นักบอลหลายคนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นดีนะ แต่เมื่อไม่มีคนกำราบ และไม่รู้จักหลาบจำ

หลายคนจึงมีสภาพอย่างที่เห็น

ไม่เหมือนตอนที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมอยู่ สามารถขับรถไปด่าต่อหน้าเมียได้ถึงเรือนชาน แบบนักบอลกลัวจนตัวสั่น (แกรี่ พัลลิสเตอร์ คือตัวอย่าง) ที่สำคัญ บรรดาเมีย ๆ ก็ชอบด้วย

แต่เดี๋ยวนี้ก็เหมือนกับหลายวงการ

ลองไปเตือนมันดูซิ เมื่อก่อนอาจด่าลับหลัง แต่เดี๋ยวนี้โพสต์ด้วย ถ้าโพสต์ไม่ได้ก็ให้คนอื่นโพสต์ด่าให้ แน่นอนจริง ๆ จนถูกด่าว่า ชิ้วเด้น เปรต

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศว่า พวกเขามีนักเตะ 5 คนได้ขอย้ายทีมและจะไม่ฝึกซ้อมร่วมกับนักเตะคนอื่น ๆ ของ รูเบน อโมริม

ปฏิกริยาคือ ริบเสื้อหมายเลข 10 ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด แล้วไปมอบให้กับไอ้หนุ่มชื่อแก่อย่าง มาเตอุส คุนญา

นับตั้งแต่ถูกเนรเทศ ความคืบหน้าสำคัญเพียงอย่างเดียวของทั้ง 5 คนคือ มีข่าวว่าพวกเขายังคงสามารถเข้าไปยังสนามฝึกซ้อมแคร์ริงตันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เหมือนเดิม, สามารถเข้าไปเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และรักษาพยาบาลได้เหมือนเก่า จนกว่าจะย้ายออกไป

แต่ต้องหลังจาก 5 โมงเย็นไปแล้ว

สมาชิกของกลุ่มที่เรียกว่า ‘หน่วยทิ้งระเบิด' ซึ่งติดอาวุธ โดยไม่มีการเจรจาอย่างสันติ ซึ่งภาพของ อโมริม เราก็เห็นแล้วว่า แข็งโป้ก ไม่ปรับเปลี่ยนใด ๆ รวมไปถึงแทคติคที่หลายคนอาจจะไม่เขาใจ แต่ตัวเขาซื้อแล้วว่า มันต้องใช้อันนี้

เมื่อจุดจบมันออกมาเป็นแบบนี้ ข้อตกลงมันเป็นอย่างนี้ ทำให้สโมสรที่สนใจนักบอลเหล่านี้ ก็ต้องรู้สถานการณ์ดีว่า นักเตะเหล่านี้มีที่ยืนอยู่ตรงไหน

เท่ากับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเจรจาจากจุดอ่อน และนี่คือปัญหาใหญ่

อันโตนี, จาดอน ซานโช และไทโรน มาลาเซีย ทำให้สโมสรต้องสูญเสียเงินมากกว่า 167 ล้านปอนด์ในการซื้อมาแล้ว “เล่นไม่ได้” เมื่อมองตรงนี้ภายใต้กฎกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก(PSR) ตรงนี้ อโมริม อาจนำเงินจำนวนนั้นไปใช้ประโยชน์ได้ หากพวกเขาถูกขาย

แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าจะเกิดขึ้น และประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง

เช่นเดียวกับการย้ายเข้า ด้วยผลงานสุดบู่ของยูไนเต็ด เมื่อซีซั่นก่อน ทำให้ซื้อใครก็แพง ขายใครก็ไม่ได้ราคา ทำให้สถานการณ์ตัวอย่างตีแผ่ชัดเจนอย่าง ไบรอัน เอ็มบูโม แนวรุกจากเบรนท์ฟอร์ด ที่ควรจะปิดดีลไปตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ แต่ตอนนี้ยังไม่จบ

เหมือนกับต้องรอการจำหน่ายนักบอลที่ไม่ต้องการออกไปจากทีมก่อน

การพึ่งพาการจากไปของ อันโตนี, การ์นาโช, แรชฟอร์ด และซานโช่ เพื่อดึงนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพ เป็นเครื่องเตือนใจว่าสโมสร ตกต่ำลงมากเพียงใด

จบในลีกอันดับที่ 15

แพ้นัดชิงชนะเลิศที่เดิมพันชีวิตอย่าง ยูโรปาลีก ทำให้รายได้ที่อาจได้รับ 100 ล้านปอนด์ตัดเป็นศูนย์

วงเงินหมุนเวียนมีปัญหา ขาดสภาพคล่อง(จริงหรือไม่) แต่ถูกอ้างว่า ไม่ดี กำลังจะกลายเป็นความจริงที่กระทบกระเทือนกลไกลการทำงานอย่างหนัก

การเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พาคุณไปได้ไกลแค่ไหน มันอาจทำให้ มาเธอุส คุนญา และ ไบรอัน เอ็มบูโม อยากย้ายมาร่วมทีม

แต่มันไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ของสโมสรได้

มันยากที่จะยอมรับกับความเลวร้ายที่เกิดขึ้น และเหมือนจะมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทีนี้มีแต่ข่าวลือออกมามากมายกับการย้ายทีมของ แรชฟอร์ด ตกเป็นข่าวกับบาร์เซโลนา

ซานโช่ จะย้ายไปยูเวนตุส แม้ว่าตัวเลือกแรกของโค้ช อิกอร์ ทูดอร์ คือการเซ็นสัญญาถาวรกับฟรานซิสโก คอนไซเซา ของทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งยืมตัวมาจากเอฟซี ปอร์โตเมื่อปีที่แล้ว

เรอัล เบติ สยังคงมีความหวังที่จะได้ตัว อันโตนี ในราคาจุ๋มจิ๋ม หลังจากที่ประสบความสำเร็จในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่แล้ว

ชื่อของ การ์นาโช่ ยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องที่ เชลซี, นาโปลี และแอตเลติโก มาดริด

มีการคาดการณ์ว่า มาลาเซีย อาจเป็นเป้าหมายของ กลาสโกว เซลติก

แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีความเป็นรูปธรรม และถ้าขายจะได้กี่ตังค์กันเชียว

แรชฟอร์ดและซานโช่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยระดับสูงสุดในพรีเมียร์ลีก เว้นแต่ว่าทั้งสองฝ่ายจะยอมรับการลดค่าเหนื่อย ซึ่งยังไม่มีข้อเสนอใด ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายยินดีจะทำเช่นนั้น

กลายเป็นแรงบีบที่กลับมากดบ่าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะต้องเสนอแรงจูงใจทางการเงินบางอย่าง เพื่อให้การย้ายทีมแบบถาวรหรือการยืมตัวเกิดขึ้นได้

ทั้ง อันโตนี และ มาลาเซีย ไม่ได้อยู่ในกลุ่มค่าเหนื่อยเดียวกัน แต่สโมสรในตลาดก็ยังไม่พร้อมที่จะเซ็นสัญญากับพวกเขา ซึ่งบ่งชี้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับทั้งคู่ เพียงแต่ในระดับที่น้อยกว่าสองคนแรก

สำหรับ การ์นาโช่ เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าจะมีใครสักคนยินดีจ่ายเงิน 60 ล้านปอนด์ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นตั้งราคาไว้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ โดยเชื่อว่า หลายทีมสามารถมีาเงินมาซื้อเขาได้

แต่เราก็เห็น ระดับความสามารถของ กานาร์โช่ ว่า เป็นผู้เล่นที่เก่งได้ แต่เป็นผู้เล่นที่ดีหรือเปล่า นั่นคืออีกเรื่อง
ขนาดตัวเขายังไม่รู้เลยว่า เขาควรจะต้องเก่งด้วย และดีด้วยนะเวลาเล่นฟุตบอล ที่เค้าเรียกว่า “เล่นเป็นทีม”

ถ้าอยากเล่นคนเดียวควรเปลี่ยนอาชีพไปแข่งวิ่ง 100 เมตร, สี่คูณสร้อย หรือไม่ก็ยิมนาสติกไปเลย

เป็นที่น่าสังเกตว่า เวลานี้ ยูไนเต็ด ได้เงินจากนักบอลที่ย้ายไปแล้ว และย้ายออกไปอีกรอบ ถือเป็นการทำรายได้มากกว่าการขายนักเตะ

การย้ายทีมของ แอนโทนี เอลังก้า จากน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ไป นิวคาสเซิล ค่าตัว 55 ล้านปอนด์ ทำให้ ยูไนเต็ด ได้รับเงิน 6 ล้านปอนด์

อัลบาโร การ์เรราส กองหลังของเบนฟิกา ย้ายไป เรอัล มาดริด โดย ยูไนเต็ด จะได้รับส่วนแบ่ง 20% จากราคาขายที่เกิน 5 ล้านปอนด์ เนื่องจากมีรายงานว่าค่าตัวทะลุไป 43.33 ล้านปอนด์ ทำให้ ยูไนเต็ด ได้รับประมาณ 7.6 ล้านปอนด์

นอกจากนี้ การย้ายทีมของ มักซี่ โอเยเดเล จาก ลิเกีย วอร์ซอ ไป สตราสบูร์ก ด้วยค่าตัว 5.2 ล้านปอนด์ อาจทำให้ยูไนเต็ดได้รับเงิน 2 ล้านปอนด์ เนื่องจากพวกเขามีเงื่อนไขการขายนักเตะอยู่ที่ 40% สำหรับกองกลางวัย 20 ปีจากซัลฟอร์ด

แต่ตัวเลขดังกล่าวจะเพียงพอที่จะระดมทุนเพื่อเซ็นสัญญากับนักเตะเพิ่มเติมหรือไม่ ยังคงต้องรอดูกันต่อไป

เมื่อความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าข้อตกลงในการขาย “กลุ่มติดอาวุธ” กลุ่มนี้ อาจจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะใกล้ถึงเส้นตายการซื้อขายในวันที่ 1 กันยายน

คำถามจึงเกิดขึ้นว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นจะมองหา “นักบอลคนอื่น” ที่อยู่ในทีมเพื่อจะขายหรือไม่

คอบบี้ เมนู ยังไม่ตกลงต่อสัญญาระยะยาว ซึ่งจะหมดลงในปี 2027 และโทบี้ คอลลิเยอร์ ก็เหลือสัญญาอีก 2 ปีที่เขาเซ็นสัญญาไปเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

ก่อนหน้านี้ อโมริม เคยกล่าวว่า เขาจะสามารถลงเล่นด้วยทีมขนาดเล็กในฤดูกาลใหม่นี้ได้ โดยไม่ต้องเจอกับปัญหายุ่งยากจากฟุตบอลยุโรป

จริงหรือไม่

หากไม่เล่นแร่แปรธาตุอย่างอย่างรวดเร็ว น่าคิดมาก เพราะไม่อย่างนั้น พวกเขาทำอะไรไม่ทัน และต้องทนรอต่อไปอีกหนึ่งหน้าต่างของตลาด

ทุกวันนี้การได้เห็นคู่แข่งย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ ขณะที่ แมนเชส เตอร์ยูไนเต็ด กำลังประสบปัญหาในทุก ๆ มิติอย่างหนักแบบนี้

มันก็น่าหงุดหงิดใจอย่างยิ่งแล้ว............

#บีแหลมสิงห์™️✍????