เกษตรกรส่วนใหญ่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรอยู่แล้ว เพียงแต่ยังมีจุดอ่อนด้านการตลาด ส่งผลให้การผลิตสินค้าอาจไม่ตรงกับความต้องการหรือผลิตออกมามากจนล้นตลาด กระทบต่อราคาจำหน่ายผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรอยู่เป็นประจำ
นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ได้กำหนดนโยบายขับเคลื่อนภาคเกษตรที่สำคัญหลายด้าน เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ของเกษตรกร โดยเฉพาะการตั้งศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) กระจายครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศจำนวน 882 ศูนย์ ก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้ในการผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือเรื่องการตลาด เพราะถ้าเกษตรกรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพออกมาแต่ไม่มีตลาด ไม่รู้ว่าจะขายที่ไหน หรือขายราคาเท่าไร ก็ไม่สามารถตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม
ดังนั้น สศก. ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ดูแลด้านเศรษฐกิจการเกษตรทั้งระดับพื้นที่และระดับประเทศ จึงได้วางแนวทางขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ด้านเศรษฐกิจการเกษตร ขึ้นมา โดยริเริ่มจัดตั้ง เศรษฐกิจการเกษตรอาสา หรือ ศกอ. ขึ้นมาประจำศูนย์เรียนรู้ทั้ง 882 ศูนย์ ซึ่ง ศกอ.ที่คัดเลือกมานี้ต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ที่ตั้งศูนย์เรียนรู้ (ศพก.) มีความรู้ด้านการเกษตรรวมถึงด้านเศรษฐกิจการเกษตรขั้นพื้นฐาน มีจิตอาสาที่สละเวลาให้กับส่วนร่วมได้ และสามารถใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารได้ ซึ่งขณะนี้คัดเลือกเกษตรกรที่จะมาเป็นเศรษฐกิจการเกษตรอาสา ได้ครบทั้ง 882 รายแล้ว
สำหรับในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาความรู้ ศกอ. เน้นเรื่องการได้มาของข้อมูล การใช้ประโยชน์ข้อมูล การรายงานราคาสินค้าเกษตร การรายงานสถานการณ์การผลิตในท้องถิ่น การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต วิเคราะห์ราคาสินค้าและการตลาด รวมถึงวิเคราะห์อุปสงค์-อุปทานสินค้าเกษตร ทั้งนี้ สศก.มีความคาดหวังว่า ศกอ. จะสามารถเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือสนับสนุนงานตามภารกิจของสศก.
ตลอดจนเป็นเครื่องมือหนึ่งในการขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้ทั้ง 882 ศูนย์ ในฐานะเป็นผู้ช่วยถ่ายทอดความรู้ด้านเศรษฐกิจการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ได้เรียนรู้ในเรื่องราคาสินค้าเกษตรในท้องถิ่นของตน สำหรับประกอบการตัดสินใจว่าจะผลิตสินค้าชนิดไหนเมื่อไร ขายที่ไหน หรือขายเท่าไร คือจะเน้นการตลาดนำการผลิต สามารถสนองนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ศกอ.จะมีความพร้อมสามารถเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจสนับสนุนงานศูนย์เรียนรู้ ทั้ง 882 ศูนย์ได้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป อย่างไรก็ดี สศก.จะส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 คอยติดตามและให้คำปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลอีกชั้นหนึ่ง พร้อมกันนี้ก็จะมีการประเมินผลงานทั้งระหว่างการทำงานและหลังเสร็จสิ้นการทำงานคือสิ้นสุดปีงบประมาณ เพื่อคัดเลือก ศกอ.ดีเด่นระดับต่างๆ เพื่อมอบเหรียญ/โล่เชิดชูเกียรติและอาจมีแนวทางในการคัดเลือก ศกอ.ดีเด่นเพื่อไปศึกษาดูงาน
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำความรู้ด้านเศรษฐกิจการเกษตรของต่างประเทศกลับมาปรับใช้พัฒนาเศรษฐกิจในประเทศในโอกาสต่อไป
“การฝึกอบรมเกษตรกรที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะได้รับความรู้เรื่องการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทำประมง หรือการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่างๆ แต่ยังไม่เคยมีการอบรมด้านเศรษฐกิจการเกษตรเป็นหลัก ฉะนั้น การริเริ่มโครงการเศรษฐกิจการเกษตรอาสา หรือ ศกอ.ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรในครั้งนี้ มีเป้าหมายสูงสุดคือต้องการให้เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็น ศกอ. มีความรู้ที่มุ่งเน้นไปการตลาดเป็นสำคัญ สามารถมองสภาวะเศรษฐกิจในท้องถิ่นถึงระดับภาคว่ามีทิศทางเป็นแบบใด และ ศกอ.เองก็จะได้ช่วยเหลือเพื่อนเกษตรกรในการถ่ายทอดความรู้นั้นผ่านศูนย์เรียนรู้ทั้ง 882 ศูนย์ ถ้าเกษตรกรทั้งหมดสามารถมองภาพการผลิตโดยดูที่การตลาด จนมาสู่การผลิตและการขายได้ ก็น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้า สร้างรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกรครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศ” นายคมสัน กล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี