"อัซซูร่า" นาโปลี ผงาดคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ไปครองได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านเอาชนะ กาญารี่ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
 
ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา นัดตัดสินแชมป์ฤดูกาล 2024/2025 ลงสนามพร้อมกันสองคู่ เป็นเกมระหว่าง นาโปลี เปิดบ้านพบ กาญารี่ และ อินเตอร์ มิลาน บุกเยือน โคโม่ โดยสถานการณ์ปัจจุบัน นาโปลี มี 79 คะแนน มากกว่า อินเตอร์ 1 แต้ม

ผลปรากฏว่าในเกมที่สนาม ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดนา เจ้าบ้าน นาโปลี ซึ่งเกมนี้หากคว้า 3 คะแนน จะการันตีการคว้าแชมป์ทันที ซึ่งพวกเขาไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เอาชนะ กาญารี่ 2-0 จากการยิงคนละประตูของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ นาที 42 และ โรเมลู ลูกากู นาที 51
ส่งผลให้ นาโปลี ของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งถูกแบนห้ามลงมาคุมทีมข้างสนามเกมนี้ มีเพิ่มเป็น 82 คะแนน คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ซีซั่น 2024/2025 ได้สำเร็จ และเป็นการคว้าถ้วย สคูเด็ตโต้ สมัยที่ 4 ของยอดทีมกรุงเนเปิลส์

ขณะที่เกมอีกคู่ อินเตอร์ มิลาน สามารถบุกไปเอาชนะ โคโม่ ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่ครึ่งแรกได้ตามเป้า 2-0 จากการยิงของ สเตฟาน เดอ ฟราย และ ฮัวกิน กอร์เรอา อย่างไรก็ตามชัยชนะของพวกเขา ยังไม่พอต่อการลุ้นแชมป์ เพราะก่อนเกมมีแต้มตามหลังจ่าฝูง นาโปลี ทำให้ฤดูกาลนี้ “งูใหญ่” ของเฮดโค้ช ซิโมเน่ อินซากี้ จบแค่เพียงรองแชมป์เท่านั้น

ทางด้าน อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือ นาโปลี กลายเป็นโค้ชคนแรกที่คุมทีมได้แชมป์สคูเด็ตโต้กับ 3 สโมสร  คือ ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และ นาโปลี
 
ก่อนหน้านี้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็เคยคุมทีมได้แชมป์เซเรีย อา กับทั้ง เอซี มิลาน, โรม่า และ ยูเวนตุส ทว่าแชมป์กับม้าลายถูกริบคืนในภายหลังจากคดีกัลโช่โปลี่ นอกจากนี้ คอนเต้ ยังเคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1 สมัย กับ เชลซี ในฤดูกาล 2016/17

ทางด้าน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางตัวเก่งของ นาโปลี ได้รับเลือกให้ครองรางวัล "เอ็มวีพี" ของเซเรีย อา ประจำฤดูกาล หลังทำผลงานได้ดีสุดในอาชีพด้วยการยิงไป 12 ประตูในลีก และทำอีก 6 แอสซิสต์ รวมถึงทำประตูเปิดหัวในนัดสุดท้ายชี้ชะตาแชมป์ที่พาทีมชนะ กายารี่ 2-0 

ทั้งนี้ แม็คโทมิเนย์ ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีม นาโปลี เป็นฤดูกาลแรกด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร ก่อนกลายเป็นแกนหลักในทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ทันที
 
ส่วนรางวัลอื่นมีดังนี้ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมเป็น มิเล่ สวิลาร์ ของ โรม่า, กองหลังยอดเยี่ยมเป็น อเลสซานโดร บาสโตนี่ ของ อินเตอร์ มิลาน, กองกลางยอดเยี่ยมเป็น ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส ของ เอซี มิลาน และ กองหน้ายอดเยี่ยมเป็น มาเตโอ เรเตกี ของ อตาลันต้า ขณะที่ผู้เล่นยอดเยี่ยมอายุไม่เกิน 23 ปีคือ นีโก้ ปาซ ของ โคโม่