ในขบวนการ “5 ลีกหลัก” นับว่า บุนเดสลีกาเยอรมนี ออกสตาร์ทกลับมา “ช้าที่สุด”

การต่อสู้ในซีซั่นนี้ทำท่าน่าสนุก หลังจากที่ อูนิโอน เบอร์ลิน ทีมขวัญใจแรงงานแห่งเมืองหลวง โชว์ฟอร์มเฉิดฉายอยู่บนบัลลังก์ฝูงเกือบสองเดือน

แต่ด้วยแรงเสียดทานต่างๆ ทำให้พวกเขาเริ่มเร่งไม่ขึ้น และสุดท้ายก็มาโดน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แชมป์เก่า 10 สมัย
ติดต่อกัน เหยียบมิดไมล์ควันขโมงกลับมายืนอยู่ที่เดิม และฉีกนำห่างออกไป หลังจากชัยชนะเหนือ ชาลเก้ 04 ถึงถิ่น 2-0 ก่อนปิด
ไปเตะบอลโลก

บาเยิร์นฯ คว้าชัยได้ 6 เกมติดต่อกันทำให้เตะ 15 นัด มีอยู่ 34 คะแนน และทีมที่ตามมาเป็นรองจ่าฝูงคือ “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” ไฟร์บวร์ก ที่มี 30 แต้ม “กระทิงเปลี่ยว” แอร์เบ ไลป์ซิก แรงแซงขึ้นมาอยู่ที่ 3 ที่ 28 แต้ม ส่วน อูนิโอน หล่นไปอยู่ที่ 5 แล้ว มี 27 แต้ม เท่ากับ “อินทรีแดงดำ” แฟร้งค์เฟิร์ต

ฝั่งท้ายตารางกลายเป็น ชาลเก้ที่รูดไปกองบ๊วย มีแค่ 9 แต้ม ผิดกับอดีตบ๊วยอย่าง โบคุ่ม ที่หนีไปแล้วเป็น 13 แต้ม ไล่ล่า สตุ๊ตการ์ท กับ แฮร์ธ่า เบอร์ลินที่มี 14 คะแนน

บุนเดสลีกา เป็นลีกที่พักยาวสุดเป็นเวลานานถึง 67 วัน หรือ 20 มกราคม 2566 เลยทีเดียว แต่ทีมตกรอบแรกฟุตบอลโลก ทำให้เหมือนกับหลายทีมได้ชาร์จพลังกันใหม่ โดยเฉพาะ บาเยิร์นมิวนิค จะไม่มี มานูเอล นอยเออร์ กัปตันทีมจอมหนึบที่ขาหักพักยาว

ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบขนาดไหนให้กับพี่เสือ เพราะตอนนี้เสริมทัพมาคนเดียวแล้วไม่ใช่ตำแหน่งที่ขาดนั่นคือ ดาลี่ย์บลินด์ กองหลังจอมเก๋าที่ยกเลิกสัญญากับ อาแจ๊กซ์

อาจเป็นเพราะการบาดเจ็บของ ลูก้า แอร์กนองเดซ ที่เดี้ยงในบอลโลกกับ นูสแซร์ มาซราอุย ที่แพทย์ตรวจพบว่ามีอาการหัวใจอักเสบหลังจากเขาติดเชื้อโควิดระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ต้องพัก 8 สัปดาห์

การกลับมาลงสนามคราวนี้ บาเยิร์นฯจะประเดิมเกมแรกคืนวันศุกร์นี้ ด้วยการยกพลบุกไปเยือน แอร์เบ ไลป์ซิก ที่เปลี่ยนกุนซืออีกครั้งมาเป็น มาร์โก้ โรเซ่อ และกำลังพาทีมก้าวขึ้นมาป่วนโควตายูซีแอล

ไลป์ซิก เองมีปัญหานับตั้งแต่ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ที่นั่งทำงานยาวนานที่นี่ 730 วัน แล้วกระโดดไปรับงานที่บาเยิร์น มิวนิค เมื่อ 30 มิถุนายน 2021 จากนั้นมา ทีมใช้กุนซือไปแล้ว 4 คน นั่นคือ เจสซี่ มาร์ช, อาชิม ไบเออร์ลอร์เซอร์,โดมินิโก้ เตเดสโก้ และมาถึงมือของ โรเซ่อ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

นับเป็นปีที่ 60 ในยุคของบุนเดสลีกาและเป็นปีที่ 113 ของฟุตบอลระดับอาชีพลีกของเยอรมนีปีนี้ ที่การต่อกรสูสีอีกครั้งในช่วงต้น และเชื่อว่าหลายคนยกเว้นแฟนพี่เสือ ที่ต้องการเห็นบัลลังก์บุนเดสลีกา เปลี่ยนมือ

เพราะตกอยู่ในอุ้มมือของ “เสือใต้” มาตลอด 10 ปีหลังสุด

ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่ปัจจัยมาจาก 2 ประการสำคัญจริงๆ

1.บาเยิร์นฯ มีมาตรฐาน

2.คู่แข่งรักษามาตรฐานไม่ได้

บาเยิร์นฯ ถูกขยับเข้าใกล้มาในทุกขณะ การได้แชมป์ใน 2 ปีหลังไม่ได้ง่าย ซึ่งมันง่ายก็แค่ “ผลลัพธ์” กับ “วิธีทำ” เดิมที่ทุกคนมองมากกว่า“วิธีการ”

คู่ปะทะตรงอย่าง ดอร์ทมุนด์ กับ ไลป์ซิก มีปัญหาด้วยตัวของพวกเขาเอง นั่นเพราะวิธีการทำทีมของพวกเขาคือทำมาแล้วก็ขายไป แต่ปีนี้ บาเยิร์นฯ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแนวรุก สุดท้าย “ฟอลส์ไนน์” ไม่ได้ดีไปกว่าการเล่นแบบ “มีหน้าเป้า”

ดังนั้น มันไม่ได้อยู่ที่คำพูดที่ว่า “เตะยังไง บาเยิร์นฯ ก็ได้แชมป์”

แต่มันอยู่ที่คู่แข่งด้วยว่า พวกคุณพร้อมขนาดไหนกับการบดบี้ขยี้แชมป์

l โปรแกรมบุนเดสลีกา นัดรีเทิร์น

l ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566

02.30 น. ไลป์ซิก-บาเยิร์นฯ

l เสาร์ที่ 21 มกราคม 2566

21.30 น. แฟร้งค์เฟิร์ต-ชาลเก้

21.30 น. โบคุ่ม-แฮร์ธ่า

21.30 น. อูนิโอน-ฮอฟเฟ่นไฮม์

21.30 น. โวล์ฟสบวร์ก-ไฟร์บวร์ก

(PPTV HD ช่อง 36 ถ่ายทอดสด)

21.30 น. สตุ๊ตการ์ท-ไมนซ์

00.30 น. โคโลญจน์-เบรเมน

l อาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566

21.30 น. ดอร์ทมุนด์-เอาก์สบวร์ก

(PPTV HD ช่อง 36 ถ่ายทอดสด)

23.30 น. กลัดบัค-เลเวอร์ฯ

บี แหลมสิงห์