คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านฟุตบอลและเทคนิค (IFAB) ของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งประกอบด้วยอดีตผู้เล่น โค้ช และผู้ตัดสิน ได้จัดการประชุมครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาที่สำคัญในวงการ

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการตกลงกันว่าควรนำ VAR เข้ามาแทรกแซงกรณีใบเหลืองที่สอง ซึ่งควรจะเกิดขึ้นทันการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโกในปีหน้า

ขณะเดียวกันประเด็นอีกเรื่องที่กำลังแรงมากในปีนี้ก็คือ “ลูกทุ่ม”

สมาชิกฝ่ายกฎระเบียบฟุตบอล กำลังพิจารณามาตร “การทุ่มไกล” ซึ่งกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ใน พรีเมียร์ลีก อย่างรวดเร็ว โดยจะความเป็นไปได้ในการ “จำกัดระยะเวลา” ที่ผู้เล่นสามารถใช้เวลาก่อนการทุ่มบอลเข้าสนาม เพื่อเพิ่มระยะเวลาที่ลูกบอลอยู่ในสนามระหว่างการแข่งขัน

แม้ว่าจะยังไม่มีการเสนอกฎหมายเฉพาะเพื่ออนุมัติ แต่เป็นที่เข้าใจกันว่ามาตรการควบคุมการทุ่มบอลเข้าสนามจะคล้ายกับกฎที่มีผลต่อผู้รักษาประตู และระยะเวลาที่ผู้รักษาประตูสามารถถือบอลได้ เพราะค่าเฉลี่ยมันนานมากเกินไปเมื่อเทียบกับการถือบอล “8 วินาที” ของผู้รักษาประตู แต่ตัวอย่างเกมระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด กับ ลิเวอร์พูล นั้น มีการถือบอลก่อนทุ่มของ เบรนท์ฟอร์ด นานถึง 55.8 วินาที

สอดคล้องกับที่ BBC และ OPTA เปิดเผยสถิติ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2025-26 ผ่านมา 9 นัดแล้ว และจนถึงตอนนี้การยิงประตูจากลูกนิ่งกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก ประกอบด้วย ลูกฟรีคิก, ลูกทุ่ม และลูกเตะมุมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จนปัจจุบัน อาร์เซนอล นำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนนำ 4 คะแนน ทั้งที่ยิงได้เพียง 5 ประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์

กลยุทธ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่นิยมในสภาพสนามที่เปียกชื้นของบอลอังกฤษตั้งแต่ยุคอดีต บัดนี้กลับกลายเป็นเทรนด์ฮิตสำหรับทีมชั้นนำของลีก สถิติสูงสุดคือ 19% ของประตูทั้งหมดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มาจากลูกเตะมุม (45 จาก 241 ประตู) ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน ซึ่งสูงกว่าปีอื่นๆ เกือบ 5 เปอร์เซ็นต์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นทีมที่ยิงประตูได้ทั้งหมดจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ กล่าวว่า เขาปกป้องสิทธิ์ของผู้จัดการทีมในการจัดการทีมตามรูปแบบแท็คติกที่เหมาะสม และไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์แนวโน้มที่กำลังเติบโตนี้ แต่รู้สึกได้ว่า ทีมของเขามีปัญหาทุกครั้งเมื่อเจอกับบอลในลักษะนี้

“เป็นเรื่องจริงในซีซั่นนี้ ที่หลายๆ ทีมใช้ทุกการทุ่มบอลบอลเสมือนกับว่า มันคือลูกเตะมุม และให้ผู้เล่นเกือบทั้งทีมแห่กันเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษ มันทำให้เราเล่นได้แย่มากตอนเจอ เบรนท์ฟอร์ด หรือเกมที่ ลิเวอร์พูล ต้องเจอในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งทุกวันนี้ลูกตั้งเตะต่าง ๆ อันตรายมาก ผมจำได้เมื่อตอนที่ ฌอน ไดช์ อยู่กับ เบิร์นลีย์ เขาเล่นบอลยาวได้แม่นยำ และเล่นบอลสองได้อันตรายสุด ๆ ผมมองว่า ไดช์ เป็นหนึ่งในโค้ชที่เก่งกาจที่สุดเลยในเรื่องนี้”

“เป๊ป” ระบุว่า นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการฟุตบอล ตัวอย่างก็คือ แซม อัลลาร์ไดซ์ หรือตอนที่ผมยังไม่ได้อยู่ที่แมนฯซิตี้ นั่นคือ สโต๊ค ซิตี้ คุณจำ สโต๊ค ซิตี้ ตอนที่พวกเขาทุ่มบอลได้ไหม? ตอนนี้มีทีมที่ทำแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนั้น สโต๊ค อาจจะเป็นข้อยกเว้นก็ได้ ซึ่งผมจำได้ว่าตอนที่ผมอยู่ บาร์เซโลนา และ บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจากอาร์แซน เวนเกอร์ เคยพูดถึงการไปเล่นที่ สโต๊ค ซิตี้ และตอนนี้มันเกิดขึ้นแทบทุกนัด

ทางด้าน โทนี่ พูลลิส อดีตกุนซือของ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ ระบุว่า การเปรียบเทียบกับสโต๊คถือเป็นคำชม หลังจากตัวเขาเคยคุมทีม 2 ช่วง ในปี 2002-2005 และ 2006-2013

“ผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมมากที่ มิเกล อาร์เตต้า ของอาร์เซนอล ชอบเล่นลูกนิ่ง และเช่นเดียวกับผม ผมไม่คิดว่าเขาจะสนใจคนที่อยากจะตำหนิเขาที่ทำแบบนั้นเลย ไม่ว่าคุณจะอยู่สโมสรไหน และไม่ว่าคุณจะใช้วิธีการใด คุณก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกอยู่เสมอ แต่ถ้าคุณชนะ กองเชียร์ของคุณก็จะดีใจกับมันอย่างแน่นอน”

พูลลิส กล่าวต่อว่า เราเห็นสิ่งนี้จากแฟนบอลอาร์เซนอลที่ร้องเพลง 'ลูกตั้งเตะอีกครั้ง โอเล โอเล โอเล' ตอนที่ทีมชนะคริสตัล พาเลซ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งผมรู้สึกตลกที่เมื่อ 10 หรือ 12 ปีก่อน ผมโดนแฟนบอลกันเนอร์สวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แล้วอาร์แซน เวนเกอร์ กลับพูดว่า สโต๊ค เป็นทีมรักบี้เพราะการเล่นเตะมุมและการทุ่มไกลของเรา

“นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมเคารพอาร์เตต้ามาก เพราะเขาเห็นอะไรแบบนั้นมาหมดแล้วในตอนนั้น แล้วก็คิดว่า 'รู้ไหม การทำแบบนี้มันช่วยเราได้นะ' ผมเคยเห็นรูปล้อเลียนของเขาที่แต่งตัวเป็นผม รวมถึงหมวกเบสบอลของผมด้วย ผมชอบมากเลย”

“เขาทำให้ผมดูดี!”

                                 บี แหลมสิงห์