วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ทุกท่านเคยได้ยินกันไหมคะ ว่าเทศกาลปีใหม่นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่ง การเริ่มต้น และ การละทิ้ง ถือเป็นช่วงเวลาดีๆที่จะทบทวนตนเองในปีที่ผ่านมา และปล่อยวางเรื่องไม่สบายใจไว้กับปีเก่า เราจึงมักจะต้อนรับปีใหม่ด้วยความยินดีความหวัง และคำอวยพรมากมายให้กับตนเองและผู้อื่น หลายท่านใช้ช่วงเวลานี้เป็นวินาทีแห่งการระลึกถึงเพื่อส่งต่อมิตรภาพและสานสัมพันธ์ หรือเป็นการให้อภัยและให้โอกาสในการเริ่มต้นใหม่ ดังนั้น คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทศกาลปีใหม่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งช่วงเวลาสำหรับส่งความรู้สึกต่อกัน และสานสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกด้วย
หากเป็นเช่นนั้น ผู้อ่านทุกท่านเคยส่งต่อความรู้สึกในเทศกาลปีใหม่อย่างไรกันบ้างคะ? ผู้เขียนขอเดาเลยว่าคงเป็นการกล่าวทักทาย แสดงความยินดี และอวยพรเพื่อความเป็นสิริมงคล หรืออาจเพิ่มความพิเศษมากขึ้นไปหน่อย ด้วยการมอบ ของขวัญ เพื่อเป็นสิ่งแทนใจในการส่งต่อความรู้สึกที่ดีเป็นแน่
ในสังคมไทยของเรา มีการใช้เทศกาลวันปีใหม่เป็นสัญลักษณ์ของการระลึกถึงและส่งต่อความรู้สึกถึงกันมาอย่างยาวนาน เราสามารถเห็นรูปแบบวิธีมากมายที่ใช้
ส่งต่อความรู้สึกถึงกันในวันปีใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับญาติผู้ใหญ่ บุคคลที่เราให้ความสำคัญ หรือบุคคลที่เราให้การเคารพนับถือ ผนวกกับวาทกรรมความมีน้ำใจและความกตัญญูอันเป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ถูกปลูกฝังกันมาช้านานของคนไทย จนถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่พบเห็นได้เสมอ ราวกับว่าเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของสังคม
การให้และรับของขวัญสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธีและบุคคล ของขวัญอาจถูกส่งต่อระหว่างบุคคลถึงบุคคล บุคคลถึงหน่วยงาน หรือหน่วยงานถึงหน่วยงานก็เป็นได้ แม้ว่าการให้และรับของขวัญในวันเทศกาลนี้จะเป็นเจตนาที่ดี แต่อีกแง่หนึ่งก็สามารถเป็นหนึ่งปัจจัยที่เป็นช่องว่างให้เกิดความไม่โปร่งใส และนำมาซึ่งการทุจริตคอร์รัปชั่นได้เช่นกัน
น่าตกใจไหมคะที่ธรรมเนียมดีงามในการส่งต่อความรู้สึกเนื่องในวันเทศกาลของสังคมนั้น สามารถกลับกลายเป็นช่องว่างของการทุจริตไปเสียได้? หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ทุกท่านคิดว่า “การให้และรับของขวัญ” ใดบ้างที่สามารถสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดการทุจริตคอร์รัปชันได้?ผู้เขียนขอยกตัวอย่างกลุ่มความสัมพันธ์ที่อาจเกิดแรงจูงใจในการทุจริตจากผลของการให้และรับของขวัญ โดยแบ่งกลุ่มความสัมพันธ์ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ การให้และรับของขวัญระหว่าง 1) ภาคเอกชน และภาครัฐที่ต้องใช้ใบอนุญาต การอนุมัติ หรือการรับรองต่างๆ เพื่อประกอบธุรกิจ2) หน่วยงานภาครัฐด้วยกันเอง ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการกำกับดูแล ตรวจสอบ และอนุมัติงบประมาณ และ3) บุคคลที่มีความสัมพันธ์ในฐานะเจ้านาย-ลูกน้องซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจเลื่อนขั้น พิจารณาตำแหน่ง หรือโยกย้าย
เนื่องจาก ของขวัญ ถือเป็นของกำนัลพิเศษที่สามารถก่อให้เกิดความรู้สึกประทับใจและสัมพันธไมตรีจึงอาจกลายเป็นเครื่องมือสร้างแรงจูงใจที่เข้าข่ายของ สินบน-สินน้ำใจ ผ่านการให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์เพื่อมุ่งหวังการเอื้อประโยชน์จากการใช้อำนาจของผู้รับในอนาคต ในด้านของผู้รับเองก็สามารถเกิดความรู้สึกของความปรองดอง ความเป็นพวกพ้อง หรือเป็นการติดหนี้บุญคุณระหว่างกัน ดังนั้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากเจตนาที่ดีนี้จึงสามารถนำไปสู่ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือที่เราเรียกกันว่า Conflict of Interests ที่นำมาซึ่งความไม่เท่าเทียมในการตัดสินใจ และการเลือกปฏิบัติซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่โปร่งใส และการทุจริตคอร์รัปชัน
จากช่องว่างของการให้และรับของขวัญในวันเทศกาล ทำให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือที่เรารู้จักกันในนามของ ACT ได้ปลุกระดมกระแสของการงดรับของขวัญในช่วงเทศกาล โดยยกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการงดรับของขวัญในหน่วยงานภาคเอกชนของต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ในบริบทของหน่วยงานไทย และทำการรณรงค์นโยบาย No Gift Policy ขึ้น เมื่อราว 4-5 ปีก่อน พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเอกชนขนาดใหญ่หลายแห่ง เพื่อร่วมป้องกันความไม่โปร่งใสจากการให้และรับของขวัญในช่วงเทศกาลซึ่งจากแรงขับเคลื่อนและการสนับสนุนจากหลายองค์กรหน่วยงาน ทำให้นโยบาย No Gift Policy ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ และมีแนวทางระบุไว้อย่างชัดเจนในแผนปฏิรูปประเทศฉบับปรับปรุง ปี พ.ศ. 2564
นอกจากนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐและบุคลากรภายในองค์กรมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หน่วยงานต่างๆ ได้ยึดแนวปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตราที่ 128 มากำหนดใช้ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับ การห้ามให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญ ใดๆ ที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้จากผู้อื่นหากมีความจำเป็นที่จะต้องรับไว้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ ของนั้นก็ต้องเป็นของทั่วไปที่มีมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท โดยผู้รับจะต้องแจ้งรายละเอียดต่อหัวหน้าหน่วยราชการภายใน 30 วัน เพื่อทำการพิจารณาต่อไปว่าเหมาะสมที่จะรับไว้หรือไม่ (ป.ป.ช., 2563)
ทาง HAND Social Enterprise ได้ให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าว จึงได้ทำการสืบค้นและเก็บรวบรวมประกาศจากหน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวงในประเทศไทยผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ และศึกษาวิเคราะห์ผลจากการเก็บรวบรวมเครื่องมือ กลไก ต้านการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย ภายใต้ โครงการมีดีต้องแชร์
ร่วมกับคณะกรรมการเสริมสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วม ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ พบว่านโยบาย No Gift Policy ถูกใช้ในหน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวงทุกหน่วยงาน รวมทั้งหน่วยงานภายใต้สังกัด รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระอีกหลายแห่ง ซึ่งนอกเหนือจากการประกาศใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นแล้ว หลายหน่วยงานยังจัดทำสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกด้วย
แม้ทิศทางของนโยบาย No Gift Policy จะทำให้เราเห็นภาพความหวังของการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ซึ่งเป็นผลพวงจากการให้และรับของขวัญที่ลดลง แต่การนำนโยบายนี้มาประกาศใช้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงและถูกตั้งคำถามอีกมากมายถึงความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการนำมาปฏิบัติจริง เนื่องจากประเด็นของการให้และรับของขวัญอาจไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงวันสำคัญหรือเทศกาลเท่านั้น และนโยบายดังกล่าวถือเป็นการลดทอนคุณค่าทางวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมหรือไม่หากธรรมเนียมปฏิบัตินี้จะถูกลด ละ เลิก และค่อยๆ สูญสิ้นจากสังคมไทยไปในวันหนึ่ง
ส่งท้ายปีเก่านี้ผู้เขียนจึงอยากชวนให้ผู้อ่านทุกท่าน ย้อนดูพฤติกรรมการให้และรับของขวัญที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทุกท่านเคยพบเห็นหรือมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งต่อความรู้สึกในช่วงเทศกาลนี้บ้างหรือไม่ และท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อนโยบาย No Gift Policy ร่วมแลกเปลี่ยนกับเราได้ทางเพจเฟซบุ๊ค HAND SocialEnterprise เพราะแม้เรื่องการให้และรับของขวัญในวันเทศกาลนั้นจะดูเป็นเรื่องเล็กที่เรามองข้ามไป แต่การลดช่องว่างของชิ้นส่วนที่อาจก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันนั้นอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอนาคต

เปิดแผน บริการ ระบบขนส่งสาธารณะ วันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค.นี้
มีเรื่องเล่าเมื่อ 20 ปีก่อน! 'ดร.ธรณ์' เปิดความทรงจำที่ภูพิงค์ เข้าเฝ้า'พระพันปีหลวง' หลังเหตุสึนามิ
‘อนุทิน’ถึงมาเลเซียแล้ว เตรียมร่วมพิธีเปิดประชุมสุดยอดอาเซียนพรุ่งนี้
'บอดี้สแลม'ยืนถวายอาลัย 'สมเด็จพระพันปีหลวง'ก่อนแสดง (คลิป)
นครบาลเผยเส้นทางเลี่ยง เคลื่อนพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' สู่พระบรมมหาราชวัง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี