การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล ลงเล่นพร้อมกันในเวลา 22.00น. ของค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2025 เกมที่น่าสนใจไปที่กันที่แอนฟิลด์ทีมแชมป์อย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะได้ชูถ้วยฉลองต่อหน้าแฟน ๆ ในรอบ 35 ปี รับการมาเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ แชมป์เอฟเอ คัพ 


เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต ไม่ชนะใครมา 3 เกมติด เสมอ 1 แพ้ 2 นับตั้งแต่การันตีคว้าแชมป์ในการถล่ม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 5-1 เกมนี้ไม่มี อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ที่บาดเจ็บ ส่วน โจ โกเมซ กลับมาแล้วรอมีส่วนร่วมในบางช่วงเวลา คาดว่าจะจัดเต็มให้แฟน ๆ ได้ชื่นใจก่อนส่งสำรองลงเล่น ไรอัน กราเฟนแบร์ช คุมแดนกลางร่วมกับ เคอร์ติส โจนส์ แนวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประสานงานกับ โดมินิค โซโบสไล, โคดี้ กัคโป และหลุยส์ ดิอาซ 

ฝั่งผู้มาเยือน คริสตัล พาเลซ ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังก่อตั้งสโมสรมายาวนานเกือบ 120 ปี ด้วยการเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เกมนี้ทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ไม่มี ชีค ดูคูเร่, ชาดี้ ริยาด และอดัม วอร์ตัน ที่บาดเจ็บ ส่วน มาร์ค เกฮี ไม่ฟิต อาจจะมีการปรับทีมหลายตำแหน่ง ทำให้สำรองอย่าง เบน ชิลเวลล์, วิลล์ ฮิวจ์ส, จัสติน เดเวนนี่ย์ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ จะได้โอกาสลงสนาม 

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล ชนะ 2 เสมอ 2 และคริสตัล พาเลซ ชนะ 1 

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, คอนอร์ แบร็ดลีย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบสไล, โคดี้ กัคโป และหลุยส์ ดิอาซ 

คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน, คริส ริชาร์ดส์, มักซองต์ ลาครัวซ์, เบน ชิลเวลล์, ดาเนี่ยล มูนญอซ, วิลล์ ฮิวจ์ส, ไดจิ คามาดะ, ไทริค มิทเชลล์, จัสติน เดเวนนี่ย์ เอเบเรซี่ เอเซ่ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ 

สกอร์ที่คาด: ลิเวอร์พูล 3-2 คริสตัล พาเลซ 

คู่ต่อมาไปกันที่การลุ้นพิ้นที่ฟุตบอลยุโรป ลงเล่นในเวลาเดียวกัน 22.00น. ไปกันที่สนามคราเวน ค็อตเทจ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

เจ้าถิ่น ฟูแล่ม รั้งอันดับ 10 ของตารางไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ผลงาน 5 เกมหลังชนะ 2 เสมอ 3 ล่าสุดบุกไปเฉือน เบรนท์ฟอร์ด 3-2 เกมนี้ทีมของ มาร์โก ซิลวา เผชิญปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มี รีสส์ เนลสัน, โรดริโก้ มูนิช, แฮร์ริสัน รี๊ด และทีโมธี กาสตานเญ่ นอกนั้นตามรายงานไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-2-3-1 ตามถนัด นำโดย ซาช่า ลูคิช, ทอม เครนี่ย์, แฮร์รี่ วิลสัน, เอมิล สมิธ-โรว์, อดาม่า ตราโอเร่ และราอูล ฆิเมเนซ 

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 3 ของตารางมี 68 คะแนน เกมนี้ขอแค่เสมอก็จะการันตีท็อปไฟว์ ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาเตโอ โควาซิซ มิดฟิลด์ที่ติดโทษแบนจากใบแดงนัดที่แล้วที่เปิดบ้านเอาชนะ บอร์นมัธ 3-1 รวมไปถึง จอห์น สโตนส์ ที่ยังบาดเจ็บที่เหลือถือว่าอยู่กันครบ มาในระบบเดียวกัน 4-2-3-1 คาดว่า โรดรี้ ที่เพิ่งกลับมาลงสนามครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว น่าจะได้สตาร์ทตัวจริงคุมแดนกลางร่วมกับ อิลคาย กุนโดกาน ปล่อยให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ประสานงานเกมรุกกับ เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช และเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ 

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ เหนือกว่าเยอะ เอาชนะได้ทั้งหมด 

สกอร์ที่คาด: ฟูแล่ม 1-3 แมนฯซิตี้ 

ขยับมาที่เกมต่อมาในการลุ้นท็อปไฟว์ ในเวลา 22.00น. “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเปิดเซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือน “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องการ 3 คะแนนในเกมนี้จะการันตีติดท็อปโฟว์ทันทีโดยไม่ต้องไปสนใจผลการแข่งขันของสนามอื่น เกมล่าสุดบุกไปพ่ายให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 0-1 เกมนี้ยังไม่มี คีแรน ทริปเปียร์, ลูคิส ฮอลล์ และโชลินตอน ที่บาดเจ็บ แต่ได้รับข่าวดีเมื่อ อเล็กซานเดอร์ อิซัค จะผ่านความฟิตพร้อมลงสนาม ทีมปรับจากระบบ 4-3-3 มาแล้ว 3-4-2-1 บรูโน่ กีมาไรส์ คุมแดนกลางร่วมกับ ซานโดร โตนาลี่ ถอย เจค็อบ เมอร์ฟีย์ ลงมายืนวิงแบ็คฝั่งขวา ส่วนทางซ้ายใช้ วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ ปล่อยให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และแอนโธนี่ กอร์ดอน ขับเคลื่อนเกมรุกอยู่ด้านหลังหน้าเป้าอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค 

ฟากทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ไม่มีลุ้นอะไรแล้วการันตีการคว้าอันดับ 13 ของตาราง ทีมของ เดวิด มอยส์ ไม่แพ้ใครมา 3 เกมติด ล่าสุดเปิดบ้านต้อน เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 เกมนี้ยังไม่มี เยสเปอร์ ลินด์สตรอม, โอเรล ม็องกาล่า, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ และเซมุส โคลแมน ที่บาดเจ็บ ส่วน จาร์ราด แบรนธ์เวต รอทดสอบความฟิต คาดว่าน่าจะได้พักไปเลย ขยับ เจค โอไบรอัน มายืนเซนเตอร์ ที่เหลือนำโดย อิดริสซ่า กาน่า เกย์, เจมส์ การ์เนอร์, ดไวท์ แม็คนีล, อับดูลาย ดูคูเร่, อิลิมาน เอ็นดิอาย และเบโต้ 

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด นิวคาสเซิ่ล ชนะ 2 เสมอ 2 และเอฟเวอร์ตัน ชนะ 1 

สกอร์ที่คาด: นิวคาสเซิ่ล 2-0 เอฟเวอร์ตัน 

อีกคู่ที่น่าสนใจในการลุ้นท็อปไฟว์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายลงเล่นในเวลา 22.00น. “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จะเปิดซิตี้ กราวนด์ ดวลกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี 

เจ้าถิ่นปัจจุบันรั้งอันดับ 7 ของตารางมี 65 คะแนน เกมนี้เป้าหมายเดียวต้องคว้าชัยชนะให้ได้เท่านั้น และไปลุ้นไม่ให้ แอสตัน วิลล่า และนิวคาสเซิ่ล ไม่ชนะคู่แข่ง ล่าสุดเพิ่งบุกไปชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มา 2-1 เกมนี้ทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ไม่มี ไตโว่ อโวนิยี่ ที่ผ่าตัดช่องท้อง ส่วนแนวรับอย่าง มูริลโล่ รอทดสอบความฟิต แกนหลักที่เหลือถือว่าอยู่กันครบ ยึดระบบ 4-2-3-1 อิบราฮิม ซังกาเร่ และเอลเลียตต์ แอนเดอร์สัน คอยคุมจังหวะเกมแดนกลาง แนวรุกนำโดย แอนโธนี่ เอลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และคริส วู้ด 
ฝั่งทีมเยือน เชลซี กุมชะตาชีวิตในมือของพวกเขาเอง หากสามารถบุกชนะเกมนี้จะคว้าท็อปไฟว์ทันที เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือของทีมยืนยันว่าพวกเขามีสมาธิจดจ่อกับเกมนี้ แม้จะมีรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน นิโคลัส แจ็คสัน ที่ติดโทษแบน แต่มีข่าวดีได้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และมาร์ค กีอู สองกองหน้าสำรองกลับมาเป็นตัวเลือก ที่เหลืออยู่กันครบ มาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน ขยับ มอยเซส ไคเซโด้ กลับมาคุมแดนกลางร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แนวรุกวาง โนนี่ มาดูเอเก้ ประสานงานกับ โคล พัลเมอร์ และเปโดร เนโต้ โดยมี ไทริค จอร์จ ปีกดาวรุ่งที่ต้องรับบทหัวหอกจำเป็น 

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เสมอกันถึง 3 และผลัดกันชนะไปฝั่งละ 1 ครั้ง 

สกอร์ที่คาด: น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-1 เชลซี 

ปิดท้ายด้วยเกมที่น่าสนใจสำหรับการลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า จะออกไปเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

แมนฯยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยมือเปล่าหลังพ่ายให้กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก สร้างความเสียหายกับเม็ดเงินที่ควรไหลเข้าสู่สโมสรมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ปัจจุบันรั้งอันดับ 16 ของตาราง มี 39 คะแนน มีโอกาสจบฤดูกาลดีที่สุดคืออันดับ 14 ทีมของ รูเบน อโมริม ไม่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่บาดเจ็บ ส่วน มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ รอทดสอบความฟิต นอกนั้นอยู่กันครบอาจจะปรับทีมอำลาแฟน ๆ ส่ง ค็อบบี้ เมนู, มานูเอล อูการ์เต้, อาหมัด ดิยัลโล่, บรูโน่ เฟอร์นานเดส และโยชัว เซิร์กซี ลงสนาม

 
ทีมเยือน วิลล่า รั้งอันดับ 6 ของตารางมี 66 คะแนน ลูกได้เสียของพวกเขาเป็นรอง เชลซี และนิวคาสเซิ่ล ที่มีคะแนนเท่ากัน เกมนี้ต้องบุกชนะให้ได้ และลุ้นให้สนามอื่นไม่ชนะ ทีมของ อูไน เอเมรี่ ไม่มี มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ติดเงื่อนไขเจอต้นสังกัดแม่ บวกกับนักเตะยังบาดเจ็บอยู่ ส่วน ยูริ ตีเลมานส์ รอทดสอบความฟิต หากลงไม่ได้คาดว่า อมาดู โอนาน่า จะได้เล่นแทนคุมแดนกลางร่วมกับ บูบาการ์ กามาร่า แนวรุกวาง มอร์แกน โรเจอร์ส ประสานงานกับ มาร์โก อเซนซิโอ้ และจอห์น แม็คกินน์ คอยปั้นเกมป้อนบอลให้หน้าเป้าอย่าง โอลลี่ วัตกิ้นส์ 

สกอร์ที่คาด: แมนฯยูไนเต็ด 1-2 แอสตัน วิลล่า


เงื่อนไขลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป

๐ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะการันตีโควตา UCL หากไม่แพ้ในการออกไปเยือน ฟูแล่ม 

๐ นิวคาสเซิ่ล จะการันตีโควตา UCL หากพวกเขาสามารถเปิดบ้านเอาชนะเอฟเวอร์ตันที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว 

๐ เชลซี จะการันตีโควตา UCL หากสามารถบุกไปเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ซิตี้ กราวนด์ 

๐ แอสตัน วิลล่า จะการันตีโควตา UCL หากบุกไปชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ต้องลุ้นให้ นิวคาสเซิ่ล และเชลซี ไม่ชนะคู่แข่ง หรือลุ้นให้ แมนฯซิตี้ แพ้ ฟูแล่ม ไปเลย 

๐ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จะการันตีโควตา UCL หากเปิดบ้านชนะเชลซี แต่ต้องลุ้นให้นิวคาสเซิ่ล และแอสตัน วิลล่า ไม่ชนะคู่แข่ง 

หากเชลซีคว้าแชมป์ Conference League แต่จบอันดับที่ 7 หรือ 6 ในพรีเมียร์ลีก และคว้าแชมป์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก โควตาคอนเฟอเรนซ์ ลีก จะถูกส่งต่อให้อันดับ 8 ไบรท์ตัน หรือเบรนท์ฟอร์ด

หรืออีกกรณี หาก นิวคาสเซิ่ลจบอันดับที่ 7 สิทธิ์ โควตาจะตกเป็นของอันดับ 8 เช่นกัน เพราะ นิวคาสเซิ่ล ถือโควตายูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก อยู่แล้ว ในฐานะแชมป์ลีก คัพ ทำให้ถ้วยนี้จะไป 2 ทีม