นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการมาตรฐานแห่งชาติ (กมช.) ซึ่งมีนายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่าในการประชุมสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาการปฏิรูปโครงสร้างระบบมาตรฐานแห่งชาติ โดยเสนอให้ปรับเพิ่มขอบข่ายและบทบาทของกมช.และยกระดับสำนักงานคณะกรรมการการมาตรฐานแห่งชาติ (สมช.) ที่ปัจจุบันเป็นหน่วยงานระดับสำนักในสังกัด สมอ.ขึ้นเป็นหน่วยงานระดับกรม
โดยระยะแรกให้อยู่ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปก่อน โดย สมช.จะรับโอนภารกิจการรับรองระบบงานจาก 4 หน่วยงานมาดูแลทั้งหมด โดยรับโอนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) โดยที่ สมช.ทำหน้าที่รับรองระบบงานให้แก่หน่วยงานรับรองมาตรฐานทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อความเป็นเอกภาพของหน่วยงานการรับรองระบบงานแห่งเดียวของประเทศ หรือ Single National Accreditation Body จากปัจจุบันยังขาดเอกภาพหลายส่วนไม่มีบูรณาการ
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อให้Single National Accreditation Bodyเกิดขึ้นเร็วที่สุด รองนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ตั้งคณะทำงาน ซึ่งมีนายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ทำหน้าที่หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ขณะนี้ทำหน้าที่รับรองมาตรฐาน ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติการมาตรฐานแห่งชาติ พ.ศ.2551 ให้เสร็จภายในปี 2560
“ขณะนี้หน่วยงานอินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรี่ แอคเครดิเทชั่นโคออเปอเรชั่น (ไอแลค) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจรับรองระบบงานในระดับสากล เริ่มจับตามองการออกระบบมาตรฐานของประเทศต่างๆ ดังนั้นไทยต้องเร่งปรับปรุงตัวเพื่อให้การตรวจมาตรฐานสินค้าเป็นไปตามหลักสากล เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต”นายสมชายกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี