อาร์เซนอล จะจบฤดูกาลโดยไม่สามารถคว้าแชมป์รายการสำคัญได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือกันเนอร์ส บอกว่า ผมรู้สึกไม่พอใจ เพราะทีมทำได้ดีกว่า เปแอสเช ค่อนข้างมาก แต่ผลลัพธ์คือแพ้สกอร์รวม 1-3

อาร์เซน่อล แพ้เกมแรกที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม 0-1 และบุกมาพ่ายที่ปารีส 1-2 คำพูดของกุนซืออาร์เซนอล อาจจะเป็นที่ตลกขบขันหลายคนแต่เมื่อมองถึง “การสร้างโอกาส” มากมาย แต่กลับทำประตูได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ทีมพังไป

นั่นเพราะไม่สามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด 

ทำให้รอบชิงชนะเลิศปีนี้ไม่มีทีมจากสเปน อังกฤษ หรือเยอรมนี เข้าถึงเลยถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ ปอร์โต จากโปรตุเกส พบกับ โมนาโก จากฝรั่งเศส ปี 2004

เปแอสเช เอาชนะสามทีมจากพรีเมียร์ลีกในการแข่งขันน็อกเอาต์ รอบ ???????? : ลิเวอร์พูล , รอบ 8  : แอสตัน วิลล่า  และรอบรอง : อาร์เซนอล

"การแข่งขันครั้งนี้เป็นเรื่องในกรอบเขตโทษ เป็นเรื่องกองหน้าและผู้รักษาประตูกับผู้เล่นของเปแอสเช ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในทั้ง 2 เกม"

"ผมภูมิใจในตัวนักเตะของผมมาก พวกเขาสมควรได้รับเครดิตมากมายสำหรับสิ่งที่ทำและจำนวนผู้เล่นที่บาดเจ็บ เรามาถึงที่นี่ในสภาพที่แย่ที่สุด คุณต้องมาที่นี่โดยที่ทุกคนฟิตและพร้อมลงสนาม เรามาที่นี่ในบริบทที่แตกต่างออกไปจากเจ้าบ้าน นั่นทำให้ผมมีทัศนคติเชิงบวกมากมายสำหรับอนาคตทีม"

อาร์เตต้า เห็นอย่างที่คนดูบอลก็เห็นว่า ผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามคือ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ด่านสุดท้ายเปแอสเช ที่สร้างความแตกต่างได้ในเกม

“เราเกือบชนะได้ แต่โชคไม่ดี แล้วเราก็ตกรอบ โอกาสมากมายในช่วง 20 นาทีแรก เราน่าจะนำ 3-0 แต่ในรายการนี้มันต้องมีบางอย่างที่เข้าทาง แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันน่าเสียดาย"

"ผมเสียใจ มันน่าเจ็บปวด แต่ถ้าเราอยากเป็นแชมป์การแข่งขันนี้  เราก็ต้องเข้าใจถึงสิ่งนั้น การเข้าใจว่าเราตกรอบไม่ใช่สิ่งที่ผมมอง ซึ่งผมไม่คิดว่าจะมีทีมไหนที่ดีกว่าในรายการนี้จากที่ผมเห็น เราตกรอบในคืนนี้ เราควรได้รับมากกว่านี้ในทั้งสองเกม”

มิเกล อาร์เตต้าใช้เงินไปแล้ว 673.79 ล้านปอนด์ในการย้ายทีมของอาร์เซนอลและยังไม่ได้รับรางวัลใดๆ เลยในช่วง 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา

เขาเป็นผู้จัดการที่ได้รับการประเมินสูงเกินจริงที่สุดในยุโรปหรือไม่

นับตั้งแต่เข้ามาทำงาน เขาใช้เงินไปกว่า 700 ล้านปอนด์ และคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้เพียง 1 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย

ขณะเดียวกันคำพูดของ มิเกล อาร์เตต้า ที่กล้าประกาศอย่างกล้าหาญว่า อาร์เซนอล จะไปปารีสเพื่อสร้างประวัติศาสตร์

แต่ประวัติศาสตร์ที่ล้มเหลวเกิดขึ้นมาแทน และทำให้มาแทงทิ่มตัวเขา ที่บางทีให้สัมภาษณ์แบบ “อะไรก็ไม่รู้”

ไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรูเลย

แคมเปญแชมเปี้ยนส์ลีกของพวกเขาต้องจบลงด้วยความล้มเหลว

ความจริงที่ไม่สบายใจระหว่าง อาร์เตต้า กับ อาร์เซนอล กำลังซ่อนอยู่ เพราะอาร์เซนอลไม่ได้แชมป์มา 5 ปีแล้ว เมื่ออาร์เตต้าพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 2020 แม้จะมีการพูดถึงกระบวนการและความก้าวหน้า

 แต่สกุลเงินเดียวที่มีความสำคัญสำหรับสโมสรชั้นนำ คือ แชมป์ที่ต้องไม่ร้าง

ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ อาร์เตต้า จะทำให้ทีมของเขาเป็นผู้ชนะอีกครั้งแบบสง่างาม

BBC เปรียบเปรยว่า แม้ว่า อาร์เซนอล จะมีความยอดเยี่ยมในนครแห่งแสงสว่างอย่างลอนดอน แต่อีกหนึ่งมุมคือ พวกเขาจมอยู่ในความมืดมิดอย่างน่าตกใจ

ก็นับว่าเป็นความจริงอันโหดร้าย

ไม่มีใครกล้าพูดอย่างจริงจังว่างานของ อาร์เตต้า ตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ แต่เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันในการสร้างความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเพิ่มขึ้นในฤดูกาลหน้า อย่างไม่ต้องสงสัย

ในที่สุดแล้วก็ไม่มีข้อแก้ตัวหรือข้อความใดๆ เกี่ยวกับการก้าวไปข้างหน้า

อาร์เซนอล จำเป็นต้องชนะ และต้องเป็นแชมป์

อาร์เตต้า เองก็ต้องชัดขึ้น เด็ดขาดขึ้นในสนาม

ไม่อย่างนั้นเรื่องนอกสนามจะกดดันตัวเค้าไปตลอดเวลา

บี แหลมสิงห์