“แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล เจ้าของแชมป์โลก5 สมัย เตรียมแหวกม่านประเพณีครั้งสำคัญ เมื่อกำลังจะแต่งตั้ง “คาร์เล็ตโต้” คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน เข้ามาคุมทัพในปีหน้า เมื่อหมดสัญญากับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่สเปนในซัมเมอร์ 2024
BBC สื่อของอังกฤษ และ MARCA แห่งสเปน ระบุตรงกันว่า เอ็ดนัลโด โรดริเกซ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศที่ได้แชมป์บอลโลกมากที่สุด หลังจากพวกเขาไม่มีกุนซือถาวรมาตั้งแต่ 9 ธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อ
ตกรอบฟุตบอลโลก ด้วยการแพ้ โครเอเชีย ในการดวลจุดโทษ ที่กาตาร์ ทำให้ ตีเต้ กุนซือประกาศลาออก
“อันเชล็อตติ จะเข้าร่วมทัพในการแข่งขันโคปาอเมริกาในเดือนมิถุนายน 2567 ผมมั่นใจ” เอ็ดนัลโด้ กล่าว “เวลานี้ เฟร์นานโด ดินิซ จะดูแลแข้งเซเลเซา จนกว่าจะถึงเวลานั้น โดยเขาจะรับบทบาทควบคู่ไปกับหัวหน้าโค้ชของทีมฟลูมิเนนเซ่เราจะไม่เรียกว่า ดินิซ เป็นโค้ชชั่วคราว แต่เขาจะเข้ามาทำงานเพื่อให้ทีมเป็นระบบ จากนั้นทีมจะดำเนินการโดย อันเชล็อตติ ตั้งแต่ซัมเมอร์หน้า”
บราซิลไม่มีหัวหน้าโค้ชถาวรเลยตั้งแต่ฟุตบอลโลก เมื่อ ติเต้ลาออก โดยมี รามอนเมเนเซส โค้ชของทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 20 ปีรับหน้าที่คุมเกมกระชับมิตรนัดล่าสุด
สำหรับ อันเชล็อตติ สัญญาจะหมดลงในซัมเมอร์หน้าจะเป็นผู้จัดการทีมต่างชาติคนแรกที่คุมทีมบราซิลตั้งแต่ปี 1965 แต่ทั้งนี้ยังไม่มีคำพูดอย่างเป็นทางการจากปากของ อันเชล็อตติ หรือแถลงการณ์ทั้ง ทีมชาติบราซิล และ เรอัล มาดริด แต่อย่างใดว่า อันเช่ จะอำลาสโมสรในปีหน้า
ทั้งนี้หากมีการแต่งตั้งเกิดขึ้นจริง อันเชล็อตติจะเป็นผู้จัดการทีมต่างชาติคนแรกในประวัติศาสตร์ของบราซิลทันที หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีคนต่างชาติคุมทัพเซเลเซา รวมทั้งสั้น 3 ครั้ง นับตั้งแต่มีการบันทึกปี 1914 เป็นต้นมา ประกอบด้วย คนแรก ราม่อน พลาเตโร่ ชาวอุรุกวัย ที่คุมทัพร่วมกับ โจควิม กิมาเรส ระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม-25 ธันวาคม 1925 ในศึกชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ หรือ 1925 South American Championship ซึ่ง บราซิล ได้รองแชมป์, คนที่ 2 ชอร์เก้ โกเมส เด ลิม่า หรือ โชเรก้า ชาวโปรตุเกส คุมทีมร่วมกับ ฟลาวิโอ คอสต้า ระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 1944 ดวลแข้งนัดกระชับมิตรสร้างศัตรูกับ อุรุกวัย รวม 2 นัด และคนที่ 3 ฟิลโป้ นูเญซ ชาวอาร์เจนตินา คุมทัพอุ่นแข้งกับอุรุกวัย เมื่อ 7 กันยายน 1965
สำหรับ อันเชล็อตติ ปัจจุบันวัย 64 ปี คุมทัพมาตั้งแต่ปี 1995 หลังจากมีประสบการณ์เป็นมือขวาทีมชาติอิตาลี 3 ปี โดยคุมทีมประกอบด้วย เรจจิน่า, ปาร์ม่า,ยูเวนตุส, เอซี มิลาน, เชลซี, ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, นาโปลี, เอฟเวอร์ตัน และกลับมาคุม
เรอัล มาดริด คำรบที่สอง เมื่อปี 2021 มีประสบการณ์ทำทีมไปแล้วถึง 1,288 เกม ครอง 25 แชมป์ โดยเขาไม่เคยคุมทีมชาติแม้แต่หนเดียว และหากว่า “ดอน คาร์โล” เข้าคุมทัพบราซิล จริง ก็จะเป็นกุนซือลำดับที่ 84 ตลอดกาลของทัพลูกหนังแซมบ้าอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี