พรีเมียร์ลีก หวดแหลกกลางสัปดาห์ มีเกมใหญ่คืนนี้ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
ศึกสองทีมสีน้ำเงินที่เป้าประสงค์จริง ๆ แล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะตามเนื้อผ้าแล้ว "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ สูงสุด ๆ คือ ท็อปโฟร์
ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ลงทุนไปแตะหลัก 222 ล้านปอนด์แบบนี้ สถานเดียวก็คือลุ้นแชมป์
กลายเป็นสถานการณ์พลิกผันไปมา ก่อนแมทช์จะเริ่มปะทะเผดียงแข้ง ปรากฎว่า เลสเตอร์ อยู่ที่ 3 มี 35 แต้ม ส่วน เชลซี อยู่ลำดับที่ 7 มี 29 แต้ม
เบรนดอน ร็อดเจอร์ส เมื่อไม่ค่อยมีคนสนใจ ก็จะทำทีมได้อย่างยอดเยี่ยม เขานำ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่แพ้ใครเลยใน 6 เกมหลังสุดทุกรายการ เอาชนะไปได้ 4 และเสมอ 2 นัด ล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านอัด เซาธ์แฮมป์ตัน มา 2-0
เกมนี้ข่าวดีได้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า และเซนกิซ อุนแดร์ ที่น่าจะพร้อมมีชื่อบนม้านั่งสำรอง
เปเรยร่า หายหน้าหายตาไปตั้งแต่ล็อคดาวน์ซีซั่นที่แล้ว และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญทำให้ เลสเตอร์ ต้องไปหานักบอลมาใหม่ พร้อมกับสูตรแผนที่ปรับหมากจาก 4-1-4-1 มาเป็น 3-4-2-1 ในนาทีนี้
เจมส์ จัสตัน และทิโมธี่ย์ กาสตานเญ่ ปักวิงแบ๊กได้อย่างลงตัว รวมไปถึง มาร์ค อัลไบรตัน ก็มาเล่นด้านขวาได้ด้วย ทำให้ตัวเลือกกลับมาล้นทีมแบบเหลือเชื่อ ขณะที่แนวรับ การบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของ คักลาร์ โซยุนคู ทำให้ทีมปรับมาเล่นหลัง 3 คน และตอนนี้ โซยุนคู กลับมาก็มาเล่นกับ จอนนี่ อีแวนส์ และตัวคล่อง ๆ อย่าง เวสลี่ย์ โฟฟาน่า
บุคลิกของ โฟฟาน่า ไม่เหมือนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เนื่องจากเขาเคลื่อนตัวได้เหมือนกับฟูลแบ๊ก และทำให้เพิ่มความรวดเร็ว กระฉับกระเฉงในแนวรับ บวกกับลูกเก่าของ อีแวนส์ งานของ แคสเปอร์ ชไมเคิล จึงดูมั่นคงขึ้นตามความเหนียวของแกเข้าไปอีก
การเล่นของ โฟฟาน่า ช่วยยกระดับแนวรับ เช่นเดียวกับตำแหน่งของ ยูริ ทีเลมานส์ ที่ถอยจากตำแหน่งกลางคู่ด้านขวาบน มาเป็นมิดฟิลด์คู่กลางกับ วินฟรีด เอ็นดีดี้ โดยคู่นี้ลงตัวมาก
เอ็นดีดี้ เหนียวแน่น คุมเกมรับได้ดี ขณะที่ ทีเลมานส์ เล่นง่าย แต่เดินขึ้นช่วยในแนวลึกได้ดี ทำให้ เจมส์ แมดดิสัน และฮาววี่ย์ บาร์นส์ มีคนมาต่ออยู่ตลอดเวลา
แมทช์นี้ เจมี่ วาร์ดี้ อาจจะต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แบรนดอน ร็อดเจอร์ส เตรียมเข็นลงแน่นอน
ทีนี้มันน่าสนใจตรงที่ "สปอร์ตไลท์"ได้จับจ้องมาอีกครั้ง คราวนี้ ร็อดเจอร์ส จะไปต่อได้หรือไม่
เมื่อต้องเจอกับของแสลงอย่าง เชลซี ที่ดวลแข้งกันทีไร ไม่ว่าจะเตะกันแบบไหน บทจบมักจะเสร็จ เชลซี ทุกที
หนสุดท้ายที่ เลสเตอร์ ชนะได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 14 ธันวาคม 2015 ด้วยสกอร์ 2-1 จากนั้น 12 เกม เชลซี ไม่แพ้เลย และเก็บกินได้ถึง 7 เกม
มุมนึงที่แฟนเลสเตอร์ พอจะเบาจะได้ก็คือ ผลมันจะออกตรงกลางไป 5 เกม รวมถึงทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ ดูเหมือนจะใหญ่ แต่เทอะทะไปหน่อยในเวลานี้
บางทีตัวเลือกเยอะจนเกินไป ทำให้การทำงานก็ยากลำบากเข้าไปอีก เหมือนกับ แลมพ์จูเนียร์ รักพี่เสียดายน้อง
เชลซี เพิ่งเรียกความมั่นใจกลับมาด้วยการบุกไปเฉือนเอาชนะ ฟูแล่ม ที่เหลือ 10 คน 1-0 จากประตูชัยของ เมสัน เมาท์ แต่ถ้าหากว่า "นายห้าง" โรบินสัน แกไม่ไปโดนใบแดงในช่วงท้ายเกมครึ่งแรก
แฟรงค์ แลมพาร์ด ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ผู้ปิดทองหลังพระ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้ จอร์จินโญ่ จะได้เสียบแทนประสานงานกับ มัตเตโอ โควาซิซ และเมสัน เม้าท์ ในระบบ 4-3-3 ส่วนแดนหน้ามีแนวโน้มว่าอาจจะดร็อป ตีโม แวร์เนอร์ ให้โอกาสผู้เล่นคนอื่นบ้าง เพราะเหมือนกับฟอร์มไม่ค่อยมา
คาดว่า ฮาคิม ซีเย็ค จะได้เล่นร่วมกับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และคริสเตียน พูลิซิซ
คำถามตัวเบ้อเริ่มยังคงอยู่ต่อไปกับ 2 แข้งเยอรมนี ทั้ง แวร์เนอร์ และไค ฮาแวตซ์ ที่เหมือนกับว่าแผนกับการเล่นยังไม่ลงตัวซะที นี่ก็ผ่านมาครึ่งซีซั่นแล้ว
เชลซี ดูเหมือนกลับมาได้ชุดที่ลงตัว แล้วก็กลับไปไม่ลงตัวอีกรอบ มีตัวจริงที่ไม่แน่นอน และแผนการเล่นกลับไปไม่ชัดเจนอีกครั้ง
นอกจากแดนหน้าที่สลับกันไปมาแล้ว แนวรับก็เปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด เริ่มลามลงล่างมาแล้ว
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ได้เล่นแบ๊กขวาแทน รีส เจมส์ รวมไปถึงคู่หูของ ธิอาโก้ ซิลวา ที่เกมก่อนคือ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แต่คืนนี้อาจจะเป็น ควร์ต ซูม่า
เกมลักษณะนี้ น่าสนใจเพราะกลายเป็น เลสเตอร์ ที่ดูเหมือนกับว่าเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้ว ส่วน เชลซี ต้องอาศัยศิลปะการเล่นส่วนตัวในการต่อสู้
มันก็กลายเป็นมีดีอยู่คนละอย่าง เพราะจากหน้ากระดานแล้ว เลสเตอร์ ถูกอ่านออกตั้งแต่เกมยังไม่เริ่ม ผิดกับ เชลซี ที่ยากต่อการคาดเดา
ประเด็นคือ ร็อดเจอร์ส ต้องไม่ไปปรับทัพตามคู่แข่ง เหมือนกับเวลานัดสำคัญ ๆ ที่แกมักจะพลาดแบบไม่น่าให้อภัยอยู่เสมอ
โอกาสแบบนี้น่าสนใจ เมื่อจ่าฝูงเป็น แมนฯยูไนเต็ด และคนมองภาพของ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าว่ามีปัญหามากมาย พร้อมเหวี่ยงความสนใจของเรือหางยาวที่พุ่งแรงอย่าง แมนฯซิตี้
แทบจะไม่มีใครให้ความสนใจ จิ้งจอกตัวนี้เท่าไหร่
เกมนี้แหล่ะ ที่น่าจะได้เห็นผู้คนทั้งหันทั้งเหลียวมามอง.................
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี