❛...การทำสารคดีก็นับเป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง เพราะเรานำเสนอสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อส่วนรวม รายการในลักษณะนี้ถ้าเราไม่ทำใครจะทำ เรื่องบางเรื่องของบางอย่างคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักเมื่อเรานำเสนอก็ทำให้เรื่องนั้นของสิ่งนั้นยังคงอยู่ นี่คือสิ่งที่ตัวผมเองซึมซับมาจากคุณแม่...❛

กระจกหกด้าน รายการสารคดีที่ออกอากาศทางช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ มายาวนานถึง 36 ปี โดยมีเสียงของ สุชาดี มณีวงศ์ผู้บรรยาย จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของรายการ แต่ในการผลิตยังมีอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่อยู่หลังฉากอย่าง อลงค์กร จุฬารัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต บริษัท ทริลเลี่ยนส์ แอนด์ ทรีไลอ้อนส์ จำกัด ที่ทำให้กระจกหกด้านเป็นรายการโทรทัศน์ที่อยู่คู่ช่อง 7 และนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับผู้ชมมาโดยตลอด

อลงค์กร ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เขาเป็นลูกชายคนที่ 3 ของคุณแม่สุชาดี เป็นลูกชายที่เข้ามาช่วยงานคุณแม่อย่างเต็มตัวมานานนับสิบปีและเขาคือผู้ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรายการกระจกหกด้านให้มีความแปลกใหม่ทันสมัย รวมถึงรายการสารคดีอื่นๆ ที่ ทริลเลี่ยนส์แอนด์ ทรี ไลอ้อนส์ เป็นผู้ผลิตอีกด้วย

“กระจกหกด้าน เป็นรายการสารคดีเดียวที่อายุมากที่สุดก็ว่าได้ที่ยังคงออกอากาศอยู่ ตลอด 36 ปี ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของสังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการเกิดขึ้นจากปัจจัยหลักสองข้อคือ หนึ่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ความต้องการของผู้ชม เพราะผู้ชมในยุคปัจจุบันไม่ชอบการนำเสนอแบบเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดความน่าสนใจ เนื่องจากสารคดี ไม่ใช่รายการที่คนนิยมดูกันเป็นหลัก เราจึงต้องคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้คนเข้ามาดู และทำในสิ่งที่คนอยากจะดู ส่วนอย่างที่สองคือ ทีมงาน พอยุคเปลี่ยน คนเปลี่ยน วิธีการนำเสนอเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยนหมด แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นภายใต้ความเป็นกระจกหกด้าน นั่นคือ เนื้อหาต้องมีความน่าสนใจ เชื่อถือและอ้างอิงได้”

ความท้าทายของการทำรายการสารคดีที่ออกอากาศเพียงไม่กี่นาที อลงค์กร ยอมรับว่าเป็นงาน “ยาก” ทั้งการหาเรื่องราวมานำเสนอ การค้นคว้าหาข้อมูลที่จะนำไปสู่บทสารคดีที่น่าสนใจมีความน่าเชื่อถือและอ้างอิงได้ บางเรื่องกว่าจะออกอากาศได้ใช้เวลาในการผลิตร่วมเดือน การนำเสนอที่มีความน่าสนใจ สิ่งที่ตามมาคือต้นทุนการผลิตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงทำให้คนทำสารคดีมีน้อย

“ความตั้งใจของคุณแม่ที่ก่อตั้งบริษัทและทำรายการกระจกหกด้าน รวมถึงรายการสารคดีอื่นๆ ท่านต้องการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมที่จะทำให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงแม้จะเป็นรายการที่เรตติ้งไม่สูงและไม่ทำให้เกิดผลกำไรมากเหมือนการทำรายการโทรทัศน์ประเภทอื่นๆ ก็ตาม แต่การทำสารคดีก็นับเป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง เพราะเรานำเสนอสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อส่วนรวม รายการในลักษณะนี้ถ้าเราไม่ทำใครจะทำ เรื่องบางเรื่องของบางอย่างคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักเมื่อเรานำเสนอก็ทำให้เรื่องนั้นของสิ่งนั้นยังคงอยู่ นี่คือสิ่งที่ตัวผมเองซึมซับมาจากคุณแม่ และส่งต่อไปให้ทีมงาน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณช่อง 7 ด้วยที่เห็นความสำคัญของรายการสารคดี และให้โอกาสเราได้ทำตรงนี้”

ปัจจุบัน ทริลเลี่ยนส์ แอนด์ ทรี ไลอ้อนส์ ภายใต้การดูแลควบคุมการผลิตของ อลงค์กร ไม่ได้มีแต่เฉพาะ กระจกหกด้าน ที่เป็นพี่ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมี กระจกหกด้านบ้านใหม่ ที่ต่อยอดอย่างแตกต่างจากกระจกหกด้าน, สารคดีชุดยาว ไทยสามัญประจำบ้าน สารคดีที่ผลิตมาเพื่อส่งเสริมให้คนไทยรักความเป็นไทยด้วยการหยิบเอาสิ่งดีๆ ที่อยู่ในเมืองไทยมาใช้เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างยั่งยืน, สารคดีร้อยเรื่องเมืองไทย นำเสนอสิ่งดีๆ ที่อยู่ในเมืองไทยให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ มีสิ่งใดบ้างที่เราคนไทยควรร่วมธำรงรักษาไว้ให้อยู่คู่ประเทศไทย และ สารคดีพุทธศาสนศรัทธา ที่จะออกอากาศในช่วงวันหยุดวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น

“ผมเคยคิดว่าจะทำรายการวาไรตี้โชว์ แต่เมื่อคิดดูแล้วเราผลิตรายการสารคดีคือจุดแข็งของเรา เป็นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด และที่ผ่านมาไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรเราก็สามารถดำเนินธุรกิจมาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่าการเติบโตไม่ใช่ว่าเราจะผลิตรายการอะไรก็ได้ หรือรับผลิตรายการเป็นสิบรายการ แต่การที่เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ และทำได้อย่างมีคุณภาพในขอบเขตความถนัดของเราเองเป็นการเติบโตที่สร้างความมั่นใจและเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืน”

อีกสิ่งหนึ่งที่ อลงค์กร ภาคภูมิใจ คือการที่ ทริลเลี่ยนส์แอนด์ ทรี ไลอ้อนส์ เปรียบเสมือนโรงเรียนผลิตคนทำรายการสารคดีที่มีคุณภาพนั่นเอง

“เราให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นทีมงาน เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าการทำสารคดีต้องทำให้น่าสนใจ น่าติดตาม ฉะนั้นน้องๆ รุ่นใหม่ โดยเฉพาะที่จบมาใหม่ๆ เขาจะมีไอเดียบรรเจิด ล้ำสมัย เราให้โอกาสเขาได้นำเสนอไอเดีย โดยมีทีมงานรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่าก็จะมีส่วนช่วยในการตบความคิดนั้นให้เป็นรูปร่าง มาช่วยกันตกตะกอนทางความคิด อะไรทำได้ทำไม่ได้ นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้บริษัทอยู่ได้ หากเราใช้แต่คนรุ่นเก่าความคิดก็จะอยู่ในรุ่นนั้น ต่อให้เราจะพยายามปรับมากแค่ไหน เราก็จะยังเป็นคนในรุ่นหนึ่ง เราจะไม่ใช่คนรุ่นใหม่และร่วมสมัยอยู่ดี แต่มันก็เป็นวัฏจักรพอรุ่นใหม่เขาเก่ง ก็ออกไปเติบโตข้างนอก ซึ่งผมก็ยินดีที่เห็นน้องๆ เติบโต เพราะผมเชื่อว่าเราได้มอบประสบการณ์และความรู้ในโลกการทำงานที่แท้จริงให้เขานำไปใช้”

ในฐานะผู้ผลิตรายการ อลงค์กร บอกว่าการแข่งขันของรายการโทรทัศน์มีสูง ผู้ผลิตรายการเลือกที่จะผลิตรายการที่คนดู “อยากดู” มากกว่ารายการที่ “ควรดู” เพื่อเรียกเรตติ้งและรายได้จากผู้สนับสนุนรายการ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังเชื่อว่ามีผู้ชมโทรทัศน์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อยากดู” รายการที่มีสารประโยชน์เช่นกัน