ไค ฮาแวร์ตซ์
นับตั้งแต่ตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการจนกระทั่งถึงวันหวยออกงวดประจำวันที่1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดเดินหน้าได้อย่างน่าสนใจและน่าจับตามอง
เมื่อหลายต่อหลายทีม “เลือกที่จะ”เสริมทัพในตำแหน่ง “กองกลาง” เป็นหลักใหญ่
ดีลใหญ่ๆ จากหลากหลายทีมในเมืองผู้ดี ราวกับว่า “ปักธง” และ“ปักหมุด” ในการเติม “ห้องเครื่อง” ให้กับทีมของพวกเขา หลังจากการต่อกรสุดโชกโชนในซีซั่นที่ผ่านมา
มีตัวอย่างให้เห็น และตอกย้ำว่า “แผงมิดฟิลด์” จะต้องมีการขยับปรับเปลี่ยนทั้งนักเตะ, กลยุทธ์ และแนวทางการเล่น นับตั้งแต่แผนที่ขอใช้คำว่า“บ้าคลั่ง” ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของ 3 แชมป์ หรือที่เรียกว่า เทรเบิลแชมป์ นั่นแหล่ะ
การปรับเปลี่ยนในแดนกลางของ แมนฯซิตี้ “ระหว่างซีซั่น” ในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหาของตัวเอง และการฉีกหนีคู่แข่งให้ได้ไกลที่สุด พร้อมกับรักษาระยะห่างให้ได้มากที่สุด หลังจากพวกเขาแก้ปัญหามาก่อนในซีซั่น 2022-23 ที่วางแผนเอาไว้ว่าจะมี “หน้าเป้า” แต่สุดท้ายไม่ได้ใครมาตามนัดหมาย เมื่อเป้าใหญ่อย่าง แฮร์รี่ เคน ถูกปฏิเสธเงินจำนวน 150 ล้านปอนด์
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แก้ลำด้วยการเล่นแบบไม่มีหน้าเป้า ใช้นักบอลสลับกันขึ้นไปยืนเป็นตัวบน เพราะมีแต่ “หน้าเคลื่อน” อย่าง กาเบรียล เชซุส ซึ่งพอเล่นจริงก็แทบจะให้ปักอยู่ทางขวา
ปรากฏว่า การแก้แผนที่วางไว้กลับเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
หลายสิ่งถูกซ่อนเอาไว้เมื่อคนทั่วโลกได้ดู “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เดินหน้าไปลุ้น 4 แชมป์ ก่อนจะจบลงด้วยการเป็น “คัพดับเบิ้ล” ยุติเส้นทางกับสองนัดสุดท้ายที่โดนพิษการเล่นต่อเนื่องของ ซิตี้ และการแพ้ต่อคู่ปรับสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด
กระทั่งซีซั่นที่ผ่านมา แมนฯซิตี้ ได้ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ยืนเป็นหน้าเป้าสมใจอยาก แถมยังได้แผนการเล่นทะลวงจากแนวลึกมาเพิ่มนั่นคือฮูเลี่ยน อัลบาเรซ แต่การปรับมิติการเล่นในแผงมิดฟิลด์ระหว่างซีซั่นที่พวกเขาดูเล่นแบบหมดพลังหลังจบบอลโลกประมาณเดือนเศษๆ แต่เมื่อระบบมันเข้า นักบอลรู้ว่าจะต้องทำอะไรในแท็กติก3-2-4-1
ก็ไม่มีใครจะหยุดพวกเขาได้อีกเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ บวกกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน “ทุกทีม” จะต้องเดินเข้าตลาด และสาดความสนใจเข้าสู่แดนกลางเป็นกรณีพิเศษ ไม่แปลกเมื่อดีลต่างๆ เกิดขึ้นตามที่คาด แถมบางดีลยัง “เกินคาด” กับตำแหน่งกองกลาง
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล, สเปอร์ส และอาร์เซน่อล แม้กระทั่ง แมนฯ ซิตี้ก็กระโจนเข้าสู่ตลาด เพื่อปรับสมดุลตัวเองอย่างเร่งด่วน หลังจาก เชลซี ได้จัดการทำไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมกับดีลของ เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ ตามด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เข้าตลาดมาเป็นทีมล่าสุด
มีเหตุผลในการซื้อทั้งหมด
ลิเวอร์พูล เข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่า เกิดปัญหาในซีซั่นที่ผ่านมา หลังจากกองกลางขาเป็นเปลี้ยและบาดเจ็บกันต่อเนื่องจนทีมพัง บวกกับการทำงานที่น่าประหลาดใจเมื่อปล่อยให้นักบอลหลายคนหมดสัญญา
เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ออกไปจากทีม ทำให้ต้อง “รีบซื้อ” และจะต้องมากกว่า 1 คน เนื่องจาก “ไม่ซื้อ” ตำแหน่งนี้มานานกว่า 3 ปี ก่อนจะจบที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางแชมป์โลกแห่งไบรท์ตัน
สถานการณ์บีบให้ซื้อ เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ธิอาโก้อัลคันตาร่า น่าจะเล่นไม่ได้เหมือนเดิมแน่ๆ บวกกับปริศนาของ ฟาบินโญ่ ที่ตอนแรกใครก็นึกว่าแพ้ท้องแทนเมีย ที่ไหนได้ อาการของเขากลายเป็นครึ่งๆ กลางๆ ยังดีที่การโตขึ้นมาของ สเตฟาน บาจเซติช ช่วงกลางซีซั่น กับ เคอร์ติส โจนส์ ในช่วงปลายซีซั่น รวมถึงการขยับให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขึ้นมาเล่นบทบาท “อินเวิร์ส แบ๊ก”
การดึง แม็ค อัลลิสเตอร์ ในราคานี้ 35 ล้านปอนด์ สามารถเล่นได้ทุกหมุดในแดนกลางในสไตล์ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัวนี้สามารถที่จะวางให้อยู่ตรงไหนก็ได้ ทีนี้อยู่ที่ว่า รอบข้างนั้นจะร่วมเล่นกันอย่างไร
ปริศนามากมายยังอยู่ นั่นคือจะ ซื้ออีกมั้ย หรือจะกล้าๆ ใช้ โจนส์ กับ บาจเซติช ตลอดทั้งซีซั่น
ฝั่ง สองทีมดังแห่งลอนดอนเหนือ ทั้ง อาร์เซน่อล ก็ขยับตัวพร้อมกับสเปอร์ส ด้วยการเปิดตัวนักบอลในเวลาใกล้เคียงกันแบบไม่ได้ตั้งใจ
มาเตโอ โควาซิซ
อาร์เซน่อล เซ็นตัวบุกอย่างไค ฮาแวร์ตซ์ ในวันเดียวกับที่ “คลับไก่”โชว์ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ อย่าง เจมส์ แมดดิสัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งสองทีมกำลังจะปรับสไตล์จากแดนกลาง
“ปืนใหญ่” กลายเป็นผู้ท้าชิงแชมป์เมื่อปีก่อน ต้องแยกก่อนว่า ปีที่แล้วเป้าหมายของพวกเขาถือว่า “เกินเป้า” เนื่องจากต้องการติด “ท็อปโฟร์” แต่กลายเป็น “ลุ้นแชมป์” ดังนั้น มิเกล อาร์เตต้า ไม่สมควรจะถูกตำหนิมากจนเกินไป
แต่ซีซั่นที่จะถึงนี้พวกเขาจะถูกจับตามองมากขึ้น กับดีลที่ดึงมาในระดับสองคนทะลุหลักเฉียดๆ 200 ล้านปอนด์
ดีลของ ฮาแวร์ตซ์ หลายคนอาจสับสนตรงที่จะเอามาเล่นทำไมเพราะมันอาจจะทับซ้อนกับทั้ง มาร์ติน โอเดการ์ด และเลอันโดร ทรอสซาร์ หรือกระทั่งแดนหน้าอย่าง กาเบรียล เฮซุส
