ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงราย ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านท่าก๊อพลับพลา หมู่ 6 ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ว่า หลังจากพายุลูกเห็บพัดถล่มในคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ หน่วยงานภาครัฐเข้ามาทำการช่วยเหลือล่าช้าอย่างมากนานกว่า 5 วัน โดยหลังคาบ้านยังคงพรุนด้วยลูกเห็บพัดถล่ม

โดยที่บ้านท่าก๊อพลับพลา หมู่ 6 ที่บ้านของนายสุรชัย กันจินะ อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านท่าก๊อพลับพลา พบว่า จนถึงวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 หลังจากพายุลูกเห็บพัดถล่ม หลังคาบ้านของนายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านยังคงมีสภาพเป็นรูพรุนทั้งหลังและยังไม่ได้ซ่อมแซม โดยทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ตนเองต้องยอมเสียสละกระเบื้องที่ได้รับการช่วยเหลือให้กับลูกบ้านก่อนและขอซ่อมแซมภายหลัง

นายสรุชัย เปิดเผยว่า ยอมรับว่า การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความล่าช้าจริงตามที่มีการร้องเรียนไป เพราะหลังจากเกิดพายุลูกเห็บถล่มเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทาง อบต.ท่าก๊อ ได้นำงบประมาณที่มีออกมาซื้อ กระเบื้องช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากงบประมาณมีน้อย เพราะมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 2,000 หลังคาเรือน จากนั้นทาง อบจ.เชียงราย ก็ได้นำกระเบื้องเข้ามาช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่เพียงพอ  รวมทั้งของทางจังหวัดเชียงราย ก็แจ้งจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับกระเบื้อง เพราะกระเบื้องจะมาถึงพื้นที่ประสบภัยในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เพราะต้องสั่งซื้อจากโรงงาน เนื่องจากกระเบื้องในจังหวัดเชียงราย ขาดตลาด

"การช่วยเหลือก็ยังไม่ครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด เพราะกระเบื้องที่แจกจ่ายเฉลี่ยต่อหลังคาเรือนละ 200 แผ่น ทั้งที่บ้านทุกหลังเสียหายตั้งแต่ 300 แผ่นขึ้นไป ดังนั้น ส่วนเกินชาวบ้านต้องเอาเงินตัวเองมา ซื้อกระเบื้องมาซ่อมแซม บางคนต้องไปกู้เงินมาซื้อกระเบื้องมาเพิ่ม และบางคนไม่เงินหรือที่กู้เงิน ก็ต้องนำกระเบื้องที่ได้รับการช่วยเหลือซ่อมส่วนที่เป็นห้องนอนก่อนและอีกส่วนก็ต้องปล่อยให้เป็นรูพรุนไปก่อนและเอา ผ้าใบมาคลุมข้าวของในบ้านไว้ก่อน เพื่อป้องกันฝนตกซ้ำลงมาอีก" นายสุรชัย กล่าว