“หอคอยฝังเพชร” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เจ้ายุโรปทีมใหม่ของวงการฟุตบอลยุโรป ที่เล่นได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และฉายแววแบบสุด ๆ ในรอบน็อกเอาท์

นัดถลกหนัง “อนาคอนด้า” อินเตอร์ มิลาน 5-0 เบาที่ไหน 

มองเห็นการเล่นที่ดูมานึกเร็ว ๆ คือสกอร์นัดที่ เอซี มิลาน ที่เปลี่ยนแปลงจากยุค 3 ทหารเสือดัทช์ มาเป็นรุ่นใหม่แล้วยำ บาร์เซโลน่า แหลกลาญ 4-0 เมื่อปี 1994

ว่ากันในเรื่องนโยบายที่น่าสนใจก็คือ ไม่ว่ายุคไหน นโยบายปรับอย่างไร จะมาเป็น IT IS A TEAM, not a set of stars. ก็จะใช้ “เงินใช้ผีโม่แป้ง” 

พวกเขาใช้เงินไป 240 ล้านยูโรในการเซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่ในฤดูกาลนี้ บวกกันกับ 455 ล้านยูโรในฤดูกาลที่แล้ว 

ปัจจุบันพวกเขาเป็นทีมที่เปี่ยมไปด้วยสตาร์รุ่นใหม่มากมาย และน่าตื่นเต้นมากในการรับชม 

เปแอสเช มีเทคนิคที่เหลือเชื่อ การเล่นในตำแหน่งที่ลื่นไหล และความสามารถในการกดดันฝ่ายตรงข้ามในรูปแบบต่างๆ มากมาย พร้อมกับใช้โค้ชอย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ เพื่อเข้ากับนโยบายใหม่คือ “สตาร์ใหญ่ไม่เอา”

ตอบโจทย์มาก

โฟกัสเห็นชัด ๆ ว่า เปแอสเช เล่นทุกนัดในยูซีแอล แทบจะเหมือนกันหมด นั่นก็คือ เล่นด้วยความอิสระและความสามารถที่ยอดเยี่ยม

ค่อย ๆ ลดการเพรสลง

ไปตามจังหวะเกม

เปลี่ยนบอลเร็ว

แต่ใช้บอลเดินทางนำ

ทั้งหมดเกิดจากความสมดุลเป็นแกนขับเคลื่อน

งานของ เอ็นริเก้ นั้นเหลือเชื่อมาก แต่การใช้เงินก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน

ค่าตัวของ 11 ตัวจริงที่ลงสนามนัดขิงชนะเลิศ

ดอนนารุมม่า - ฟรี

ฮาคิมี่ - 68 ล้านยูโร

เมนเดส - 38 ล้านยูโร

มาร์ควินญอส - 32 ล้านยูโร

ปาโช - 40 ล้านยูโร

รุยซ์ - 22 ล้านยูโร

วิตินญ่า - 41 ล้านยูโร

เนเวส - 60 ล้านยูโร

ดูเอ้ - 50 ล้านยูโร

ควีช่า - 70 ล้านยูโร

เดมเบเล่ - 50 ล้านยูโร

พวกเขาอาจจะเปลี่ยนนโยบายเป็น "Zero superstars" แต่ยังคงเป็นทีมที่จ่ายเงินค่าเหนื่อยสูงสุด ๆ ในโลก

658 ล้านยูโร เหนือ แมนฯซิตี้ 554 ล้านยูโร และเรอัล มาดริด 505 ล้านยูโร

แต่นั่นแหละมันปรับนิดเดียวรู้เรื่อง

สำหรับผมกับทีมชุดนี้

นักบอลในอุดมคติ คือ ควีช่า ควารัตสเคเลีย

นักบอลที่ผมชอบที่สุดคือ วิตินญ่า

นักบอลที่เล่นดีสุดเกมนี้ คือ เนเวส

ส่วนคีย์เพลยเยอร์ที่แท้ทรู คือ เดมเบเล่ ครับ

#บีแหลมสิงห์