ทั้งหมดมาจาก “ภาพจำ” เมื่อ ฮาแวร์ตซ์ มาเล่นในอังกฤษ เขาถูกสถานการณ์บีบให้ไปเล่นหน้าตัวหลอก หรือ ฟอลส์ไนน์ ก่อนจะพังประตูชัยจน เชลซี ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกแต่นั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัด
ฮาแวร์ตซ์ เติบโตและโด่งดังจากการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก แต่การที่เป็นคนสารพัดประโยชน์ ทำให้ถูกดันไปอยู่ตรงโน้นตรงนี้ แท้ที่ทรูแล้วเขานี่แหล่ะคือ จอมทัพในแดนกลาง
ประเด็นคือ ฮาแวร์ตซ์ จะถูกโขกลงในตำแหน่งของ กรานิต ชาก้า ที่อำลาทีมไป เมื่อเวลาทีมเล่นเกมบุก โดยหุบเอา โอเล็กซานเดอร ซินเชงโก้ เข้ามา
เป็นอินเวิร์ส แบ๊ก และปักกับ เดแคลน ไรซ์ที่กำลังจะมาด้วยค่าตัวสถิตินักบอลอังกฤษใหม่ 105 ล้านปอนด์
ไรซ์ คือนักบอลที่ทรงพลังทั้งร่างกายและจิตใจ เขาเจ็บน้อยมาก มีภาวการณ์เป็นผู้นำที่ดีหลังจากอยู่กับ มาร์ค โนเบิ้ล มานาน และด้วยวัยตรงนี้พลังที่มี เชื่อว่าจะเล่นได้ทั้งซีซั่นไม่เหมือนกับ โตมาส์ ปาเตย์ ที่ยืนระยะไม่ได้
เจมส์ แมดดิสัน
ปัญหาเดียวก็คือ เรื่องค่าตัวนี่แหละที่จะเล่นงาน ไรซ์ เพราะมันแบกไว้จนเต็มบ่า อีกทั้งการเป็นผู้มาใหม่ อาจจะเป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็นไม่ได้มากอย่างที่เคยเป็นกับ เวสต์แฮม
แดนกลางเมืองผู้ดีอีกคนที่โยกเข้าฝั่งเหนือของเมืองหลวงอย่าง เจมส์ แมดดิสัน ที่ต้องการจะลบฝันร้ายในการตกชั้นกับ เลสเตอร์ ซิตี้ จนมีทั้งเสียงติ และตำหนิในอาชีพการค้าแข้ง ได้เริ่มใหม่กับยุคใหม่ของ “ไก่เดือยทอง”
ว่ากันตามเชิงกับกองกลางที่สเปอร์สมีในตอนนี้ แทบจะการันตีว่า แมดดิสัน คือ 1 ใน 3 แดนกลางตัวจริงเนื่องจากวิธีการ, ความสามารถ และสไตล์แตกต่างกับอีก 4 คนชัดเจน
ปิแอร์ เอมิล-ฮอยเบียร์ก, โรดริโก้ เบนตานกูร์ก, โอลิเวอร์ สคิปป์ และอีฟ บิสซูม่า มีหน้าที่ในการแย่งตำแหน่ง เพื่อมาประสานกับ แมดดิสัน ทีนี้ต้องดูว่า แมดดิสัน จะประสานกับ เดยันคูลูเซฟสกี้ ได้เร็วขนาดไหน
เข้าฝั่งมาที่ แมนฯซิตี้ การเลือก มาเตโอ โควาซิซ เข้ามาแทนที่ อิลคาย กุนโดกัน ทันทีที่ย้ายออกไปแค่ 36 ชั่วโมง ถือว่าพอเหมาะพอเจาะพอดี เนื่องจากนักบอลอย่าง โควาซิซ เอง ไม่ใช่เป็นประเภทพึ่งได้ตลอดเวลา ต้องการการสลับเล่น เพื่อรักษาสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ
ทรงนี้ถือว่าเข้าแนวทางของ เป๊ป เนื่องจากเขาหมุนเวียนนักบอลเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
โควาซิซ ไม่ได้มีจังหวะจบดีเท่ากับ กุนโดกัน หรือกระหายในการเข้าในกรอบ แต่ด้วยวิธีการเล่น เบสิก ทักษะ โดยเฉพาะการคล้องบอลเอาไว้เพื่อรอจังหวะทำ เป็นสไตล์ที่ เป๊ป ชื่นชอบซึ่งตัวเขาสามารถเล่นได้ 2 หมุดหมาย ในระบบ 3-2-4-1
ยืนในตำแหน่ง “2” ได้แบบสบายๆ เป็นอาชีพหลัก แล้วไปยืนตำแหน่ง “4” เป็นอาชีพเสริม
ยิ่งราคา 25 ล้านปอนด์ มันคือราคา “ได้เปล่า” บนตลาดลูกหนังเวลานี้เป็นดีลที่ ซิตี้ รอหากำไร หลังจากมีหลายคนมองว่า พวกเขาไป “ป่วนตลาด”หลังจากยกเลิกการสนใจซื้อ เคแคลน ไรซ์ เข้ามาเสริมทีมดื้อๆ หลังจากมีข่าวแค่ไม่ถึงวันเท่านั้น
เมื่อหลายทีมเปิดตัวกองกลางไปแล้ว แมนฯยูไนเต็ด ก็อยู่ไม่ได้เช่นกันในการเสริมทัพตรงจุดนี้ เนื่องจากยิ่งเล่นยิ่งเปิดแผลในแดนมิดฟิลด์ หลังจาก เฟร็ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ด้วยโอกาสที่ผ่านมา พวกเขาไม่ควรจะได้ไปต่อในฐานะนักบอลตัวจริง
เมสัน เมาน์ท
กาเซมิโร่ จะต้องยืนเป็นตัวหลักต่อไป ร่วมกับ บรูโน่ เฟร์นานเดซ ซึ่งการใส่ เมสัน เมาน์ท เข้ามาทำให้ตัวเคลื่อนเกมด้านซ้ายที่ทีมขาดอยู่จะพอดี แต่นั่นหมายว่า ยูไนเต็ด จะต้องมีการปรับแนวทางการเล่นด้วยแทคติคที่จะต้องมีการเข้าทำที่ชัดเจนกว่าเดิม ไม่ใช่สไตล์ทิ้งยาวหาช่องตีหัวเข้าบ้านแบบที่ เอริค เทน ฮาก ทำในซีซั่นแรก
มันจะเกิดได้ในเกมที่เจอกับทีมที่เหนือกว่า แต่ต้องไม่ลืมว่า ยูไนเต็ด เจอกับทีมที่พวกเขาเหนือกว่ามากกว่าเป็นรอง
สิ่งสำคัญก็คือ เมาน์ท มาขนาดนี้จะต้องเล่นตัวจริงแน่ๆ ทำให้กองหลัง จะต้องขยับยืนชิด กาเซมิโร่ มากกว่าเดิม เนื่องจากตัวรับจะเหลือรวมทั้งหมด 5 คน เนื่องจากแนวรุกด้านบนไม่มีใครลงมาช่วยด้วยแน่ๆ
อีกทีมที่กลายเป็นที่จับตามองขึ้นมาในการยกระดับทีมขึ้นสู่ยอดเสาอย่าง “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็จัดการซื้อตัว ซานโดร โตนาลี่ เข้ามาทำงานในพื้นที่กลางสนามกับ บรูโน่กิลมาไรซ์ และโชลินตอน
การเข้ามาตรงนี้ทำให้ ยกระดับวิธีการเล่นของทีม เมื่อจะเปิดทางให้ บรูโน่สามารถมีอิสระในการเล่นเกมรุกได้มากขึ้น เมื่อ โตนาลี่ เป็นสไตล์ที่วิ่งลงมาถึงหน้าประตูตัวเอง และหาจังหวะในการตะบึงไปข้างหน้า โดยอ่านการเล่นของคนข้างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้คนที่เล่นเคียงข้าง บรูโน่ ไม่ว่าจะเป็น ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, จาค็อป เมอร์ฟี่ย์, โจวิลล็อก ไม่สามารถเล่นได้ในมิติต่อเนื่องแบบนี้แน่
การเข้าบอล การวิ่งเข้าหาสุดระห่ำของ โตนาลี่ ในสไตล์ที่เขาเล่นที่หลายคนบอกว่าเป็น อันเดรีย ปิร์โล่ แต่จริงๆ เขาคือร่างผสมของ อันโตนิโอ คอนเต้ กับ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ถ้าปรับด้วยได้ และไม่โฮมซิกไปซะก่อน
ถือว่า น่าดูชมมาก
นี่คือ “ยกแรก” ของตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีก ที่น่าสนใจว่า การเสริมกองกลางกลายเป็นหลักใหญ่ในปีนี้ ขนาด แอสตัน วิลล่า ที่ว่ากันว่า มีกองกลางให้เลือกหลายคน ยังต้องกลั้นเสริมยูริ ทีเลมานส์ ที่เล่นได้ว่างเปล่ามากๆ ในปีทีผ่านมาเข้ามาอยู่ในทีมด้วย
อย่างน้อยก็ช่วยยกระดับ และช่วยขู่ตัวอื่นๆ ให้ขยับฟอร์มไปในตัว
เช่นเดียวกับบรรดาพวกยักษ์ใหญ่, ยักษ์เล็ก และยักษ์หลับ ให้กลับมาสู้กันในซีซั่นที่จะถึงนี้
เอาเข้าจริง น่าจะเปิดซีซั่นวันพรุ่งนี้เลยก็ดีนะ....ตื่นเต้นจริงๆ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี