การแข่งขันฟุตบอลยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2024-25 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ลงเล่นในเวลา 02.00น. ที่สนาม นิว ซาน มาเมส ในแคว้นบาสก์ ประเทศสเปน เป็นการเจอกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ จะดวลกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดิมพันสูง ชนะรับเงินรางวัล 8.6 ล้านยูโร พร้อมโควตาไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบอัตโนมัติในฤดูกาลหน้า รับเพิ่มอีก 18.62 ล้านยูโร
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ พักแกนหลักเพื่อมาลุยถ้วยนี้โดยเฉพาะในลีกพวกเขาปล่อยจอยรั้งอันดับ 17 ของตาราง ส่วนรายการนี้รอบที่แล้วเอาชนะโบโด กลิมท์ จากนอร์เวย์ ด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 5-1 อย่างไรก็ตามทีมของ แองจ์ ปอสเตโคกลู จะหมดสิทธิ์ใช้งานสองแกนหลักอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี้ และเจมส์ แมดดิสัน ที่บาดเจ็บ สมทบกับ ราดู ดรากูซิน ที่ปิดเทอมไปนานแล้ว ส่วน ลูคัส เบิร์กวัลล์ มีแนวโน้มว่าไม่น่าจะฟิตทันด้วย แต่ข่าวดีจะได้กัปตันทีมอย่าง ซน ฮึง-มิน กลับมาลงเล่นในสภาพที่ฟิตเต็มร้อย เชื่อว่าน่าจะได้สตาร์ททันที ประสานงานเกมรุกกับ วิลสัน โอโดแบร์, แบรนแนน จอห์นสัน และโดมินิค โซลันกี้
ทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เอาในลีกเช่นกันพ่ายให้กับ เชลซี 0-1 รั้งอันดับ 16 ในพรีเมียร์ลีก ส่วนรายการนี้รอบที่แล้วปราบ แอธเลติก บิลเบา เจ้าของสนามแห่งนี้แบบไปกลับด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 7-1 ทีมของ รูเบน อโมริม ต้องรอทดสอบความฟิตผู้เล่นหลายราย อาทิ เลนี่ โยโร่, ดีโอโก้ ดาโลท์, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ รวมไปถึง โยชัว เซิร์กซี ส่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปิดเทอมไปแล้ว ยังคงยึดระบบ 3-4-2-1 มานูเอล อูการ์เต้ คุมแดนกลางร่วมกับ คาเซมิโร่ ริมเส้นฝั่งขวาหาก ดาโลท์ ไม่ฟิต อาหมัด ดิยัลโล่ น่าจะได้เล่นแทน แนวรุกใช้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ประสานงานกับ บรูโน่ เฟอร์นานเดส และราสมุส ฮอยลุนด์
สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมทั้งหมด 204 เกมในทุกรายการ แมนฯยูไนเต็ด เหนือกว่าชนะ 96 เสมอ 51 และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ชนะ 57
เคยดวลกันในเกมยุโรป 2 ครั้ง ในศึกยูฟ่า ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ รอบ 2 ฤดูกาล 1963-64 ปรากฏว่าผลัดกันชนะบ้านใครบ้านมัน
เลกแรก สเปอร์ส แชมป์เก่า ชนะที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ก่อน 2-0 จาก เดฟ แม็คคาย และเทอร์รี่ ดายสัน แต่บุกไปโดนถล่มที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 4-1 เดวิด เฮิร์ด และเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทำคนละสองประตู
ส่วนการเจอกันในฤดูกาลนี้ 3 ครั้ง กลายเป็น ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่เอาชนะได้ทั้งหมด เริ่มจากเกมลีกบุกไปถล่ม 3-0 ในตอนที่ เอริค เทน ฮาก ยังคุมทีม หลังจากนั้นก็เป็นลีก คัพ รอบ 8 เปิดบ้านเฉือนสุดมันส์ 4-3 และเกมลีกนัดล่าสุดเอาชนะ 1-0 โดยสองเกมหลังเป็นการเข้ามาคุมทีมของ รูเบน อโมริม
๐ เกร็ดที่น่าสนใจของทั้งสองทีม
ฤดูกาลนี้ทั้งสองทีมผลงานในลีกย่ำแย่แบบสุด ๆ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่เพิ่งบุกไปพ่ายแอสตัน วิลล่า 2-0 ทำสถิติแพ้มากที่สุดในทุกรายการภายในฤดูกาลเดียวถึง 25 เกม นับเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเทียบเท่ากับซีซั่น 1991-92 ปีนั้นพวกเขาจบอันดับ 15
แองจ์ ปอสเตโคกลู ยังกลายเป็นกุนซือคนแรกที่คุมทีมพ่ายในลีกมากถึง 20 เกม นับตั้งแต่เปลี่ยนจากดิวิชั่น 1 มาเป็นพรีเมียร์ลีก ทุบสถิติเดิมที่ ออสซี่ อาร์ดิเลส เคยทำไว้ 19 นัด ในซีซั่น 1993-94
นอกจากนี้พวกเขายังไม่สามารถเก็บคลีนชีตในลีกได้เลยติดต่อกัน 12 เกมติด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 โดยเกมสุดท้ายที่ไม่เสียประตูคือการเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด แพ้ในลีกไปถึง 18 เกม ถือว่าเป็นสถิติที่แย่ที่สุด นับเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1973-74 ที่แพ้ถึง 20 เกม และตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 2
พวกเขาแพ้เกมลีกคาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปถึง 9 เกม ทาบสถิติสูงสุดในฤดูกาล 1930-31, 1933-34 และ1962/63
นับตั้งแต่ รูเบน อโมริม เข้ามาคุมทีม เก็บแต้มในลีกได้แค่ 24 คะแนน จากการลงเล่น 26 เกม ค่าเฉลี่ยต่อเก็บไม่ถึง 1 คะแนนด้วยซ้ำ พวกเขาไม่สามารถยิงประตูในลีกฤดูกาลนี้ถึง 15 จาก 37 เกม
อย่างไรก็ตาม แมนฯยูไนเต็ด คือทีมเดียวที่เล่นฟุตบอลยุโรปและยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ้, เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, เดสตินี่ อูโดจี้, อิฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตานคูร์, แบรนแนน จอห์นสัน, วิลสัน โอโดแบร์, ซน ฮึง-มิน และโดมินิค โซลันกี้
แมนฯยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อองเดร์ โอนาน่า, นูสแซร์ มาซราวี, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เลนี่ โยโร่, อาหมัด ดิยัลโล่, มานูเอล อูการ์เต้, คาเซมิโร่, แพทริค ดอร์กู, อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ เฟอร์นานเดส และราสมุส ฮอยลุนด์
สกอร์ที่คาด: ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 1-1 แมนฯยูไนเต็ด
๐ เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ)
รอบลีกเฟส: จบอันดับ 4 ผลงาน 8 เกม ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 2 เก็บได้ 17 คะแนน
รอบ 16 ทีม
(เยือน) แพ้ อาแซด อัล์คมาร์ (เนเธอร์แลนด์) 0-1
(เหย้า) ชนะ อาแซด อัล์คมาร์ (เนเธอร์แลนด์) 3-1
(สกอร์รวมสองนัด ชนะ 3-2)
รอบก่อนรองชนะเลิศ
(เหย้า) เสมอ แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมนี) 1-1
(เยือน) ชนะ แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมนี) 1-0
(สกอร์รวมสองนัด ชนะ 2-1)
รอบรองชนะเลิศ
(เหย้า) ชนะ โบโด กลิมท์ (นอร์เวย์) 3-1
(เยือน) ชนะ โบโด กลิมท์ (นอร์เวย์) 2-0
(สกอร์รวมสองนัด ชนะ 5-1)
แมนฯยูไนเต็ด (อังกฤษ)
รอบลีกเฟส: จบอันดับ 3 ผลงาน 8 เกม ชนะ 5 เสมอ 3 เก็บได้ 18 คะแนน
รอบ 16 ทีม
(เยือน) เสมอ เรอัล โซเซียดาด (สเปน) 1-1
(เหย้า) ชนะ เรอัล โซเซียดาด (สเปน) 4-1
(สกอร์รวมสองนัด ชนะ 5-2)
รอบก่อนรองชนะเลิศ
(เยือน) เสมอ ลียง (ฝรั่งเศส) 2-2
(เหย้า) เสมอ ลียง (ฝรั่งเศส) 2-2 (ต่อเวลา ชนะ 5-4)
(สกอร์รวมสองนัด ชนะ 7-6)
รอบรองชนะเลิศ
(เยือน) ชนะ แอธเลติก บิลเบา (สเปน) 3-0
(เหย้า) ชนะ แอธเลติก บิลเบา (สเปน) 4-1
(สกอร์รวมสองนัด ชนะ 7-1)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี