"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กับ "ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือปรากฏการณ์ของฟุตบอล
คู่นี้เจอกันครั้งแรก ในวันที่12ตุลาคม1895 เมื่อ 130 ปีที่แล้ว
คู่นี้มีความสำคัญกันไปมามากมาย และต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ยังไม่มีการล่าอาณานิคมทางเชิงลูกหนังด้วยซ้ำ
เมืองลิเวอร์พูล กับ เมืองแมนเชสเตอร์ ที่อยู่ตรงทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้รับการบันทึกแรกจากโลกใบนี้
พวกเขาคือสองเมืองแรกที่มี”รถไฟ”เชื่อมต่อระหว่างเมือง
15 กันยายน 1830 คือ”วันเปิดราง”อย่างเป็นทางการ ผู้คนสองเมืองนี้ชื่นมื่นกับคำว่า First inter-city railway in the world !!!.
ด้วยระยะทางรวมทั้งสิ้น 35 ไมล์ หรือ 56 กิโลเมตร เท่ากับระยะทางที่ห่างกันของสองเมืองนี้พอดิบพอดี
ในช่วงเวลาดังกล่าว กระทั่งจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 ลิเวอร์พูล ได้เจริญเติบโตเป็นท่าเรือที่สำคัญ
ไม่เพียงแต่ในอังกฤษ แต่กลายเป็นเมืองท่าระดับโลก
เนื่องมาจากการค้าขายทางเรือมากกว่า 40% ของโลกใบนี้ต้องมาเทียบท่าที่เมอร์ซี่ย์ไซด์
ทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ก็เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งแรก และใหญ่โตที่สุดของโลก ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ อุตสาหกรรมทอฝ้าย ที่เป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอังกฤษ และสหราชอาณาจักร
ยังผลให้สองเมืองนี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและความสำเร็จของโรงงานฝ้ายทั้งภูมิภาคทางตอนเหนือของอังกฤษ
ไม่แปลกที่จะถูกขนานนามให้เป็น เป็นเมืองสำคัญแห่งที่สอง หรือเมืองหลวงที่สองของจักรวรรดิอังกฤษ เพราะการเชื่อมโยงระหว่างสองเมืองนี้ แข็งแกร่งอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อไหร่ที่จะต้องขนของมายังเมืองแมนเชสเตอร์ อาทิ ฝ้ายดิบ ก็ต้องมาพักที่ลิเวอร์พูล ทั้งทางรถไฟ และทางเรือ ทำให้มีการเสียภาษีต่าง ๆ มากมาย บวกกับแรงกระเพื่อมที่เพิ่มขึ้น
ความต้องการชิงเป็นหมายเลข 1 ของย่านนี้
แน่นอนว่า ไม่มีเบอร์หนึ่งถึงสองคน ก็ย่อมมีเบอร์หนึ่งได้แค่เมืองเดียว!
ในที่สุด เมืองแมนเชสเตอร์ ได้มีแคมเปญการรณรงค์ขอการสนับสนุนไปยังคนในเมือง ในเรื่อง”ขอขุดคลองแห่งใหม่” เพื่อเชื่อมต่อจากทะเลไอริช เข้าสู่แมนเชสเตอร์โดยตรง เพื่อทดแทน คลองบริดจ์วอเตอร์ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1776 รวมไปถึงคลองที่เชื่อมผ่านแม่น้ำเมอร์ซี่ย์มายังแมนเชสเตอร์
แผนการนี้สำเร็จ ทำให้เกิดการขุดลอกคลองที่ชื่อ ”คลองเดินเรือแมนเชสเตอร์” หรือ The Manchester Ship Canal ซึ่งเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1894
เหตุการณ์นี้เกิดผลกระทบเต็ม ๆ กับ ลิเวอร์พูล ที่ต้อง “ล่มปากอ่าว” ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีตรงนี้ ทำให้ต้องเสียรายได้อย่างมหาศาล พร้อมกับคนต้องตกงานแทบจะกลายเป็นเมืองร้างในเวลาต่อมา
เรื่องนี้นี่แหละที่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า เป็นการก่อกำเนิดการจงเกลียดจงชังกันอย่างรุนแรงของสองเมืองนี้
น่าแปลกที่เชิงลูกหนัง ทั้งสองทีมก็ต่อกรชิงดีชิงเด่นในเรื่องความสำเร็จกันมาโดยตลอด และกลายเป็นสองทีมที่มีแฟนฟุตบอลคลั่งไคล้ไปทั่วโลก
ทั้งการยึดแชมป์รายการต่าง ๆ มากมาย และมีช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ที่ยาวนานเหมือนกัน แถมยังคงเป็นเกมที่ทั่วโลกให้การรอคอยทุกครั้งที่ลงสนาม เป็นอาทิ
จากเดิมคือ First inter-city railway in the world กลายมาเป็นคู่ปะทะดาร์บี้แมทช์แห่งประเทศ มากกว่าฉายา North-West Derby
แน่นอนว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อะไร ทุกแมทช์ที่มีการพบกัน มีค่ามีความสำคัญยิ่งกว่าผลการแข่งขัน
มันคือเกียรติและศักดิ์ศรีที่ค้ำคอกันอยู่นานนับร้อยปี เพราะแพ้ใครแพ้ได้
แต่แพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาล…ไม่ได้!!!
บี แหลมสิงห์
บันทึก32นัด'แดงเดือด'ยุคพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์
๐ ซีซั่น 1992-93
6 มีนาคม 1993 แมนฯยู ชนะ 2-1
เอียน รัช นาทีที่ 50-มาร์ค ฮิว์จส์ นาทีที่ 42, ไบรอัน แม็คแคลร์ นาทีที่ 56
๐ ซีซั่น 1993-94
4 มกราคม 1994 เสมอ 3-3
ไนเจล คลัฟ 2 ลูก นาทีที่ 25 กับ 38, นีล รัดด็อก นาทีที่ 79-สตีฟ บรู๊ซ นาทีที่ 9, ไรอัน กิ๊กส์ นาทีที่ 20, เดนนิส เออร์วิน นาทีที่ 24
๐ ซีซั่น 1994-95
19 มีนาคม 1995 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เจมี่ เร้ดแนปป์ นาทีที่ 25, สตีฟ บรู๊ซ(ทำประตูตัวเอง) นาทีที่ 85
๐ ซีซั่น 1995-96
17 ธันวาคม 1995 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 2 ลูก นาทีที่ 45 กับ 86
๐ ซีซั่น 1996-97
19 เมษายน 1997 แมนฯยู ชนะ 3-1
จอห์น บาร์นส์ นาทีที่ 19-แกรี่ พัลลิสเตอร์ นาทีที่ 13, นาทีที่ 42 และแอนดี้ โคล นาทีที่ 63
๐ ซีซั่น 1997-98
6 ธันวาคม 1997 แมนฯยู ชนะ 3-1
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์(จุดโทษ นาทีที่ 60)-แอนดี้ โคล นาทีที่ 51 กับ 64 และเดวิด เบ๊คแฮม นาทีที่ 70
๐ ซีซั่น 1998-99
5 พฤษภาคม 1999 เสมอ 2-2
เจมี่ เร้ดแนปป์ จุดโทษ นาทีที่ 69, พอล อินซ์ นาทีที่ 89-ดไวท์ ยอร์ค นาทีที่ 23, เดนนิส เออร์วิน จุดโทษ นาทีที่ 56
* เดนนิส เออร์วิ่น โดนไล่ออก นาทีที่ 75
๐ ซีซั่น 1999-2000
11 กันยายน 1999 แมนฯยู ชนะ 3-2
ซามี่ ฮูเปีย นาทีที่ 23, พาทริค แบร์เกอร์ นาทีที่ 68-เจมี่ คาร์ราเกอร์ ทำประตูตัวเอง 2 ลูก นาทีที่ 3 กับ 44 และแอนดี้ โคล นาทีที่ 18
* แอนดี้ โคล โดนไล่ออก นาทีที่ 71
๐ ซีซั่น 2000-01
31 มีนาคม 2001 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
สตีเว่น เจอร์ราร์ด นาทีที่ 16 และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ นาทีที่ 41
* แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ โดนไล่ออก นาทีที่ 69
๐ ซีซั่น 2001-02
4 พฤศจิกายน 2001 ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1
ไมเคิล โอเว่น 2 ลูก นาทีที่ 32 กับ 51 และยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ นาทีที่ 39-เดวิด เบ๊คแฮม นาทีที่ 50
๐ ซีซั่น 2002-03
1 ธันวาคม 2002 แมนฯยู ชนะ 2-1
ซามี่ ฮูเปีย นาทีที่ 82-ดีเอโก้ ฟอร์ลัน 2 ลูก นาทีที่ 64 กับ 67
๐ ซีซั่น 2003-04
9 พฤศจิกายน 2003 แมนฯยู ชนะ 2-1
แฮร์รี่ คีลล์ นาทีที่ 76-ไรอัน กิ๊กส์ 2 ลูก นาทีที่ 59 กับ 70
๐ ซีซั่น 2004-05
15 มกราคม 2005 แมนฯยู ชนะ 1-0
เวย์น รูนี่ย์ นาทีที่ 21
* เวส บราวน์ โดนไล่ออก นาทีที่ 65
๐ ซีซั่น 2005-06
18 กันยายน 2005 เสมอ 0-0
๐ ซีซั่น 2006-07
3 มีนาคม 2007 แมนฯยู ชนะ 1-0
จอห์น โอเช นาทีที่ 90
* พอล สโคลส์ โดนไล่ออก นาทีที่ 86
๐ ซีซั่น 2007-08
16 ธันวาคม 2007 แมนฯยู ชนะ 1-0
คาร์ลอส เตเวซ นาทีที่ 43
๐ ซีซั่น 2008-09
13 กันยายน 2008 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1
เวส บราวน์ ทำประตูตัวเอง นาทีที่ 27, ไรอัน บาเบล นาทีที่ 77-คาร์ลอส เตเวซ นาทีที่ 3
* เนมานญ่า วีดิช โดนไล่ออกนาทีที่ 90
๐ ซีซั่น 2009-10
25 ตุลาคม 2009 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เฟร์นานโด ตอร์เรส นาทีที่ 65, ดาวิด เอ็นก๊อก นาทีที่ 90
* เนมานญ่า วีดิช โดนไล่ออกนาทีที่ 89, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ โดนไล่ออก นาทีที่ 90
๐ ซีซั่น 2010-11
6 มีนาคม 2011 ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1
เดิร์ค เคาท์ แฮททริค นาทีที่ 34, 39 และ 65-ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ นาทีที่ 90
๐ ซีซั่น 2011-12
15 ตุลาคม 2011 เสมอ 1-1
สตีเว่น เจอร์ราร์ด นาทีที่ 68-ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ นาทีที่ 81
๐ ซีซั่น 2012-13
23 กันยายน 2012 แมนฯยู ชนะ 2-1
สตีเว่น เจอร์ราร์ด นาทีที่ 46-ราฟาเอล นาทีที่ 51, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ จุดโทษ นาทีที่ 81
* จอนโจ้ เชลวี่ โดนไล่ออกนาทีที่ 39
๐ ซีซั่น 2013-14
1 กันยายน 2013 ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0
แดเนี่ยล สเตอรริดจ์ นาทีที่ 4
๐ ซีซั่น 2014-15
22 มีนาคม 2015 แมนฯยู ชนะ 2-1
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ นาทีที่ 69-ฆวน มาต้า นาทีที่ 14 กับ 59
* สตีเว่น เจอร์ราร์ด โดนไล่ออกนาทีที่ 46
๐ ซีซั่น 2015-16
17 มกราคม 2016 แมนฯยู ชนะ 1-0
เวย์น รูนี่ย์ นาทีที่ 78
๐ ซีซั่น 2016-17
17 ตุลาคม 2016 เสมอ 0-0
๐ ซีซั่น 2017-18
14 ตุลาคม 2017 เสมอ 0-0
๐ ซีซั่น 2018-19
16 ธันวาคม 2018 ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1
ซาดิโอ มาเน่ นาทีที่ 24, เซอร์ดาน ชากีรี่ 2 ลูก นาทีที่ 73 กับ 80-เจสซี่ ลินการ์ด นาทีที่ 33
๐ ซีซั่น 2019-20
19 มกราคม 2020 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค นาทีที่ 14 และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 90
๐ ซีซั่น 2020-21
17 มกราคม 2021 เสมอ 0-0
๐ ซีซั่น 2021-22
19 เมษายน 2022 ลิเวอร์พูล ชนะ 4-0
หลุยส์ ดิอาซ นาทีที่ 4, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 2 ลูก นาทีที่ 22 กับ 85 และ ซาดิโอ มาเน่ นาทีที่ 85
๐ ซีซั่น 2022-23
5 มีนาคม 2023 ลิเวอร์พูล ชนะ 7-0
โคดี้ กัคโป 2 ลูก นาทีที่ 43 กับ 50, ดาร์วิน นูนเญซ 2 ลูก นาทีที่ 47 กับ 75, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 2 ลูก นาทีที่ 66 กับ 83 และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ นาทีที่ 88
๐ ซีซั่น 2023-24
17 ธันวาคม 2023 เสมอ 0-0
๐ ซีซั่น 2024-25
5 มกราคม 2025 เสมอ 2-2
โคดี้ กัคโป นาทีที่ 59, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 70(จุดโทษ)-ลิซานโดร มาร์ติเนซ นาทีที่ 52, อาหมัด ดิยัลโล่ นาทีที่ 80
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี