หลังการจากลา ดีโอโก้ โชต้า แบบไม่มีวันหวนคืน ต่อไปคือ การทำงานของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้งในสนาม และ นอกสนาม  จะเป็นยังไง นี่คือเรื่องนอกตำราจริง ๆ

1.การเป็นแชมป์เก่า กับ 2.เรื่องราวที่หักมุมสิ้นดีของชีวิตที่สูญเสีย

หลังบ้านต้องทำงานหนักขึ้นอีก ที่จะต้องปรับปรุงเรื่องราวในสนาม จากแนวรับไปจนถึงแนวรุก พร้อมกับเรื่องราวในสนาม เนื่องจากเวลาใกล้เปิดซีชั่น

การกลับมารวมตัวกันเพื่อเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ในช่วงปีซีซั่นครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ไม่ธรรมดาเลยสำหรับสโมสรลิเวอร์พูลหลังจากเพิ่งสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไปแบบน่าตกใจ

การเสียชีวิตของโชต้า เป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าใจมาก

เพื่อนร่วมทีมของเขาทั้งหมด ต้องลุกขึ้นมาทำงานอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ทั้งที่เหตุการณ์มันเพิ่งผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์

เพื่อนใหม่ที่เคยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข ก็ต้องเข้าร่วมกลุ่มและพยายามปรับตัวไปพร้อม ๆ กัน กับสภาพแวดล้อม ที่ไม่เหมือนเดิมในทุกอย่าง

ลองนึกดูว่าถ้ามีใครสักคนในออฟฟิศของคุณเสียชีวิต เพื่อนที่ดีของคุณคนหนึ่งจากไปเป็นเรื่องเศร้า

๐ คนที่อยู่ต้องสู้กันต่อ

“คนที่อยู่”นั้นก็สำคัญมากเช่นเดียวกับคนที่จากไป เพราะการที่คุณได้รับการเตือนทุกสัปดาห์ในการไว้อาลัยต่อสาธารณะจะช่วยได้หรือไม่ บางทีอาจช่วยได้ บางทีอาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก

ต่างจากอาชีพทั่วไป เมื่อเป็นกีฬาระดับสูง นักฟุตบอลเหล่านี้ไม่มีเวลาที่จะเสียใจเหมือนอย่างที่เราเคยเจอ พวกเขาต้องเล่นให้เต็มที่ทันที มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา

คิดว่าส่วนที่ยากที่สุดคงเป็นตอนที่พวกเขาต้องเริ่มสัมภาษณ์ และการสัมภาษณ์ที่มากขึ้นในฤดูกาลนี้ รวมถึงฐานะของแชมป์เก่า จะยิ่งทำให้นักเตะของเรากดดันมากขึ้น

เราลองมาย้อนดูกันว่าลิเวอร์พูลจะต้องทำอะไรก่อนหน้านี้และจะต้องทำอะไรต่อจากนี้

ก่อนหน้านี้ทีมเข้าตลาดไปซื้อเสริมมาแล้วซ้าย-ขวา ทั้ง มิลอส เคอร์เคซ กับ เฌเรมี่ ฟริมปง และเสริมเกมรุกมาแล้วจากเยอรมนี นั่นคือ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มาไว้แล้ว

๐ การเดินเข้าสู่ตลาด

ไม่มีมิตรแท้ที่คอยปลอบประโลมเหมือนตอนนี้แน่นอน

เพราะการซื้อขายก็จะกลับมาเข้มข้น และเดากันว่าจะเข้มข้นกว่าเก่า

อันเนื่องมาจากความต้องการในการได้นักเตะของ ลิเวอร์พูล ซึ่งมีอยู่แล้วก่อนหน้านี้ และมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ณ เวลานี้

ลิเวอร์พูล มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเข้ามาเสริมทีมหลังจากที่ปล่อย จาเรลล์ ควอนซาร์ ไปหมาด ๆ

ลิเวอร์พูล ต้องหากองหน้าเพิ่ม หรือไม่ก็ห้ามเสียใครไปอีกในตลาดซัมเมอร์นี้ หากไม่ซื้อเพิ่ม

๐ นักจิตวิทยาสำคัญยิ่ง

ผมเชื่อว่า ทุกคนจัดการกับความเศร้าโศกในแบบของตัวเองได้ การแสดงออกถึงความโศกเศร้าเสียใจของแต่ละคนไม่เหมือนเดิม

แต่การที่จะต้องแสดงออกต่อพื้นที่สาธารณะ นับเป็นส่วนสำคัญ เรามองได้สองมุมก็คือ นักบอลจะต้องจัดการกับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักมากจริง ๆ

เพราะพวกเขาโศกเศร้าจริง ๆ แต่ยังต้องทำงานต่อไปพร้อมกับพื้นที่เดิม ๆ ที่เคยมีเพื่อนคนนี้อยู่

ดังนั้น นักจิตวิทยา สำคัญอย่างมาก ที่ทีมต้องจัดการเรื่องนี้

แฟนบอลอย่างเราท่าน ไม่ต้องไปตัดสินใคร ไม่จำเป็นต้องติดใจอะไรอีกแล้ว หากใครมูฟออนได้ก่อน ก็ดึคนที่ยังดิ่งอยู่ให้ไปกับเราให้ได้

เราไม่สามารถนำ โชต้า กลับมาได้ เราแลกแชมป์กับชีวิตโชต้าไม่ได้

ดังนั้นเราต้องช่วยกันเชียร์ให้นักเตะ และทีมงานทั้งหมดของ อาร์เน่อ ชล็อต นำแชมป์มอบเซ่นสรวงดวงวิญญาณให้กับ โชต้า ให้จงได้

เชียร์ให้หนักขึ้นกว่าเดิม แรงขึ้นกว่าเดิม

๐ งานหนักไม่รู้อีกกี่เท่าของ”ชล็อต”

7 กรกฏาคม 2024 อาร์เน่อ ชล็อต คุมทีม ลิเวอร์พูล ซ้อมครั้งแรก

เขาต้องมารับงานต่อจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ คนที่กุมหัวใจสีแดงแห่งแอนฟิลด์ มาตลอดเกือบ ๆ 9 ปี นับตั้งแต่จากอำลาของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

หนนั้นหนักอึ้ง ทุกคนมองว่า เกินบ่าเกินไหล่ของชายชาวดัทช์

8 กรกฏาคม 2025 อาร์เน่อ จะคุมทีม ลิเวอร์พูล ซ้อมครั้งแรกในปรีซีซั่นที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในประวัติศาสตร์ 133 ปีของสโมสร

นั่นคือการสูญเสียนักเตะคนสำคัญของทีมไปอย่างไม่มีวันหวนคืน

นี่คืองานหนักไม่รู้อีกกี่เท่าของ”ชล็อต”

อาร์เน่อ ชล็อต จะต้องเจอกับ "ข้อสอบที่ยากที่สุด" ซึ่งเป็นข้อสอบทั้งปรนัยและอัตนัย เพราะมันไม่เคยมีบทเรียนหรือแบบเรียนใด ๆ ลักษณะแบบนี้มาก่อนเลย

กับการที่จะคอยนำทางผู้คนให้ผ่านพ้นสิ่งที่โหดร้ายเช่นนี้

ชล็อต เองไม่สามารถเป็นผู้นำด้วยสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว อุปสรรคของเขาไม่ได้เกี่ยวกับการรวมทีมให้เป็นหนึ่งเดียว มันเป็นเรื่องของการค้นหารายละเอียดสำคัญ 2 ประการ

1.ความสมดุลระหว่างความเห็นอกเห็นใจ และความคาดหวัง

2.เส้นบาง ๆ ระหว่างการให้เกียรติคนที่พวกเขารัก และการที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไป

ทุกคนไม่มีสิทธิ์เลือกว่า เมื่อไรที่มันจะทดสอบคุณ หรือว่าคุณพร้อมแค่ไหนเมื่อมันมาทดสอบเรา

ดังนั้น ชล็อต ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ และไม่จำเป็นต้องพูดคำที่ถูกต้องทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า สิ่งที่สำคัญคือความเป็นตัวตนของเขา ไม่ใช่ความสามารถในการพูด

เวลานี้นักบอลขอต้องการให้เขาอยู่เคียงข้าง เพื่อมอบพื้นที่ให้กับความเศร้าโศก ปรับความสมดุลสู่โลกแห่งความเป็นจริง ในขณะที่ ชล็อต ก็ต้องทำหน้าที่ในการเตือนนักบอลว่า เมื่อถึงเวลานั้น

การยิ้มให้กัน, การฝึกซ้อม, การมีสมาธิ กระทั่งนำไปสู่การแข่งขันในทีม เพื่อนำไปสู่การแข่งขันจริง และต้องค้นพบความสุขในเกมอีกครั้ง

เพราะนี่คือความหมายของการเป็นผู้นำโดยปราศจากบท ปราศจากสคริปท์

ไม่มีคู่มือการใช้งานสำหรับสิ่งนี้

ไม่มีเรื่องราวที่ยืมมาเป็นแนวคิดเพื่อทำตาม

ไม่มีการประดิษฐ์คำสวยหรูมาให้ทำเหมือน มีเพียงสัญชาตญาณที่จะใส่ใจ ความกล้าที่จะเปิดเผย และความไว้วางใจว่า ทุกคนจะหาหนทางผ่านมันไปด้วยกันได้

ไม่ว่าลิเวอร์พูลจะประสบความสำเร็จอะไรในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ส่วนหนึ่งของมรดกของ ชล็อต จะไม่ถูกหล่อหลอมจากสิ่งที่เขาชนะ

แต่จะมาจากวิธีที่เขาช่วยให้ผู้คนค้นหาหนทางผ่านอันสำคัญ ในสิ่งที่ผู้จัดการทีมคนไหนก็ตามในโลก ไม่เคยคิดหรือไม่เคยจะตระเตรียมการไว้ก่อนเลย

นั่นคือการวัดผลที่แท้จริงของสโมสร

นั่นคือการวัดผลที่แท้จริงของผู้คนที่เป็นผู้นำ เพราะที่นี่ไม่เคยปล่อยมือใครให้ต้องเดินเพียงลำพังมากกว่าที่ไหนๆ

ใครไหวก็ลุกขึ้นมาก่อน แล้วดึงคนรอบข้างให้ตามมา..........

ที่นี่ You’lll never walk alone ที่นี่ ลิเวอร์พูล ครับ

#บีแหลมสิงห์