การแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในคู่ที่แฟนบอลจับตามองนั่นคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์รายการนี้ 6 สมัย และจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ลงสนามเป็นประเดิมที่แอนฟิลด์

เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค สวมบทฮีโร่โขกประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+2 ช่วยให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือน "ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด แบบสุดระทึกอีกแล้ว 3-2 หลังจากออกนำก่อน 2-0นี่คือ 4 ประเด็นวิพากษ์ของเต็งเบอร์ต้น ๆ ที่จะคว้าแชมป์ถ้วยนี้ในซีซั่นนี้

๐ ชนะในช่วงนาทีบุญอีกครั้ง

พลังใจอันแรงกล้าในทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต รวมถึงพลังของแอนฟิลด์ในค่ำคืนแชมเปียนส์ลีกนั้นยังคงน่าทึ่งมาก ๆ

ลิเวอร์พูล ได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมมาตลอดในซีซั่นนี้ ทุกนัดที่ลงสนาม แบ่งเป็น 4 เกมในลีก และ 1 เกมในแชมเปี้ยนส์ลีก

คำพูดติดปากที่ว่า 2-0 คือคะแนนนำที่อันตรายที่สุดในวงการฟุตบอล กำลังถูกตีความหมายใหม่โดยลิเวอร์พูล ซึ่งเสียเปรียบถึงสองครั้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ให้กับบอร์นมัธและนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเสียเปรียบอีกครั้งกับแอตเลติโก มาดริด ในแชมเปียนส์ลีก

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ก็พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยชนะได้ทุกครั้ง โดยที่ไม่ได้เล่นอย่างเป็นระเบียบ ไม่ได้ควบคุมพื้นที่ที่ดีพอ เผลเรอในบางจังหวะจนไม่ปลอดภัย แต่พวกเขาก็ยังสู้ได้

2-0 ดูเหมือนง่าย โม ซาลาห์ มีความเฉียบคม , อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดึงดูดกองหลัง และฟลอเรียน เวียร์ตซ์ หาจังหวะเข้าออกได้ ทั้งทีมเล่นได้อย่างไหลลื่น แต่น่าเสียดาย การเสียจังหวะเล็กน้อย

สุดท้ายก็ปล่อยไป แอตเลติโก มาดริด ที่เต็มไปด้วยความความมุ่งมั่นและอีโก้ คว้าช่องว่างที่ ลิเวอร์พูลปล่อยให้พวกเขาเล่นได้สำเร็จ

การมีนักบอลฝีเท้าสม่ำเสมอมันดีแบบนี้ ทำเกินหน้าที่อีกครั้งของ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค นี่คือการทำประตูจากการโหม่งให้กับลิเวอร์พูลไปแล้ว 25 ประตู

เขาทำได้มากกว่ากองหลังคนอื่นๆ ในลีกใหญ่ 5 ลีกของยุโรปถึง 6 คน นับตั้งแต่ที่ชาวดัตช์รายนี้เปิดตัวกับลิเวอร์พูลในเดือนมกราคม 2018

๐ แพลนของเกมที่ต้องสู้ด้วยพลังแฝง

ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เป็นคนที่มีพลังแฝงมาตั้งแต่สมัยเป็นนักบอล ดังนั้นทีมของเขาจะมีอะไรบางอย่างที่มักจะสร้างความแตกต่างได้อยู่เสมอตลอดการคุมทีมของเขา

ปีนี้อาจจะเล่นได้ไม่แรงนักในการออกสตาร์ท แต่เริ่มฟื้นตัวจากเกมชนะ บียาร์เรอัล ในลา ลีกา และกำลังปรับจูนกันหลายตำแหน่งเช่นเดียวกันกับ ลิเวอร์พูล

อาร์เน่อ ชล็อต ลองปรับมาเล่นแผนเดิมด้วยการเพิ่มกองกลางให้มากขึ้นเป็น 4-3-3 หรือบางขณะที่ 4-4-2 ไดมอนด์ ในการส่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงมาแทน กัคโป เพื่อแพ๊คเกม พร้อม ๆ กับการให้ คอนอร์ แบร๊ดลีย์ มาเล่นแบ๊กขวาแทน ฟริมปง กลายเป็นทีมเสียสมดุลย์ไปพักใหญ่

แม้จะให้ ริโอ เอ็นกูโมฮา ลงมาในนาทีที่ 74 เพื่อให้บอลเป็นหน้ากว้างมากขึ้น และเป็น 4-3-3 แบบสมบูรณ์ขึ้น แต่ก็มาเสียประตูทางแบ๊กขวา ที่ แบร๊ดลี่ย์ ยังอ่อนพรรษาเกินไปในการยืนตำแหน่ง เมื่อเจอกับพวกเขี้ยวลากดิน

อีกอย่างก็คือ โม ซาลาห์ เล่นร่วมกับ ฟริมปง ได้ดีกว่าเล่นกับ แบร๊ดลี่ย์ เนื่องจาก ฟริมปง มีพิษสงในการเล่นมากกว่า แบร๊ดลี่ย์ ที่ธรรมดาเกินไป

วิธีการเล่นแบบนี้มันต้องมีความพิเศษ แต่ อาร์เน่อ ชล็อต เองก็เลือกใช้แบบระมัดระวัง

๐ วิธีการที่ยังไม่สมบูรณ์

เอาเข้าจริง อาร์เน่อ ชล็อต กำลังเดินหมากใหม่ สามารถใช้นักบอลตัวรุกแนบใน หรือเล่นแบบอินเวิร์สท์ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

แต่นั่นมันเสี่ยงเกินไปที่จะเล่น จึงเลือกเล่นทีละข้าง

ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ โคดี้ กัคโป ได้สตาร์ทก่อนในฝั่งซ้าย เพราะเล่นเป็นตัวพิงด้านกว้าง

เอ็นกูโมฮา ยังไม่ต้องพูดถึง ต้องให้เล่นเป็นจังหวะ ๆ แต่ถ้า ชล็อต มองว่า ทีมพร้อมกว่านี้ อูโก้ เอกิติเก้ จะได้ยืนแทน โคดี้ กัคโป

ขณะเดียวกัน การเสียประตู 2 ลูก มันมาจากการที่กองกลางไม่ได้มีตัวรับแบบจ๋า ๆ และใช้วิธีการหมุนนักบอลจากแดนบนอย่าง โดมินิค โซโบสไล มายืนปักหลัก

โซโบสไล เป็นตัวบน, ตัวข้าง จะเป็นตัวกลางได้ดีเวลาครองบอลหรือเล่นเกมรุก แต่อย่างที่เราเห็นกันมาตั้งแต่คอมมิวนิตี้ ขิลด์ นั่นก็คือ ถ้าเมื่อไหร่เขาอยู่หลังบอลจะมีปัญหา เพราะพื้นที่มันเยอะมาก

ยังดีที่ ลิเวอร์พูล ยังคงมีมากกว่าพลังแฝง นั่นคือความมั่นใจ กับความเด็ดขาดในช่วงท้ายเกม

มันอาจจะเป็นดาบสองคมว่า 1.ชนะท้ายเกมคือการเล่นแบบเนเวอร์ เซย์ ดาย กับ 2.คุณรักษาผลสกอร์ที่นำไว้ไม่ได้ แล้วแต่มุมมอง

๐ การเดบิวต์ของ”อิซัค”

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค นักเตะค่าตัวแพงสุดของอังกฤษ มูลค่า 125 ล้านปอนด์ ขณะลงเล่นนัดแรกให้กับลิเวอร์พูล หลังจากย้ายมาจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยสถิติของเกาะอังกฤษ

เขาโชว์ลีลาการเล่นที่เคยเป็นมา แต่ก็มีอาการอ่อนล้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 58

อย่าลืมว่า เกมการแข่งขันนัดสุดท้ายของอิซัคคือวันที่ 25 พฤษภาคมกับนิวคาสเซิล โน่นเลย และไม่ได้ปรีซีซั่น ก่อนจะบินไปสมทบทีมชาติสวีเดน ลงเล่นแบบเคาะสนิม

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงต้องดูแลเขาอย่างระมัดระวัง

แฟนบอลแทบจะเป็นลม หลังจาก อิซัค ลงไปกองกับพื้นจากการเข้าอัดเข้าไปที่เท้าของ โรบิน เลอ นอร์ม็องด์

อิซัค ค่อยๆ พัฒนาเกมขึ้นมา มีโอกาสยิงสองครั้ง ซึ่ง แยน โอบลัค ผู้รักษาประตูแอตเลติโก มาดริด เซฟได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเเล่นร่วมกันกับฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เพลย์เมกเกอร์ค่าตัว 100 ล้านปอนด์

สองนักเตะหน้าใหม่ของลิเวอร์พูลประสานกันได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งแรก และสร้างโอกาสให้ เฌเรมี ฟริมปง เราสังเกตุได้ว่า อิซัค กับ เวียร์ตซ์ ให้บอลกันอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยวิธีการหันหลังให้ประตูโดยไม่มองหน้า สร้างเสียงชื่นชมจากแฟนๆ ได้อย่างน่าสนใจ

อิซัคและเวียร์ตซ์ ประสานงานกันถึง 9 ครั้งในเกมนี้

นี่คือ ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของการทำงานร่วมกันนี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาจะเป็นอาวุธที่น่าเกรงขามในคลังแสงของลิเวอร์พูล

สล็อต กล่าวว่า "ในช่วง 60 นาทีที่ อิซัค ลงเล่น เขาดูฟิตสมบูรณ์ดีสำหรับผม หลังจากผ่านไป 10 นาที เขาไม่ได้เหนื่อยมากแล้ว เขาสามารถเล่นในระดับนี้ได้ค่อนข้างดีหลังจากฝึกซ้อมกับทีมมาหนึ่งหรือสองสัปดาห์

"เขาเล่นฟุตบอลได้ และเขาเป็นคนที่ดูสนุกมาก ผมไม่แปลกใจเลย เขาฟิตกว่าที่ผมคาดไว้ แต่แฟนๆ ก็ยังตั้งความหวังไว้สูงเกินไป เราเล่นกันสัปดาห์ละสามครั้ง ซึ่งมันมากเกินไปสำหรับเขาอยู่ดี”

"เรามีกองหน้าหมายเลข 9 ที่ยอดเยี่ยมสองคน คือ อิซัคและอูโก้ เอกิติเก้ และเราจะใช้พวกเขาทั้งสองคนนี้ตลอดอาชีพค้าแข้งที่นี่"

......ในท้ายที่สุด ลิเวอร์พูล ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติในฤดูกาลนี้ นั่นคือ ไม่ยอมง่าย ๆ ไม่ยอมแพ้

ครั้งนี้ เฟอร์จีล ฟาน ไดค์ คว้าชัยชนะให้กับลิเวอร์พูล ทำให้การฉลองวันเกิดของ อาร์เน่อ ชลอต พลิกชะตาจากผลที่กำลังจะผิดหวังด้วยการเสมอ กลายเป็น 3 คะแนนอันล้ำค่า

สิ่งที่ทีมนี้มีคือ บุคลิก, ความกระหาย, วิธีการและความสามารถทมที่ได้เปรียบ สัมผัสได้ถึงความมั่นใจอย่างเงียบๆ ว่าโอกาสอีกครั้งจะมาถึง และพวกเขาจะพร้อมเมื่อถึงเวลานั้น

ประตูช่วงท้ายเกมไม่ใช่แค่โชคช่วย แต่มันมาจากการทำได้บ่อย ๆ อย่างเชื่อมั่น

เพียงแต่อย่าทำให้เป็นนิสัย

อย่าให้มีครั้งที่ 6

#บีแหลมสิงห์