"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระเบิดฟอร์มยิงแหลกเป็นสถิติพรีเมียร์ลีก เมื่อถล่มเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือ 9 คน ขาดลอย 9-0 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เกิดสถิติมากมายในนัดนี้
ทำให้ แมนยูฯ มีแต้มเท่ากับจ่าฝูง แมนฯซิตี้ แต่ประตูได้เสียตามหลัง 5 ลูก และเล่นมากกว่า 2 เกม
อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำสถิติยิงประตูต่อแมทช์สูงสุด เท่ากับที่เคยยิง อิปสวิช ทาวน์ 9-0 เมื่อปี 1995 ส่วน เซาธ์แฮมป์ตัน ก็แพ้เละด้วยสกอร์นี้เหมือนกับซีซั่นก่อนที่พ่าย เลสเตอร์ ซิตี้
ถามหา"จุดเปลี่ยน"เกมนี้ก็เห็น ๆ กันอยู่ตรงที่ 72 วินาทีแรก เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องมาเหลือนักบอลแค่ 10 คน
อเล็กซองดร์ ยานเควิตซ์ ของเซาธ์แฮมป์ตัน ดันไปยันใส่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางแมนฯยู ทำให้โดนไล่ออกทั้งที่เกมเดินมาแค่ไม่เต็ม 2 นาที
แต่รายละเอียดของเกมนับจากนั้นก็คือ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล ก็ต้องถามตัวเองว่า ทำบอลให้โดนยิงเยอะ ๆ แบบนี้อีกครั้ง ได้ยังไง?!?!?!? ทำไมถึงไม่เปลี่ยนกองกลางลงไปเล่น และต้องรอให้โดนก่อนถึงครึ่งโหลจึงจะขยับตัว!?!?!
กุนซือ นักบุญ พาทีมแพ้บอลลีก 3 นัดติดต่อกัน เลสเตอร์ 0-2 (เยือน), อาร์เซน่อล 1-3 (เหย้า) และ แอสตัน วิลล่า 0-1 (เหย้า) จนอันดับหล่นมาที่ 11 ก่อนจะแพ้อีกในเกมนี้
รายละเอียดเชิงลึกก็คือ บรรดาตัวจริงเดี้ยงระนาว โดยเฉพาะ 2 แนวรับที่ยกระดับขึ้นมาได้เหลือเชื่อในปีนี้คือ แยนนิค เวสเตอร์การ์ด และ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส
ขณะเดียวกัน โอริโอล โรเมอู กองกลางที่ซัพพอร์ตการเล่นให้กับ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ก็เจ็บอีก บวกกับอีก 4 นักบอล ทำให้ตัวสำรองในเกมนี้ใส่ชื่อประตูไปถึง 2 คน ไม่ใช่ทีมใหญ่ขนาดนี้ก็มีปัญหา แม้แต่ทีมใหญ่เองปีนี้ก็มีปัญหาเช่นกัน
ที่สำคัญเกมนี้ ราล์ฟ ต้อง ราบคาบ เพราะโดนหมดทั้ง ใบแดง 2 ใบ, เสียจุดโทษ และโดนริบประตูจากวีเออาร์ นี่คือวันดับอีกครั้งของนักบุญ
อเล็กซองดร์ ยานเควิตซ์ โดนไล่ออกในวินาทีที่ 72
1-0 แอรอน วาน-บิสซาก้า นาทีที่ 17
2-0 มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 25
3-0 แยน เบดนาเร็ก ยิงประตูตัวเอง นาทีที่ 34
4-0 เอดิสัน คาวานี่ นาทีที่ 39
เช อดัมส์ ยิงเข้าแต่ วีเออาร์ ริบประตูเพราะแขนเสื้อล้ำหน้า นาทีที่ 53
5-0 อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล นาทีที่ 69
6-0 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ นาทีที่ 70
ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ แล้วให้จุดโทษ พร้อมไล่ แยน เบดนาเร็ก ออกจากสนาม นาทีที่ 84
7-0 บรูโน่ เฟร์นานเดส นาทีที่ 84 จุดโทษ
8-0 อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล นาทีที่ 87
9-0 แดเนี่ยล เจมส์ นาทีที่ 90+3
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าสนใจคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กลับเลือกที่จะ"ไม่เปลี่ยน" บรูโน่ เฟร์นานเดส ออกจากสนาม ทั้งที่บอลขาดลอยไปนานแล้ว
อาจจะต้องการให้ บรูโน่ เรียกความมั่นใจกลับคืนมา หลังจากฟอร์มหลังอาจจะมีดาวน์ลงไปบ้าง แต่ผลระยะยาวน่าสนใจกว่าหรือไม่ เพราะยังไงก็ต้องตะบันใช้ บรูโน่ ทุกเกมอยู่แล้ว
สุดท้ายเลือกจะพัก ลุค ชอว์, เอดินสัน คาวานี่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด
สมราคา "บรูโน่ เดอะ แบก" จริง ๆ และเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะที่ไม่ได้มองแค่ 3 คะแนน
แต่การเก็บเรื่องประตูได้กลับมาเยอะ ๆ เป็นผลดีมาก ๆ เพราะก่อนแข่ง ยูไนเต็ด ตามหลังเรื่องประตูได้เสีย กับ แมนฯซิตี้ ถึง 14 ลูก
ตอนนี้เหลือ 5 ลูกแล้ว
นี่คือที่มาของคำว่า 3แต้มครึ่ง
หลังจากโหลดแอบคนละครึ่งมาพักนึงแล้ว!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี