ศึกฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปแอฟริกา ที่หลายคนร้องทักเรียกชื่อสลับสับเปลี่ยนเวียนหมุนลุนกันไป แล้วแต่ประดามี
แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์, แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์, แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ แถมยังมีชื่อเรียกกันสั้นๆ ว่า อาฟคอน ก็แล้วแต่ ซึ่งชื่ออย่างเป็นทางการมีว่า The 2021 Africa Cup of Nations (AFCON 2021 หรือ CAN 2021)
ระหว่างวันที่ 9 มกราคม ไปจนถึง 6 กุมภาพันธ์ 2022 ที่ประเทศแคเมอรูน
รอบสุดท้ายทั้งหมด 24 ทีม มีดังนี้ กลุ่ม เอ : แคเมอรูน, บูร์กินาฟาโซ, เอธิโอเปีย, แคป เวิร์ด, กลุ่ม บี : เซเนกัล, ซิมบับเว, กินี และมาลาวี, กลุ่ม ซี : โมร็อกโก, กานา,โคโมโรส, กาบอง, กลุ่ม ดี :ไนจีเรีย, อียิปต์, ซูดาน, กีนี-บิสเซา, กลุ่ม อี : แอลจีเรีย(แชมป์เก่า), เซียร์ราลีโอน, เอควอทอเรียล กีนี, ไอวอรี่โคสต์, กลุ่ม เอฟ :ตูนิเซีย, มาลี, มาริตาเนีย และแกมเบีย
การดวลแข้งครั้งนี้จัดทั้งหมด 5 เมือง ยาอุนเด้, เดาอูล่า,การูอา, บาฟุสซัม และลิมเบ้ รวมทั้งสิ้น 6 สนาม
เป็นรายการที่ถือได้ว่า รุงรัง และวุ่นวายสุดๆ เมื่อโลกใบนี้ต้องติดขัดมากมาย ทั้งเรื่องของโรคภัย และภัยของคนในโลก
สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน หรือ The Confederation of African Football(CAF) ยังคงเดินหน้าต่อไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากทั่วโลก อันเนื่องมากจากย้ายไปย้ายมาจนเข้าสู่กลางซีซั่น แถมยังมีโรคระบาดโควิดกลายพันธุ์ชื่อโอมิครอน ทำให้ความวุ่นวายหนักมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
กระทั่งสะเด็ดน้ำพอตัว เนื่องจาก “โอมิครอน” หรือ “โอไมครอน”มันไม่ได้กำเนิดในทวีปนี้ เพียงแต่นักวิทยาศาสตร์ของทวีปนี้ ค้นพบก่อนใครในโลกา
เมื่อมองลึกลงไปอีกก็คือ แคเมอรูน เจ้าภาพมีการติดเชื้อตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ 109,666 ราย หายป่วย 106,050 ราย และเสียชีวิต 1,853 ศพ ติดเชื้อใหม่ระบุถึงวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมาคือ 990 ราย
บางที่วันเดียวก็ติดกันมากกว่า แคเมอรูน ติดมาตลอด 2 ปีกันเลยทีเดียว
......มาว่ากันถึงรายการนี้ มีความวุ่นวายที่แฝงเอาไว้ ตั้งแต่ยังไม่มีการระบาดของโลก แต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์บนโลกนี้เป็นหัวหลัก
เดิมทีทัวร์นาเมนท์นี้ มีกำหนดจะเล่นในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2021 แต่ CAF ประกาศเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2020 ว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในช่วงเวลานั้น ให้การแข่งขันไปจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2021
จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2020 CAF ได้ย้ายการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ไปเป็นเดือนมกราคม 2022 ตามผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วทั้งทวีป โดยยังคงรักษาชื่อการแข่งขันแอฟริกัน คัพ ออฟ เนช่ันส์ 2021 ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุน
การเลือกเจ้าภาพครั้งนี้แท้จริงแล้ว ก็ไม่ใช่ว่า แคเมอรูน จะเป็นเจ้าภาพตั้งแต่แรก ในการประชุมคณะกรรมการบริหารของ CAF เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2014 ซึ่งมีชาติที่ของบิดเป็นเจ้าภาพประกอบด้วย แอลจีเรีย, กินี และไอวอรี่โคสต์
ขณะที่ สาธารณรัฐคองโก หรือ ดีอาร์ คองโก ได้ถูกปฏิเสธไปพร้อมกับ กาบอง และแซมเบีย
การเลือกเจ้าภาพถูกขยับออกไปให้มีการลงคะแนนกันในเดือนกันยายน 2014 และกลายเป็น 2 ชาติ ที่ไม่ได้บิดมีชื่อโผล่เป็นเจ้าภาพ นั่นคือ แคเมอรูน ที่ได้สิทธิ์ในปี 2019, ไอวอรี่ โคสต์ 2021 และกินี 2023
แต่มาถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2018 มีการประชุมบอร์ดนานถึง 10 ชั่วโมงที่อักกรา ประเทศกานา ก่อนจะตัดสินใจถอด แคเมอรูน ออกจากการเป็นเจ้าภาพในปี 2019 เนื่องจากความล่าช้าในความคืบหน้าจัดการแข่งขัน และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขหลายๆ ประการ
อาเหม็ด อาเหม็ด ประธาน CAF ในสมัยนั้น ระบุว่า จะต้องจัดหาเจ้าภาพใหม่ เพราะหนนี้ได้เพิ่มทีมรอบสุดท้ายจากเดิม 16 มาเป็น 24 ทีม แม้ว่า อมาจู พินนิค ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันของแคเมอรูน จะยืนยันว่า ยังไงก็จะจัดการแข่งขันให้จงได้ และจะไม่ยอมเสียสิทธิ์ไปอย่างแน่นอน
ทีแรกนั้น โมร็อกโก ทำท่าจะนำไปจัด ก่อนที่ อียิปต์ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ หลังจากเอาชนะแอฟริกาใต้ ในการลงคะแนนเสียง ที่เมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล ต้นปี 2019
หลังจากนั้น แคเมอรูนได้ตกลงกับทางด้าน CAF ใหม่เพื่อขอแก้ตัวในการเป็นเจ้าภาพในปี 2021 ซึ่งทางด้านองค์กรลูกหนังแห่งชาวแอฟริกาเห็นชอบและได้มีการขยับสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพใหม่
การตอบรับครั้งนี้ได้เสร็จสมบูรณ์เมื่อ 30 มกราคม 2019 มีการเคลียร์กันกับ อเลสซาน อูดัตตาร่า ประธานาธิบดีของไอวอรี่โคสต์ กันเลยทีเดียว
.......เวลาผ่านไปมีความวุ่นวายก่อนเกมเมื่อ เดอะ เวิลด์ ลีก ฟอรั่ม(WLF) องค์กรที่มีสมาชิกจาก 40 ลีกฟุตบอลอาชีพทั่วโลกรวมทั้ง 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ทั้งลาลีก้า, พรีเมียร์ลีก, กัลโช่ เซเรียอา, ลีกเอิง, บุนเดสลีก้า แสดงเจตจำนงไม่ปล่อยนักเตะในสโมสรต่างๆ ไปร่วมแข่งขันศึกแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม เพราะมองว่าเร็วเกินไป ไม่สมเหตุสมผล
คือต้องการประวิงเวลาให้นักบอลไปให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฟากฝั่ง ปาทริซ ม็อตเซเป้ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกันคนปัจจุบัน วัย 59 ปี ประกาศยืนยันเจตนารมณ์เดิมเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่า จะแข่งขันต่อไปอย่างแน่นอนไม่มีการเลื่อนกำหนดการดวลแข้ง หรือยกเลิกตามที่เป็นข่าวลือออกไป
“ผมจะอยู่ที่แคเมอรูนตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พร้อมกับภรรยาและลูกๆ ของผม เพื่อเป็นสักขีพยานการแข่งขันอันน่าทึ่งนี้คุณจะได้เห็นความมุ่งมั่นอย่างมากและมุ่งเน้นที่จะทำให้แน่ใจว่ามีความก้าวหน้าที่ดีการพัฒนาที่ดีของวงการฟุตบอลแอฟริกา เรากำลังจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับชาวแคเมอรูนในทัวร์นาเมนท์พิเศษ มันจะเป็นอาฟคอน(ชื่อย่อรายการ) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เราพร้อมที่จะแสดงให้โลกเห็นถึงสิ่งที่ดีที่สุดของฟุตบอลแอฟริกันและการต้อนรับแบบแอฟริกัน
ขณะเดียวกัน ซามูเอล เอโต้ อดีตยอดกองหน้าระดับโลก ที่ได้รับเลือกเป็นประธานสมาคมฟุตบอลแคเมอรูน เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้ออกมาวิจารณ์รายงานที่ระบุว่าการแข่งขันนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยุโรป ที่ดูเหมือนต้องการโจมตีอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าการระบาดใหญ่เกิดขึ้นมากมาย แต่สนามกีฬาในหลายเมืองในยุโรปลงเตะได้อย่างไม่มีปัญหา ทำไมฟุตบอลอัฟคอนจะเล่นที่แคเมอรูนไม่ได้?” เอโต้ ให้สัมภาษณ์กับ Canal+สถานีดังของฝรั่งเศส “หรือคุณกำลังพยายามจะบอกว่าเราจะถูกเลือกปฏิบัติมาโดยตลอด พวกเราชาวแอฟริกันไม่มีค่าอะไรเลยหรืออย่างไร ดังนั้น เราต้องทนกับสิ่งพวกนี้อีกนานแค่ไหนหรือเรื่องนี้ตัวผมในฐานะเป็นตัวแทนของประเทศ จะปกป้องการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันครั้งนี้จนจบทัวร์นาเมนท์”
แน่นอนที่สุดว่า ทุกฝ่ายย่อมมีเหตุผล ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ มุมมองย่อมแตกต่างกันออกไป ทั้งฝ่ายที่ได้รับประโยชน์ และฝ่ายที่เสียประโยชน์
บวกเพิ่มในยุคดิจิทัลแบบนี้ คนที่ไม่เกี่ยวอะไรเลย ก็มีสิทธิ์ที่จะคอมเมนท์มีส่วนร่วมได้ง่ายเพียงอยู่แค่หน้าจอ
มุมลบชัดๆ ก็คือ 1.สโมสรเสียขุมกำลังระหว่างทำศึก2.ผลประโยชน์เรื่องมูลค่า อาทิ การถ่ายทอดสด และ 3.ความหวั่นเกรงต่อโรค
ขณะที่ฝั่งกาฬทวีป ต้องการพิสูจน์ตัวเองให้โลกได้เห็น“มุมบวก” เพราะนี่คือทัวร์นาเมนท์ที่ 3 ของลงการฟุตบอล และรายการใหญ่รายการที่ 4 โลกใบนี้ที่คนมารวมตัวกันมากมายยุคลำบากเพราะการระบาด
ต่อจาก ฟุตบอลยูโร, ฟุตบอลโคปา อเมริกา และโอลิมปิกเกมส์
พวกเขาไม่ต้องการให้ใครมาด้อยค่าอีกต่อไป...........
บี แหลมสิงห์
รายชื่อนักเตะจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ไปร่วมแข่งขัน
อาร์เซนอล : ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง (กาบอง), โมฮาเหม็ดเอลเนนี่ (อิยิปต์), โธมัส ปาร์เตย์ (กาบอง)และนิโกลัส เปเป้ (ไอวอรี่ โคสต์)
แอสตัน วิลล่า : เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ (บูร์กินาฟาโซ), มาห์มูดเทรเซเก้ต์ (อิยิปต์)
เบรนท์ฟอร์ด : ทาริก โฟซู (กานา), ฌูเลียน ฌ็องวีเย (กินี), ฟรองค์ ออนเยก้า (ไนจีเรีย)
ไบรท์ตัน : อีฟส์ บิสซูม่า (มาลี)
เบิร์นลี่ย์ : แม็กซ์เวล คอร์เนต์ (ไอวอรี่ โคสต์)
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (เซเนกัล)
คริสตัล พาเลซ : จอร์แดน อายิว (กานา), ชีคคู คูยาเต้ (เซเนกัล), เจฟฟรี่ย์ ชลู๊ปป์ (กานา) วิลฟรีด ซาฮา (ไอวอรี่ โคสต์ )
เอฟเวอร์ตัน : อเล็กซ์ อีโวบี้ (ไนจีเรีย)
ลีดส์ : ไม่มี
เลสเตอร์ : ดาเนี่ยล อมาตี้ย์ (กานา), เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ไนจีเรีย), นอมปาลิส เมนดี้ (เซเนกัล), วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ (ไนจีเรีย)
ลิเวอร์พูล : นาบี เกอิต้า (กินี), ซาดิโอ มาเน่ (เซเนกัล),โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (อิยิปต์)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ริยาร์ด มาห์เรซ (แอลจีเรีย)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอริค ไบยี่ (ไอวอรี่ โคสต์), อาหมัด ดิอัลโล่ (ไอวอรี่ โคสต์)
นิวคาสเซิ่ล : ไม่มี
นอริช : ไม่มี
เซาแธมป์ตัน : มุสซา เฌเนโป (มาลี), โมฮาเหม็ด ซาลิซู (กาน่า)
สเปอร์ส : ไม่มี
วัตฟอร์ด : ปีเตอร์ อีเตโบ (ไนจีเรีย), อดัม มาซิน่า (โมร็อกโก),อิสไมล่า ซาร์ (เซเนกัล), วิลเลียม ทรูสต์-เอก็อง (ไนจีเรีย)
เวสต์แฮม : ซาอิด เบนราห์ม่า (แอลจีเรีย)
วูล์ฟแฮมป์ตัน : วิลลี่ โบลี่ (ไอวอรี่ โคสต์), โรแม็ง ซาอิสส์ (โมร็อคโก)
หมายเหตุ : มาร์เวลัส นากัมบา (ซิมบับเว) เจ็บถอนตัว, ฮาคิมซีเยค(โมร็อกโก) ไม่ลงรอยกับโค้ช และเอ็มมานูเอล เดนนิส(ไนจีเรีย) สโมสรไม่ปล่อยตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี