ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ แต่ละลีกลงทำการแข่งขันกันไป ร่วม 2 เดือน องบอกว่ามีแข้งซูเปอร์สตาร์หลายราย ไม่ว่าจะเพิ่งย้ายมาอยู่กับสโมสรใหม่ หรือแข้งที่เล่นให้กับทีมมานานแล้ว ต่างโชว์ฟอร์มได้ไม่เป็นดั่งที่แฟนบอลคาดหวังเอาไว้ ลองมาดูว่ามีใครกันบ้าง และพวกเขาเหล่านี้จะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้หรือไม่
l ลีโอเนล เมสซี่ : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
หนึ่งในดีลที่ทำเอาหลายคนช็อกตาตั้งเมื่อช่วงซัมเมอร์ เมื่อหนึ่งในสุดยอดแข้งตลอดกาลอย่าง เมสซี่ ต้องทำใจอำลา บาร์เซโลน่า ทีมที่เขาค้าแข้งมากว่า 21 ปี ด้วยน้ำตา จากสถานการณ์การเงินที่เข้าขั้นวิกฤติ ก่อนที่ ดาวเตะอาร์เจนไตน์จะย้ายมายังสโมสรมหาเศรษฐีของโลกอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
การย้ายมาที่นี่ หากดูจากไลน์อัพของนักเตะในทีมที่แนวรุกมีทั้ง เนย์มาร์, คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้ และ เมสซี่ นี่คือเต็ง 1 ที่ จะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และลีกเอิง ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรในการกลับมาทวงบัลลังก์ เมื่อลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นั้นเอาชนะคู่แข่งไปถึง 8 จาก 9 แต่หากดูที่ผลงานส่วนตัวของ ดาวเตะวัย 34 ปี ในเวลานี้แล้วต้องบอกว่าไม่ได้ดีเยี่ยมอย่างที่ทุกคนคาดไว้ เพราะหลังจากลงไปแล้ว 5 เกมเขายังคงทำประตูไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตามมันยังเร็วเกินไปที่บอกเราจะบอกว่า เมสซี่ นั้นเก่งกับ บาร์ซ่า เพียงทีมเดียว เพราะอย่างน้อยในถ้วยยุโรป เขาก็ประเดิมประตูแรกของตัวเองได้แล้วด้วยการซัด แมนเชสเตอร์ซิตี้ คู่แข่งร่วมกลุ่ม ซึ่งจากนี้หลังจบช่วงคัดบอลโลกกับอาร์เจนตินา หวังว่า เมสซี่ จะหาจุดลงล็อกกับสโมสรใหม่ของเขาได้ซักที
l แฮร์รี่ เคน : ท็อตแน่ม ฮ็อท สเปอร์
ไม่มีใครคาดคิดว่าการชวดย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อ ดาวยิงกัปตันทีมชาติอังกฤษ หนักหน่วงขนาดนี้ เมื่อถึงเวลานี้เขายังไม่สามารถยิงประตู หรือ แอสซิสต์ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้เลย ทั้งนี่ฤดูกาลก่อนเขาคือดาวซัลโว รวมทั้งยังเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ ทีมชาติอังกฤษ ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ด้วยการทำไปถึง 4 ประตูในทัวร์นาเมนท์
อาจจะด้วยสมาธิที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย หรืออาจจะเป็นเพราะการเข้ามาคุมทัพของ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต กุนซือ
คนใหม่ของ สเปอร์ส ก็ตามที ซึ่งแม้ว่าเขาจะทำประตูในถ้วยคาราบาวคัพ รวมไป ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ไปแล้วถึง 6 ประตูก็ตาม แต่นั่นจะไม่มีความหมายอะไรเลย หากในพรีเมียร์ลีก ดาวยิงวัย 28 ปี จะยังไม่สามารถกลับมาสู่ฟอร์มเหมือนที่เคย
เป็นมาได้
น่าสนใจว่าในสุดสัปดาห์นี้ เคน ที่จะลงสนามช่วยทีมชาติอังกฤษ ในเกมดวล อันดอร์รา และ ฮังการี เขาจะกลับมายิงประตู เพื่อเรียกความมั่นใจก่อนกลับไปช่วยสโมสรต้นสังกัดได้หรือไม่
l ราฮีม สเตอร์ลิ่ง : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
จากแข้งที่เป็นกำลังสำคัญ และรับค่าเหนื่อยระดับท็อปทรีของสโมสร ถึงเวลานี้ สเตอร์ลิ่ง ต้องกลายเป็นตัวสำรองของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างเต็มตัวเรียบร้อยแล้วในฤดูกาลนี้
ดาวเตะวัย 26 ปี ฟอร์มหลุดมาตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เขากลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งในเกมทีมชาติกับทัพ สิงโตคำราม ที่คว้ารองแชมป์ยูโร 2020 ซึ่งนั่นก็น่าจะดีพอที่จะทำให้เขารียกความมั่นใจกลับมาในซีซั่นนี้ แต่ทุกอย่างไม่เป็นเช่นนั้น เพราะตลอด 7 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก สเตอร์ลิ่ง เพิ่งได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 2 เกมเท่านั้น พร้อมกับยิงได้แค่ลูกเดียวในเกมถล่ม นอริช ซิตี้ 5-0
น่าสนใจว่าการเข้ามาของ แจ็ค กรีลิช ดาวเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาต้องเสียตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้ายในทีมไป และส่วนมาก เป๊ป มักจะจับเขาไปเล่นในตำแหน่ง False 9 แทนเสียมากกว่า ซึ่งในช่วงเวลานี้ สเตอร์ลิ่ง ยังไม่ได้ ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีม นั่นทำให้ต้องจับตาดูกันว่าท้ายที่สุดหากเขายังไม่สามารถเฟ้นฟอร์มเก่งกลับมาได้ จะโดนปลอยตัวออกจากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม หรือไม่ หลังเวลานี้มีรายงานว่า บาร์เซโลน่า ต้องการตัวไปร่วมทัพด้วย
l เจดอน ซานโช่ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หนึ่งในการย้ายทีมที่ฮือฮา และถือเป็นดีลที่แฟนบอลยูไนเต็ด รอคอยกันมาเนินนานก่อนประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้อย่าง ซานโช่ นั้นกลับไม่เป็นดั่งที่ใครต่อใครคาดหวัง
ใครต่อใครต่างบอกว่านี่คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ ที่จะทำให้ทัพ “ปีศาจแดง” ประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าตลอด 7 นัดที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 21 ปี ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่สุดยอดเหมือนสมัยที่ค้าแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ออกมาได้เลย ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่มีทั้งการทำประตู หรือ แอสซิสต์ แม้ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือหน้ายิ้มจะพยายามจับเขาเล่นทั้งตำแหน่งแนวรุกฝั่งขวา หรือ ซ้ายแล้วก็ตาม จนสุดท้ายต้องดร็อปเป็นตัวสำรองไปแล้ว
หลังจบพักเบรกทีมชาติน่าสนใจอย่างยิ่งว่า ซานโช่ ที่ยังคงไปด้วยแพสชั่นที่เต็มเปี่ยม จะสามารถกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วค่าตัวมหาศาล 73 ล้านปอนด์จะกลายเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอีกครั้ง
l ติโม แวร์เนอร์ : เชลซี
หากจะพูดถึงฟอร์มที่ดีที่สุดของ แวร์เนอร์ คุณต้อง ย้อนกลับไปในปี 2020 สมัยที่เขาค้าแข้งกับ แอร์เบ ไลป์ซิก เลย เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ เชลซี ด้วยค่าตัว 53 ล้านปอนด์ เรายังไม่ได้เห็นความเป็นยอดดาวยิงในตัวเขาอีกเลย
ไม่ว่าจะเริ่มต้นกับกุนซือคนเก่าอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด จนถึงคนปัจจุบันอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล ดูเหมือนว่าการปรับตัวให้เข้ากับการเล่นในพรีเมียร์ลีก นั้นอาจจะเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับเขาแล้ว แม้เกมล่าสุดจะเพิ่งยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ในเกมเอาชนะ เซาแธมป์ตัน 3-1 ได้ก็ตาม
ในฤดูกาลแรกกองหน้าเลือดเบียร์ลงเล่นในลีกไปถึง 35 นัด แต่ยิงได้เพียงแค่ 6 เม็ดเท่านั้น ส่วนในเกมยุโรปลงเล่นไป 12 นัดยิงได้ 4 ประตู โดยรวมทุกรายการในฤดูกาล 2020-2021 ยิงได้ 11 ประตูจาก 48 นัดที่ลงสนาม มันสร้างความผิดหวังให้กับสาวก “สิงห์บลูส์” เป็นอย่างมากถึงกับมีการโห่กองหน้ารายนี้กันเลยทีเดียว และยิ่งการเข้ามาของ โรเมลู ลูกากู ในซีซั่นนี้ทำให้โอกาสยืนหน้าเป้าของ แวร์เนอร์ นั้นแทบลืมไปได้เลย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือเขาโดนปฏิเสธประตูจาก VAR มาแล้วถึง 16 ครั้ง เรียกว่ามากกว่าประตูที่ยิงให้เชลซีได้ซะอีกก็ต้องดูว่าหลังจบช่วงทีมชาติ โชคจะเขาข้างเขาบ้างหรือไม่ หรือสุดท้ายการย้ายกลับไปยัง บุนเดสลีกา อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็เป็นได้
l อองตวน กรีซมันน์ : แอตเลติโก มาดริด
จากที่เคยพบฝันร้ายกับ บาร์เซโลน่า ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เวลานี้ กรีซมันน์ ได้กลับมาอยู่กับสโมสรอันเป็นที่รักของเขาอย่างทัพ “ตราหมี” อีกครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา น่าแปลกใจไม่น้อยที่เรายังไม่ได้เห็น กรีซมันน์ คนเดิม คนที่เคยยิง 133 ประตูจาก 254 นัด ให้กับ แอตเลติโก มาดริด เพราะถึงเวลานี้เขาเพิ่งยิงได้ประตูเดียวเท่านั้น จากการลงสนาม 10 นัด ให้กับทีม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าคงต้องให้ดาวเตะวัย 30 ปี ปรับตัวกับทีมอีกซักระยะ แม้ว่ากุนซือจะยังเป็น ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็ตาม แต่เพื่อนร่วมทีมหลายคนก็ไม่ได้อยู่กับเขาเหมือนเช่นเคยแล้ว
กรีซมันน์ จะเป็นกำลังของทีมชาติฝรั่งเศส ที่จะดวลกับ ทีมชาติสเปน ในเกม เนชั่นส์ ลีก วันอาทิตย์ ก่อนที่เขาจะกลับมายังสโมสรเพื่อเรียกหาฟอร์มเก่งกับทีมอันเป็นที่รักของเขาอีกครั้ง
_____ กาลอป _____
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี