กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกเกมส์” นั่นคือสัญลักษณ์ที่แสดงออกมาให้เราได้เห็นว่า มากกว่ากีฬาคือ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ

โอลิมปิกจะแข่งขันในปีหน้า 2024 ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม ค.ศ. 2024 นับเป็นการกลับมาเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโลกของเมืองหลวงแห่งฝรั่งเศส ครั้งแรกในรอบ 100 ปี

ปารีสเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1900 และครั้งที่สองเมื่อ ค.ศ.1924 จึงนับเป็นมหานครลำดับที่ 2 ต่อจากลอนดอนที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพเป็นครั้งที่ 3

แต่ไทม์ไลน์น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากโลกไม่ได้สงบอย่างที่คิด นอกจากปรากฏการณ์ธรรมชาติมากมาย และยังมีสงครามข้ามปีนั่นคือ รัสเซียบุกยูเครน

ประเด็นนี้ส่งผลมายังวงการกีฬา เพราะเกิดอาการ “เสียงแตก” มาโดยตลอด

นับเฉพาะในปีนี้ หลากประเด็นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

25 มกราคม คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC (International Olympic Committee) ออกมายืนยัน นักกีฬารัสเซีย และ เบลารุส 2 ชาติที่กำลังทำสงครามกันอยู่นั้นจะสามารถลงแข่งขัน โอลิมปิก 2024 ได้ตามแผนงานที่ได้ร่างเอาไว้

จากนั้นพวกเขาโดนกดดันอย่างหนักจากรัฐบาล35 ประเทศ รวมทั้ง สหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส ไม่ต้องการให้มาร่วมแข่งขัน

27 มกราคม ยูเครน พร้อมคว่ำบาตรกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 หากนักกีฬาของรัสเซียและเบลารุสได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมแข่งขันกีฬา

18 กุมภาพันธ์ ผู้แทนสหภาพยุโรป(อียู) วิจารณ์ ไอโอซีถึงความไม่เหมาะสมที่จะให้รัสเซียและเบลารุส สองชาติที่รุกรานยูเครน แข่งขันกับชาติอื่นๆ

21 กุมภาพันธ์ รัฐบาลอังกฤษ ประกาศว่ามีมากกว่า 30 ประเทศที่ไม่ต้องการให้นักกีฬาจากรัสเซีย และเบลารุส เข้าแข่งด้วยไม่ว่าจะแข่งกีฬาใดๆ ในโลกใบนี้

27 มีนาคม องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของสวิตเซอร์แลนด์ เดินเท้าจากบริเวณพิพิธภัณฑ์โอลิมปิกไปยังที่ทำการไอโอซี ระยะทาง 3.5 กม. เพื่อประท้วงไม่ให้นำ รัสเซีย กับ เบลารุส แข่งโอลิมปิก

อย่างไรก็ตาม 21 มีนาคม สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย หรือ OCA (Olympic Council of Asia) พยายามร่วมเปิดทางให้นักกีฬารัสเซียและเบลารุส สามารถลงแข่งได้ ด้วยการมาคัดเลือกในโซนเอเชีย

26 เมษายน สหราชอาณาจักร ประกาศยืนยันว่า นักกีฬาชาวรัสเซียและเบลารุส ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล จะต้องถูกตัดสิทธิ์ออกจากกีฬาระหว่างประเทศ ต่อไป

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องน่าสนใจก็คือ ในการประชุมผู้นำ Group of Seven (G7) ได้มีการให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้นักกีฬารัสเซียและเบลารุส “จะไม่มีทางปรากฏตัวเป็นตัวแทนของรัฐหรือประเทศของตัวเองในกีฬาระดับโลก”

G7 ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการเมือง ประกอบด้วยเจ้าภาพโอลิมปิก ฝรั่งเศส, อิตาลี และสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงผลกระทบของรัสเซีย ที่มีต่อกีฬาโลกในแถลงการณ์ร่วมที่ออกเพื่อตอบโต้สงครามในยูเครน

บรรดาผู้นำของทั้ง 7 ชาติ ซึ่งรวมถึงอังกฤษ, แคนาดา, เยอรมนี และญี่ปุ่น ได้มาประชุมร่วมกันเป็นเวลา 3 วันที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น โดยพวกเขาได้ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนยูเครนในการแสวงหาสันติภาพอันชอบธรรมที่มีรากฐานมาจากความเคารพต่อนานาชาติ, เคารพต่อกฎหมาย และกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติมต่อรัสเซีย ในฐานะที่เป็นผู้ที่สนับสนุนความพยายามในการทำสงคราม

ผู้นำต่างๆ ยังย้ำว่าพวกเขา “ให้ความสนใจ” กับผลกระทบของการรุกรานของรัสเซียที่มีต่อกีฬาระหว่างประเทศ

“เราให้ความสำคัญกับการแข่งขันกีฬาที่ยุติธรรมเช่นเดียวกับการสร้างความมั่นใจว่า นักกีฬาของรัสเซียและเบลารุสจะไม่ปรากฏตัวเป็นตัวแทนของรัฐของตนต่อหน้าผู้คนในโลกใบนี้”

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีอังกฤษริชี ซูแน็ก, นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา, นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี, นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอ คิชิดะ และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ได้รวมตัวกันเพื่อ การประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ที่ฮิโรชิมา

ถ้อยแถลงจากผู้นำทางการเมืองมีขึ้นในช่วงเวลาที่กีฬาหลายชนิดกำลังคลายข้อจำกัดในการเข้าร่วมของรัสเซียและเบลารุส ก่อนโอลิมปิกปีหน้าที่ปารีส

นักกีฬาจากทั้งสองประเทศส่วนใหญ่ถูกระงับจากกีฬาระดับโลกตามคำแนะนำของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

ขณะนี้ IOC ได้เปิดประตูให้พวกเขากลับเข้าสู่การแข่งขันระดับนานาชาติหลังจากมีคำตัดสินเมื่อปลายเดือนมีนาคม ว่าพวกเขาควรได้รับอนุญาตให้แข่งขันได้ หากพวกเขาไม่สนับสนุนสงครามในยูเครนและไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพ

การแข่งขันยิงธนู, พายเรือแคนู, จักรยาน, ฟันดาบ, กอล์ฟ, ยูโด, ปัญจกรีฑาสมัยใหม่, สเก็ตบอร์ด, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, ไตรกีฬา และมวยปล้ำ ได้อนุญาตให้นักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุสส่งกลับภายใต้เงื่อนไขที่แนะนำของ IOC

กรีฑา แบดมินตัน ขี่ม้า กีฬาปีนเขา และกระดานโต้คลื่น ต่างปฏิเสธที่จะผ่อนปรนข้อจำกัด

การตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมโอลิมปิก ยังไม่มีการตัดสินใจ แต่ประธาน IOC โธมัส บาค พูดเป็นนัยถึงการเข้าร่วมเมื่อแสดงความปรารถนาให้ผู้เข้าแข่งขันจาก
คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติทั้งหมด 206 แห่ง เข้าร่วมการแข่งขันในเมืองหลวงของฝรั่งเศสในปีหน้า

ท่าทีของ IOC ทำให้รัฐบาลยูเครนไม่พอใจที่ประกาศว่านักกีฬาจากประเทศนี้จะคว่ำบาตรการแข่งขันรอบคัดเลือกสำหรับปารีส 2024 ซึ่งมีชาวรัสเซียและเบลารุสเข้าร่วม

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี อ้างเมื่อเดือนที่แล้วว่า “รัฐผู้ก่อการร้ายจะทำทุกอย่างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองผ่านทางการกีฬา หรือใช้ขบวนการโอลิมปิกสากลเพื่อสนับสนุนการรุกราน”

บาค ได้ตำหนิคำวิจารณ์ของรัฐบาลยุโรปที่ต่อต้านท่าทีของ IOC ว่า “น่าสมเพช”

นอกจากนี้ บาค ยังโต้แย้งว่า IOC ได้พบ บางสิ่งบางอย่างที่อาจจะเป็น “จุดกึ่งกลาง” กับเรื่องราวนี้

หลังจากกล่าวว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง

ไอโอซี ถูกรัสเซียกล่าวหาว่าเป็น “สายลับของสหรัฐ” แถมยังโดนฝั่งยูเครน ระบุว่า พวกเขาเข้าข้างมอสโก

หมากเกมครั้งนี้ยังคงดุเดือดกันต่อไป และปวดหัวกันต่อไป

หนึ่งในภาพความวุ่นวาย และตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคงไม่พ้นการปะทะกันไป-มาของ สหพันธ์มวยนานาชาติ หรือ ไอบา ที่บ้านเราเรียก สมาคมมวยสมัครเล่น กับ ไอโอซี

เป็นการชกกันไขว้ไป-มาระหว่าง ไอโอซี, ไอบา และรัสเซีย

ไอโอซี ยึดสิทธิ์ ไอบา ตั้งแต่ผู้นำคนเก่าคือ ชิง กั๊วะ หวู, ไอบา ต้องการกลับมาทำงานร่วมกับ ไอโอซี ในโอลิมปิก มีผู้นำใหม่คือ อูมาร์ เครมเลฟ ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย แต่เป็นคนทำงานและเหมือนจะสนิทสนมกับ วลาดีมีร์ ปูติน ด้วยเหตุนี้ทำให้สมาชิกสำคัญบางส่วนถอนไปตั้งองค์กรใหม่ ชื่อเวิลด์ บ๊อกซิ่ง

ล่าสุด ไอบา ที่เพิ่งจัดศึกชิงแชมป์โลก ที่กรุงทาชเคนต์ประเทศอุซเบกิสถาน ยังได้หารือเกี่ยวกับแผนการคืนสถานะของหน่วยงานที่ถูกระงับการทำงาน เนื่องจากกำลังรอคำแนะนำของไอโอซี

อีกหนึ่งองค์กรที่ยื่นมือเข้ามาประสานนั่นคือ สหพันธ์มวยสากล (The International Federation for boxing) ได้ส่งรายงานความยาว 400 หน้า กล่าวถึงข้อกังวลด้าน
ธรรมาภิบาลที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์โลก โดยมีคณะกรรมการสื่อสารเฉพาะกิจที่นำโดยเลขาธิการทั่วไปและประธานเจ้าหน้าที่บริหารจอร์จ เยโรลิมปอส ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการหารือกับ ไอโอซี

“เราหวังว่าการตัดสินใจของ IOC จะตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง ไม่ใช่อยู่บนสมมุติฐาน” อูมาร์ เครมเลฟ ประธานไอบา กล่าว “จากฝั่งของ ไอบา เราได้พยายามอย่างเต็มที่
เพื่อแจ้งให้ IOC ทราบเกี่ยวกับความก้าวหน้าทั้งหมดในการปฏิบัติตามคำแนะนำของพวกเขา ผมขอยืนยันว่า เรามีความโปร่งใสและเปิดเผยอย่างเต็มที่ เราหวังว่าจะได้รับการประเมินอย่างยุติธรรมเกี่ยวกับความก้าวหน้าที่สำคัญของไอบา ในฐานะหนึ่งในสหพันธ์นานาชาติที่ดีที่สุด”

ที่ประชุม มีการลงมติว่า การประชุมคณะกรรมการไอบาครั้งต่อไป มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ท่ามกลางความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีการบรรจุมวยสากลในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2028

เนื่องจาก IOC ไม่วางใจในการทำงานและได้ยึดสิทธิ์ทั้งหมดไปตั้งแต่โอลิมปิกครั้งที่แล้วที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ

โลกออนไลน์ กับโลกแห่งความจริง มันต่างกันลิบลับ

ลับลวงพรางล้ำลึกกว่าเป็นไหนๆ.......

บี แหลมสิงห์