การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางเข้าสู่แมทช์เดย์ที่ 25 ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2024มีลงฟาดแข้ง 7 คู่ เปิดตัวในเวลา 19.30 น. จ่าฝูง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มีคิวต้องออกไปเยือน “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด
เจ้าถิ่น ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟรงค์ กุนซือชาวเดนมาร์ก 5 เกมหลังชนะ 2 แพ้ 3 ล่าสุดบุกทุบ “หมาป่า” วูล์ฟส์ 2-0 เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน จอช ดาซิลวา, แอรอน ฮิคกี้ และเควิน ชาเดอ ที่บาดเจ็บ แต่ข่าวดีคือการได้ โยอัน วิสซ่า กลับมาจากทีมชาติเข้ามาเป็นตัวเลือกในแนวรุก แต่อาจจะต้องนั่งสำรองไปก่อน เพราะ นีล โมเปย์ และไอแวน โทนีย์ กำลังประสานงานได้อย่างลงตัว
ฝั่งผู้มาเยือน ลิเวอร์พูล แซง แมนฯซิตี้ กลับมาเป็นจ่าฝูงอีกครั้งด้วยการถล่ม “เดอะ คลาเร็ตต์” เบิร์นลี่ย์ 3-0 ได้พักมาเต็มๆ เพราะไม่มีเกมกลางสัปดาห์ ทีมของ เจอร์เก้นคล็อปป์ จะไม่มี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรุนแรงกว่าที่ประเมินเอาไว้พลาดเกมนัดชิงคาราบาว คัพ ด้วย ส่วน โดมินิค โซโบสไล ต้องรอลุ้นเช่นกัน ข่าวดีคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และคอนอร์ แบรดลีย์ กลับมาซ้อมแล้ว รวมไปถึงอลิสซอน เบ็คเกอร์ และโจ โกเมซ ที่ป่วยจนพลาดเกมล่าสุด
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมนับตั้งแต่เบรนท์ฟอร์ด ขึ้นชั้นมาปรากฏว่า ลิเวอร์พูล เหนือกว่าชนะได้ 3เสมอ 1 และเบรนท์ฟอร์ด ชนะ 1 แต่การเตะที่สนามนี้“หงส์แดง” ไม่ชนะเลย โดยการคว้าชัยในบอลลีก หนล่าสุดที่รังเบรนท์ฟอร์ด ของทัพ “หงส์แดง” ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 19 มีนาคม 1938 เลยทีเดียว
สกอร์ที่คาด : เบรนท์ฟอร์ด 1-2 ลิเวอร์พูล
จากนั้นในเวลา 22.00 น. “ปืนใหญ่”อาร์เซน่อล ที่กำลังใจมาเต็ม จะต้องออกไปเยือนถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ของ “เดอะ คลาเร็ตต์”เบิร์นลี่ย์ ที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น เจ้าบ้านกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากไม่ชนะใครมา 7 เกมติดแพ้ไปถึง 5 รั้งอันดับ 19ของตารางมีแต้เท่ากับอันดับบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ที่ 13 คะแนน
ทีมของ แวงซ็องต์ กอมปานี ยังไม่มี ลูก้าโคเลโอโช่ แนวรุกดาวรุ่งที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงนาธาน เรดมอนด์ ส่วน จอร์แดนเบเยอร์ และชาร์ลี เบเยอร์ รอทดสอบความฟิต ทำให้ตัวเลือกในการจัดทัพมีไม่มากนัก
ฝั่ง อาร์เซน่อล ช่วงเวลานี้กำลังมั่นใจสุดๆ หลังคว้าชัยในลีกมา 4 เกมติด ล่าสุดจัดหนักบุกไปถล่ม “ขุนค้อน”เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบหมดสภาพ 6-0 กุนซือมิเกล อาร์เตต้า ไม่มีอะไรให้ต้องปวดหัว เพราะตัวที่เจ็บก็เป็นผู้เล่นหน้าเดิมๆ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร แต่อาจจะได้ กาเบรียล เชซุส กลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรุก มีความเป็นไปได้ว่าจะไม่ปรับไลน์อัพคงไว้ในระบบ 4-3-3
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด อาร์เซน่อลชนะ 2 เสมอ 2 และเบิร์นลี่ย์ ชนะ 1
สกอร์ที่คาด : เบิร์นล่ีย์ 1-3 อาร์เซน่อล
ปิดท้ายกันด้วยคู่ดึก 00.30 น. ถือว่าเป็นคู่เอกประจำสัปดาห์ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดถิ่นเอติฮัตสเตเดี้ยม รับการมาเยือน “สิงห์บลูส์” เชลซี
เจ้าถิ่นผ่านการลงเล่นเกมกลางสัปดาห์ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการบุกไปทุบ เอฟซี โคเปนเฮเกนถึงเดนมาร์ก 3-1 ส่วนผลงานในลีกกำลังเข้าฝักสุดๆ ชนะมา 6 เกมติด ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า จะไม่มี ยอสโก้ กวาร์ดิโอลแนวรับที่บาดเจ็บข้อเท้า รวมไปถึง แจ็ค กรีลิช ที่เดี้ยงมาจากนัดล่าสุด ในราย มาเตโอ โควาซิซ ยังไม่ฟิต นอกนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลใจ โรดรี้ คุมจังหวะเกมแดนกลาง และเควิน เดอ บรอยน์ ประสานงานเกมรุก หน้าเป้าใช้ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ล่าตาข่ายเหมือนเดิม
ฝั่งผู้มาเยือน เชลซี เรียกความมั่นใจกลับมาหลังคว้าชัย 2 เกมติด ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน โรเมโอ ลาเวีย, โรเบิร์ต ซานเชซ, มาร์ค คูคูเรลญ่าและรีซ เจมส์ รวมไปถึงแนวรับอย่าง เบอนัวต์ บาเดียชิลที่เพิ่งบาดเจ็บเพิ่มไปอีก ส่วนติอาโก้ ซิลวา รอทดสอบความฟิตที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-2-3-1
สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 3-1 เชลซี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี