นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยเล่นการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย ความวิบัติของชาติบ้านเมือง เพราะเขาคิดเพียงต้องการอำนาจรัฐ เนื่องจากมีอำนาจรัฐแล้วมีผลประโยชน์มหาศาลตามมา ส่วนมีอำนาจแล้วทำลายศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขาหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะคนจำพวกนี้รู้ตัวดีว่าพวกของตนเองและตนเองนั้นไม่มีความเป็นคนมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว
ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดเจนว่านักการเมืองจำพวกตะกายหาอำนาจรัฐจึงขอเป็นรัฐบาลเท่านั้น คนจำพวกนี้ปฏิเสธการเป็นฝ่ายค้านอย่างเด็ดขาด แล้วพบด้วยว่าไม่ว่ารัฐบาล
จะมีความชั่วช้าสามานย์ โกงบ้านกินเมือง หรือขายชาติอย่างไรก็ตาม นักการเมืองจำพวกต้องการอำนาจรัฐยังคงยืนยันจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป
บัดนี้ เราทุกคนเห็นชัดแล้วว่า รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันประกาศตัวเป็นมิตร เป็นฝ่ายเดียวกับฮุนเซนแห่งกัมพูชา แล้วยังประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับทหาร แต่ถึงกระนั้นนายกรัฐมนตรีไทยที่ประกาศเรื่องดังกล่าวออกไปก็ยังคงไม่รับผิดชอบต่อความผิดที่ตนเองได้กระทำขึ้น ทั้งๆ ที่ได้ยอมรับแล้วว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้พูดเรื่องการเป็นมิตรกับฮุนเซนด้วยตัวเอง แต่เมื่อความจริงถูกเปิดโปงโดยฮุนเซนก็กลายเป็นว่านายกรัฐมนตรีก็แก้ตัวว่าขออภัย แล้วยังเฉไฉอีกว่าเป็นเทคนิคการเจรจาความเมือง โดยอ้างแบบฟังไม่ขึ้นว่าต้องทำให้คู่เจรจาไว้วางใจก่อน แล้วจึงจะเจรจากันต่อไปได้
แต่ต้องย้ำว่าถ้อยคำจากปากของนายกรัฐมนตรีไทยคือการประกาศว่าสยบยอมต่อฮุนเซน แถมยังประกาศตัวเป็นศัตรูกับทหารไทย ซึ่งไม่ต่างไปจากการตัดหัวขุนศึกของไทยส่งไปมอบให้กับฝ่ายฮุนเซน ทั้งๆ ที่ฮุนเซนแสดงความเป็นศัตรูกับไทยอย่างเปิดเผยมาตั้งแต่ครั้งอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ปราสาทพระวิหาร แล้วยังตามมาด้วยการจงใจส่งคนกัมพูชาเข้าไปร้องเพลงชาติในเขตปราสาทตาเมือนธม และเรื่องการจงใจขุดสนามเพลาะล่วงละเมิดเข้าไปในเขตอธิปไตยของไทย แล้วตามมาด้วยการนำเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควายและพื้นที่สามเหลี่ยมมรกตไปฟ้องร้องต่อศาลโลก โดยหวังลากให้ไทยติดร่างแหเข้าไปอยู่ในเกมที่ฮุนเซนกำหนดไว้
มันสุดแสนประหลาดมหัศจรรย์ที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคกล้าธรรมพรรคประชาชาติ ยังคงยืนยันอยู่ร่วมกับรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีประกาศตัวเป็นพวกเดียวกับฮุนเซน การที่พรรคการเมืองเหล่านั้นยังคงอยู่ร่วมเป็นรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และมี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็อาจจะต้องการประกาศให้คนไทยและนานาชาติรู้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่ว่านั้นคือฝ่ายเดียวกับฮุนเซนแห่งกัมพูชา
ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมกับการอยู่ร่วมเป็นรัฐบาลผสมที่มีหัวหน้ารัฐบาลซึ่งประกาศตัวเป็นพวกเดียวกับฮุนเซน แล้วก็ต้องยอมร้บโดยปริยายว่าพรรคเหล่านั้นอยู่ฝั่งเดียวกับฮุนเซน
พรรคการเมืองที่ร่วมเป็นรัฐบาลกับแกนนำที่ประกาศจากปากของหัวหน้ารัฐบาลว่าทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตนเอง แล้วยืนยันด้วยคำพูดว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนฝั่งเดียวหรือพวกเดียวกับศัตรูของประเทศไทยคือฮุนเซน ย่อมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพรรคการเมืองเหล่านั้นจงรักภักดีต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศไทย ดังนั้นพรรคการเมืองที่ไม่รักษาอธิปไตยของประเทศไทยก็คือพรรคการเมืองที่ล้างผลาญอธิปไตยของประเทศไทย
คนไทยที่ยืนหยัดและยึดมั่นในการพิทักษ์รักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศไทยไว้ ไม่มีวันยอมให้รัฐบาลไทยที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายเดียวกับฮุนเซนมีอำนาจบริหารประเทศไทยต่อไป หากขืนยังปล่อยรัฐบาลไทยที่เป็นพวกเดียวกับฮุนเซนมีอำนาจรัฐต่อไป ก็หมายความว่าคนไทยยินยอมเสียอธิปไตยให้กับฮุนเซน แห่งกัมพูชา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี