเดิมเกมแรก 11 มิถุนายนนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 18 มิถุนายน
แมทช์ประเดิมสนามตรงกับเวลาประเทศไทยกลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 ต่อเช้าวันศุกร์ที่ 12 เป็นเกมดาร์บี้แมทช์แห่งแคว้นอันดาลูเซีย หรือเซบีญ่า ดาร์บี้ (El Gran Derbi) ครั้งที่ 131 ของทั้งสองทีม ซึ่ง เซบีญ่า อยู่ในอันดับ 3 ลุ้นไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ เรอัล เบติส อยู่ในอันดับ 12 มี 33 แต้ม โอกาสไปเตะบอลยุโรปริบหรี่ เพราะตามโควตายูโรป้าอยู่ถึง 12 คะแนน แถมยังคงเผลอไม่ได้เพราะมีแต้มเหนือโซนตกชั้นอยู่ 8 แต้ม
จากนั้นในวันรุ่งขึ้น 2 เกมที่ต้องสู้กัน คือ กรานาดา น้องใหม่ที่ยึดเลขตัวเดียวอย่างต่อเนื่อง อยู่ในอันดับ 9 ดวลกับเกตาเฟ่ ทีมอันดับ 5 ที่มีลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างเต็มตัวซึ่งทำผลงานได้ดีต่อเนื่องสองปีติดๆ ที่อยู่ระดับท็อปของลีก ในการนำทัพของ โฆเซ่ บอร์ดาลาส ที่มี อังเคล กับ ไฆเม่ มาต้า ผลิตสกอร์รวมกันไปแล้ว 25 ประตูในฤดกาลนี้
ในคืนวันเดียวกัน “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย ที่อยู่ในอันดับ 7 เปิดสนามเมสตาญ่า ทำศึกเดอะ บาเลนเซี่ยน ดาร์บี้หรือ “Derby del Turia”กับ ”ค้างคาวน้อย” เลบันเต้ที่ใช้สัญลักษณ์ “กบ” แทนที่ค้างคาว
ต่อด้วยวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายนมีการแข่งขัน 4 คู่ โดย 2 ทีม จากแคว้นคาตาลุนญ่า แต่อยู่ในสภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจะลงสนาม เริ่มจาก 18.00 น. “ไอ้นกแก้ว” เอสปันญ่อล ที่อมบ๊วยจนปากชา และกองอยู่ก้นตารางมาตลอดฤดูกาล ต้องเจอกับ อลาเบส ผู้มาเยือนจากบิตอเรีย-กาสเตอิซ ในแคว้นบาสก์ ที่กำลังต้องการแต้มเพื่ออยู่รอด ขณะที่ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า คู่ปรับเอสปันญ่อล ซึ่งเป็นทีมนำฝูง และไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 27 ในประวัติศาสตร์ จะบุกไปเยือน “ชาวเกาะ” เรอัล มายอร์ก้า และอีกคู่ เลกาเนส พบ เรอัล บายาโดลิด
ปิดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน เกมแรกเป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุกแน่นอน นั่นคือ แอธเลติก บิลเบา ยอดทีม แห่งแคว้นบาสก์ จะเล่นในซาน มาเมส รับการมาเยือนของ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด จากเมืองหลวง โดยที่ทีมเยือนยังต้องการคะแนนเพื่อไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก โดยมีแต้มตามหลังทีมอันดับ 4 อยู่แต้มเดียว ส่วนเจ้าถิ่นนั้นอยู่กลางตาราง
ขณะที่ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่เสียบัลลังก์จ่าฝูงไปก่อนจะเกิดเหตุไวรัส จะพบ เออิบาร์ อีกหนึ่งทีมจากแคว้นบาสก์ ย่านอิปุรัว ที่หนีตายอยู่ในตอนนี้ และอีกคู่คือ เรอัล โซเซียดัด พบ โอซาซูนา
จากนั้นในเกมแมทช์เดย์ที่ 29 ก็จะเตะต่อทันทีวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2 คู่, วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 3 คู่, วันพุธที่ 17 มิถุนายน 3 คู่ และวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน อีก 2 คู่ โดยสองทีมที่ไล่ล่าแชมป์จะยังคงเตะคนละวันเหมือนเดิม นั่นคือ บาร์เซโลน่า พบ เลกาเนสในวันอังคาร และ เรอัล มาดริด จะทำศึกใหญ่กับ บาเลนเซีย ในวันพฤหัสบดี
ข้ามฟากมาที่การดวลแข้งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี จะเริ่มเตะเกมตกค้าง 4 เกม ในวันที่ 20-21 มิถุนายน ก่อนจะเตะแมทช์เดย์ที่ 27 ในระหว่างวันจันทร์ที่ 22-วันพุธที่ 24 มิถุนายนนี้ เท่ากับว่าจะดวลแข้งกัน 5 วันรวดในการกลับมาสู้กันอีกรอบ
โปรแกรมตกค้างนัดที่ 25 ในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน เกมแรกของการกลับมาจะอยู่ที่ตูริน ระหว่าง “กระทิงหิน” โตริโน่ เจอกับ “จัลโล่บลู” ปาร์ม่า ในเวลา 00.30 น.
ต่อด้วยเกมระหว่าง เวโรน่า กับ กายารี่ เวลา 02.45 น.จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน อตาลันต้า พบกับซาสซูโอโล่ เวลา 00.30 น. และ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ปะทะกับ “บลูเชอร์คิอาตี้” ซามพ์โดเรีย เวลา 02.45 น.
ทั้งหมดกลับมาสู้กันเพื่อให้เตะครบ 26 นัดทุกทีม
เกมตกค้างนี้จะทำให้การรีสตาร์ทกลับมามีความชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะทุกคู่ต่างมีความหมายต่อทุกทีมที่แตกต่างกันออกไป
โตริโน่ ต้องการทุกคะแนนเพื่อดิ้นรนหนีตาย ตอนนี้มีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนนเท่านั้น
ขณะที่ ปาร์ม่า กับ เวโรน่า ดูจะสบายใจได้ในระดับหนึ่งหลังจากขึ้นมาอยู่กลางตารางกันทั้งคู่ เช่นเดียวกับกายารี่ และซาสซูโอเล่
อตาลันต้า หากกำชัยได้ก็จะฉีกหนีช่องว่างระหว่างเข้าโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูโรป้า ลีก ออกไปเป็น 6 คะแนน
ส่วนเกมที่จูเซปเป้ เมียซซ่า จะเป็นการวัดกันคนละทิศเมื่อ อินเตอร์ ต้องการชนะเพื่อตามหลังจ่าฝูงเหลือ 6 คะแนน ตรงข้ามกันนั้น “ลา ซามพ์” ต้องการทุกแต้มเพื่อหนีการตกชั้น โดยตอนนี้พวกเขามีแต้มเหนือ เจนัว คู่ปรับร่วมเมือง และอีกทีมคือ เลชเช่ ที่กองอยู่ในโซนตกชั้นอยู่แค่แต้มเดียวเท่านั้น
จากนั้นจะมาถึงโปรแกรมนัดที่ 27 ที่แบ่งกันเตะทั้งหมด 3 วัน “ม้าลาย” ยูเวนตุส แชมป์เก่า และจ่าฝูงที่ตอนนี้มี 63 คะแนนบี้อยู่กับ “อินทรีแห่งกรุงโรม” ลาซิโอ ที่มีอยู่ 62 คะแนนตามติดแค่แต้มเดียว จะเตะห่างกัน 2 วัน
ยูเว่ จะประเดิมก่อนในวันจันทร์ ด้วยการบุกไปเยือนทีมกลางตารางพอดิบพอดีคือ โบโลญญ่า ที่อยู่อันดับ 10 ทำให้มีโอกาสหนีไปเป็น 4 แต้มอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะลาซิโอ ต้องบุกไปแบร์กาโม่เจอของแข็ง อตาลันต้า ในคืนวันพุธ
ดังนั้นถือว่าไม่ใช่งานง่ายเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งการโคจรมาปะทะกันเองระหว่าง ยูเว่ กับ ลาซิโอ จะเกิดขึ้นในคืนวันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.45 น.ซึ่งอาจเป็นเกมที่ตัดสินแชมป์ซีซั่นนี้ก็เป็นได้ ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่าการประกาศโปรแกรมแข่งขันหนนี้จะไม่มีการเตะในเวลา 18.00 น. หรือ 20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุ้นเคยของแฟนบอลไทยกับบอลอิตาลี โดยการเตะเร็วสุดคือเวลา 22.15 น.
สรุปโปรแกรมกัลโช่ รีเทิร์น จันทร์ที่ 22 มิ.ย.ฟิออเรนติน่า-เบรสชา (00.30), เลชเช่-มิลาน (00.30), โบโลญญ่า-ยูเวนตุส (02.45), อังคารที่ 23 มิ.ย., สปาล-กายารี่ (00.30), เวโรน่า-นาโปลี (00.30), โตริโน่-อูดิเนเซ่ (02.45), เจนัว-ปาร์ม่า (02.45), พุธที่ 24 มิ.ย. อินเตอร์-ซาสซูโอโล่ (00.30), อตาลันต้า-ลาซิโอ (02.45) และโรม่า-ซามพ์โดเรีย (02.45)
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี