กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนจาก 16 สโมสรไทยลีก ได้ร่วมประชุมความพร้อมก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น โดยประเด็นสำคัญคือเรื่องลิขสิทธิ์ไทยลีกที่เวลานี้ยังคงไม่มีรายใดคว้าสิทธิ์ไปครอง ที่ห้องประชุม สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อวันอังคารที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ ส.บอล ได้เปิดประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ประจำฤดูกาล 2023/24 - 2026/27 จำนวนระยะเวลา 4 ปี และปิดรับประมูลเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2566 ทว่ายังไม่มีบทสรุปและยืนยันว่าจะเป็นเจ้าใด ที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ยิงสดแทนที่ของ AIS ที่กำลังจะหมดสัญญาในเดือน ก.ย.2566
ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นาย กรวีร์ ยอมรับว่าเวลานี้การประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไม่ได้ตรงตามเป้าหมาย กระทบอย่างชัดเจน ซึ่งมีผู้ยื่นการประมูลมาเพียง 50 ล้านบาทต่อปี
และมีที่ให้มูลค่ามากกว่าที่ระบุไว้เช่นกันแต่ทั้งหมดที่ได้ยังคงไม่เป็นไปตามเป้า จากเดิมที่เคยได้รับจาก AIS ตลอด 3 ฤดูกาลถึง 1,200 ล้านบาท
"ในการประชุมครั้งนี้ ก็ได้ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจคือ ให้ 16 ทีม บริหารสิทธิประโยชน์ในการจัดการแข่งขันกันเอง ลักษณะคือทั้ง 16 ทีมเป็นผู้ถือหุ้น รวมสมาคมฯ เป็น 17 หุ้น มาบริหารสิทธิประโยชน์ จัดการแข่งขัน ส่วนรูปแบบยังไม่ได้คุยกัน ซึ่ง บ.ไทยลีก จะนำเสนอให้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลเพื่อหาข้อสรุป และจะต้องผ่านสภากรรมการอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค.66"
"อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไทยลีกเปิด ส.ค.นี้ ก็ต้องเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะตั้งใหม่ หรือจะแยกไป ก็ต้องเดินต่อ ซึ่งเราอาจจะเปลี่ยนวิธีการ เป็นการนำโมเดลใหม่ ทำแพลตฟอร์มขึ้นมาเอง คือในรูปแบบที่สโมสรจะดำเนินการกันเอง ซึ่งก็ยังไม่ได้การันตีว่าตัวเลขจะมากน้อยเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิมอย่างไร เดี่ยวต้องรอสรุปอีกครั้ง"
ขณะที่ พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่าผู้ต้องการถือลิขสิทธิ์มีความต้องการไม่เหมือนกัน ลิขสิทธิ์ไม่ได้เป็นแพ็คเกจเดียวที่ครอบคลุมทั้งทีมชาติไทยและสโมสรเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ราคาลดหลั่นกันไป มี 2 บริษัทที่ยื่นเข้ามาแต่สมาคมฯไม่รับสามารถรับเงื่อนไขได้
“ส่วนเรื่องรายได้ ที่ไม่ได้ตามเป้าหมาย จะกระทบการแข่งขันหรือไม่นั้น เรื่องแข่งขันเรื่องหนึ่ง เรื่องสิทธิประโยชน์เรื่องหนึ่ง ได้จัดเตรียมเรื่องการแข่งขันและจัดเตรียมถ่ายทอดสดแล้ว เพียงแต่ว่าใครจะเอาไปถ่ายทอด ยังไงการแข่งขันเกิดขึ้นแน่นอน”
ทั้งนี้ในการโหวตให้ 16 สโมสร แยกมาจัดไทยลีก 1 เองนั้น ปรากฏว่า มี 11 สโมสรทราเห็นด้วย-เห็นด้วยอย่างมีเงื่อนไข ส่วนอีก 5 สโมสร งดออกเสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี