ศาสนาเป็นสิ่งสำคัญที่คนใช้เป็นหลักในการดำรงชีวิต และทุกศาสนาก็สอนให้เป็นคนดี

โดยเฉพาะศาสนาพุทธ ที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือ ซึ่งศาสนาได้ช่วยให้ทำอะไรมีสติ มีปัญญาในการที่จะอยู่ และมีชีวิตที่เป็นสุข และพอเพียงไม่เบียดเบียนกัน

ผู้เขียนเอง ตั้งแต่เล็กพ่อตาย ไม่ได้อยู่กับแม่พ่อถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยหาผู้ร้ายไม่ได้ เพราะคนฆ่าเป็นคนมีอิทธิพล มีเงิน ทำให้ผู้เขียนอยากสอนตำรวจ ผลจากพ่อตายทำให้ลูก 7 คน วัยตั้งแต่แบเบาะจนถึง 11 ขวบ ต้องอยู่อย่างยากลำบาก เพราะแม่ไม่มีความรู้พอจะเลี้ยงลูกได้ ลูกๆ เลยต้องไปอยู่กับญาติหรือคนอื่น เหลือลูกไม่กี่คนให้แม่เลี้ยง

แม่เลยต้องไปอาศัยบ้านญาติเพื่อทำงานให้ลูกๆ จะได้มีข้าวกิน

ส่วนผู้เขียนต้องไปอยู่กับน้าที่ตีแทบจะทุกวัน โดยไม่ค่อยได้มีเมตตาต่อเด็ก ขาดพ่อตัวผอมกระหร่อง วัยแค่ 7 ขวบ ทั้งๆ ที่น้ามีเงิน

น้าให้ทำงานทุกอย่างตั้งแต่เลี้ยงลูกน้า แถมต้องหาบนํ้าที่ไกลถึงครึ่งกิโล (ที่บ้านน้าไม่มีนํ้า) ซักรีดผ้า หุงข้าวหม้อใหญ่ที่ต้องใช้รินนํ้าข้าวร้อนๆ จนนํ้าข้าวลวกมือพองแทบจะทุกวัน ทำกับข้าวซื้อกับข้าวตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทั้งๆ ไม่ค่อยสบายก็ให้ไปซื้อ เคยเป็นลม ก็เกือบโดนรถรางชนตาย จนหมดกำลังใจหลายรอบ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ยังดีที่มีศาสนาพุทธที่ผู้เขียนยึดเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต และเรียนหนังสือ ต้องขอบพระคุณศาสนาพุทธที่ทำให้ผู้เขียนอยู่ได้อยู่ดีจนทุกวันนี้ (โดยไม่คิดฆ่าตัวตาย ตั้งแต่เด็กด้วยการไหว้พระทุกคืน)

และศาสนาทำให้ผู้เขียนปลื้มและดีใจที่นพ.สิร สุภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ โรคไตวิทยา บุตรชายคนโตของผู้เขียน กับศาสตราจารย์ จรูญ สุภาพ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะอุปสมบทในวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม 2560 เวลา 18.00 น. แทน 09.00 น. เดิมที่วัดชนะสงคราม (ปลงผม 15.30 น. ขอขมา 16.30 น. เคลื่อนคณะไปอุโบสถ 17.30 น. เริ่มพิธีอุปสมบท 18.00 น.) และวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2560 ทำบุญฉลองพระใหม่ เวลา 10.00 น. ที่คณะ 16 วัดชนะสงคราม มีพิธีสงฆ์ ถวายภัตตาหารเพล พระ24 รูป (รวมพระหมอสิรที่ปกติเป็นคนเลื่อมใสศาสนาอย่างมาก)

ที่เขียนมานี้ เพื่อให้กุศลผลบุญบันดาลให้แฟนๆคอลัมน์ผู้เขียน มีแต่ความสุขความเจริญปราศจากโรคภัย อันตรายเช่นกัน