ทีมชาติเซเนกัล ผงาดคว้าแชมป์ทวีปแอฟริกา มาครองได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอลแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ครั้งที่ 33 หลังจากยิงจุดโทษชนะ “มัมมี่” ทีมชาติอียิปต์ ลงได้ 4-2 หลังจากเสมอกัน 0-0 ใน 120 นาทีในการเตะที่กรุงยาอุนเด ประเทศแคเมอรูน

● ‘ซูเปอร์มาเน่’นำทีมแชมป์ประวัติศาสตร์

เกมที่โอเลมเบ้ สเตเดี้ยม เซเนกัล มีโอกาสนำก่อน เมื่อได้จุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 7 แต่ ซาดิโอมาเน่ ซัดไปติดเซฟ โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล จากนั้นเกมต้องยืดเยื้อไปจนถึงช่วงต่อเวลา แต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องมาชี้ชะตาที่จุดโทษ ซึ่ง อียิปต์ เป็นฝ่ายยิงก่อน แต่ยิงไม่เข้าคนที่ 2 และคนที่ 4 ขณะที่ เซเนกัล ยิงเข้าทั้งหมด โดยคนยิงลูกที่ 4 คือ มาเน่ ที่ซัดเสียบตาข่ายเด็ดขาดให้ทีมกำชัย4-2 ครองแชมป์สมัยแรกที่รอคอยมากว่า 60 ปี หลังจากที่เข้าชิงเป็นครั้งที่ 3 โดยก่อนหน้านี้อกหักทั้งสองครั้งในปี 2002 แพ้จุดโทษ แคเมอรูน และหนก่อนแพ้ แอลจีเรีย 0-1 ปี 2019

ฟากฝั่ง อียิปต์ รอคอยแชมป์ต่อไปเป็นปีที่12 หลังจากเข้าชิงเป็นครั้งที่ 10 ครองถ้วยมาแล้ว7 ครั้ง ปี 1957, 19591, 1986, 1998, 2006, 2008 และ 2010

● แชมป์นี้ที่รอคอย-ยาวนานกว่า٦٠ปีเต็ม

อลิยู ซิสเซ่ ผู้จัดการทีมชาติเซเนกัล เปิดเผยว่า นี่คือช่วงเวลาที่เราทำงานกันอย่างหนักมาก เรามีความต้องการเดียวกันนั่นคือจุดมุ่งหมายสู่แชมป์ สิ่งที่เราทำได้มันยอดเยี่ยมมาก เพราะประชาชนชาวเซเนกัล ต้องการถ้วยแชมป์นี้ และรอคอยความสำเร็จนี้มานานกว่า 60 ปี วันนี้พวกเราทำสำเร็จแล้ว

ซิสเซ่ วัย 45 ปี เข้ามารับงานเมื่อปี 2015 เขาเป็นนักเตะชุดประวัติศาสตร์ของประเทศที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก สมัยแรก ปี 2002 และผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ภายใต้การนำทัพของ บรูโน่ เม็ตซู ผู้ล่วงลับ ซึ่ง ซิสเซ่ เป็นกัปตันทีมในชุดที่ยิงจุดโทษแพ้ แคเมอรูน 2-3 ในนัดชิงถ้วยนี้ปี 2002 ซึ่ง ซิสเซ่ เป็นคนยิงจุดโทษคนสุดท้ายพลาด ก่อนเขาจะนำทีมกลับมาเข้าชิงเมื่อครั้งที่แล้วแพ้ แอลจีเรีย แต่ก็กัดฟันสู้จนได้แชมป์

● บันทึกนักเตะชุดประวัติศาสตร์แข้งเตรังก้า

นักเตะชุดประวัติศาสตร์นี้ นำโดย ซาดิโอ มาเน่ แกนรุกจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เป็นตัวหลักในแนวรุกให้กับทีม โดย 11 ตัวจริงที่ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศ เป็นนักเตะที่เล่นอยู่ในยุโรปทั้งหมด และเล่นอยู่ในลีกใหญ่ 5 ลีกรวม 10 คนด้วยกัน ประกอบด้วยเอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูเชลซี, กองหลัง บูน่า ซาร์ร จากบาเยิร์น มิวนิค, คาลิลู คูลิบาลี่ กัปตันทีมจากนาโปลี, อับดู ดิยัลโล่ จากปารีส แซงต์-แชร์กแมง และซาลิอู ซิสส์ จากน็องซี่

กองกลาง เชคู คูยาเต้ จากคริสตัล พาเลซ, นอมปาลิส เมนดี้ จากเลสเตอร์ และอับดุล กานา เกย์ จากปารีส แซงต์-แชร์กแมง ส่วนแนวรุก ซาดิโอ มาเน่ เล่นร่วมกับ อิสไมลา ซารร์ จากวัตฟอร์ด และฟามารา ดิเยชิดูจากอลันยาสปอร์

ส่วนนักเตะที่เหลือ ประกอบด้วย เซนี่ เดียง (ควีนส์พาร์ค),ปาปา อาบู ซิสเซ่ (โอลิมเปียกอส),เกอิต้า บัลเด้ (กายารี่), บูลาเย่ เดีย (บียาร์เรอัล), ฮาบิบ ดิยัลโล่ (สตาร์สบูร์ก), โฟเด้ บัลโล่-ตูดเร่(มิลาน), โจเซป โลปี้ (โซโชซ์), อับดุลลาย เซ็ค(อันท์เวิร์ป), บับบ้า เดียง (มาร์กเซย), ปาเป้ มาตาร์ซารร์ (เม็ตซ์), อิบราฮิมา เอ็มบาเย่, อัลเฟร็ด โกมิส(แรนส์), มุสตาฟา นาเม่ (ปารีส เอฟซี), มามาดู ลอม(อลาเบส), ปาเป้ เกย์ (มาร์กเซย), มาเม่ เธียม (เกย์เซริสปอร์) และอลิอูน บาดาร่า ฟาตี (คาซ่า สปอร์ตส์)ซึ่ง ฟาตี เป็นคนเดียวที่ไม่ได้เล่นอยู่ในยุโรป และเล่นอยู่ในบ้านเกิด