วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ / ลงมือสู้โกง โดย...ศุทธิรัตน์ พัชรวุฒิพันธุ์
ลงมือสู้โกง โดย...ศุทธิรัตน์ พัชรวุฒิพันธุ์

ลงมือสู้โกง โดย...ศุทธิรัตน์ พัชรวุฒิพันธุ์

ศุทธิรัตน์ พัชรวุฒิพันธุ์
วันพุธ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
Back to School จับตาดูงบเงินอุดหนุน

ดูทั้งหมด

  •  

วนกลับมาอีกครั้งกับเทศกาล Back to School ช่วงเวลาแห่งการเปิดภาคเรียน ประจำปีการศึกษาใหม่ของคุณหนูๆ คุณผู้อ่านทุกท่านคงพบเห็นการวางขายสินค้าอุปกรณ์การเรียนมากมายตามที่ต่างๆ รวมถึงภาพและรายงานข่าวจากสื่อหลากหลายช่องทางเกี่ยวกับการจับจ่ายสินค้าทางการศึกษา ทั้งเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การเรียน

สิ่งที่น่าสนใจคือแม้จะอยู่ในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจค่อนข้างฝืดเคือง ข้าวของเครื่องใช้มีราคาแพง ทำให้หลายครัวเรือนต้องประหยัดและลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง แต่ภาพการเลือกซื้อสินค้าอุปกรณ์การเรียนให้บุตรหลานนั้นสวนทางไป เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เห็นว่าเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การเรียนเป็นสิ่งจำเป็น โดยหลายท่านต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ของบางอย่างจำเป็นต้องซื้อใหม่เนื่องจากร่างกายของนักเรียนนั้นเติบโตขึ้น จนของเดิมที่มีอยู่ใช้งานไม่ได้หรือชำรุดไปบ้าง รวมถึงการมอบอุปกรณ์การเรียนใหม่ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเรียกขวัญกำลังใจในการเรียนให้แก่บุตรหลาน เนื่องจากเป็นการกลับมาเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่นักเรียนต้องเรียนออนไลน์กันมายาวนานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19


ภาระค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องแบกรับนี้ จึงย้อนกลับเป็นคำถามที่หลายท่านอาจสงสัยและให้ความสนใจว่า นโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐฯ นั้นมีจริงหรือ? คำว่า เรียนฟรี หมายถึงฟรีอย่างไรบ้าง? แล้วมันเกี่ยวข้องกับการแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การเรียนบ้างหรือไม่?

หากลองแกะกล่องนโยบายเรียนฟรีของภาครัฐที่เริ่มขับเคลื่อนกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 และมีการปรับใช้เรื่อยมาตามความเหมาะสมจวบจนปัจจุบัน จะพบว่าภาครัฐนั้นมีแนวทางในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยคณะรัฐมนตรีจะยื่นเสนอมติขออนุมัติตั้งงบประมาณเป็นรายปี เพื่อดำเนินงานสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนทุกคนอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม ซึ่งงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับแผนงานการศึกษานั้น จะถูกจัดสรรออกเป็นหลายส่วนเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของผู้เรียน สังกัดโรงเรียน และแผนการศึกษา

ผู้เขียนได้สืบค้นข้อมูลงบประมาณที่ภาครัฐจัดสรร เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จากเอกสารแนวทางการดำเนินงานตามโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่เปิดเผยบนเว็บไซต์สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ในปีงบประมาณ 2565 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย รวมทั้งสิ้นกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนในสังกัดราว 6.7 ล้านคน จากสถานศึกษากว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ โดยงบเงินอุดหนุนดังกล่าวมาจากการจัดสรรค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา จำนวน 5 รายการ ได้แก่ ค่าจัดการเรียนการสอน 22,030,552,700 บาท ค่าหนังสือเรียน 5,172,395,900 บาท ค่าอุปกรณ์การเรียน 2,511,686,900 บาท ค่าเครื่องแบบนักเรียน 2,591,013,800 บาท และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 4,241,681,600 บาท

แต่ทว่าในทางปฏิบัติส่วนงบประมาณข้างต้น ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่สนับสนุนการเรียนตลอดปีการศึกษาของผู้เรียน โดยงบประมาณทั้งหมดนั้นจะถูกจัดสรรให้แก่โรงเรียนโดยตรง ซึ่งโรงเรียนมีหน้าที่ในการบริหารจัดการงบประมาณดังกล่าวตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการได้ระบุไว้ ทำให้ค่าใช้จ่ายบางส่วนถูกจัดสรรไปกับการบริหารจัดการเรียนการสอนภายในโรงเรียน เช่น ค่าตอบแทนบุคลากรอัตราจ้าง ค่าวัสดุ ครุภัณฑ์ ค่าสาธารณูปโภค ค่าหนังสือเรียน ค่ากิจกรรมพิเศษอื่นๆ เป็นต้น จึงอาจทำให้ผู้เรียนและผู้ปกครองนั้นรู้สึกว่า เงินอุดหนุนนั้นไม่ตกถึงมือของผู้เรียนหรือผู้ปกครองโดยตรง เพราะมันถูกจัดสรรและใช้จ่ายไปกับการบริการและสวัสดิการอื่นๆ ภายในโรงเรียน

ส่วนของงบประมาณที่ผู้เรียนและผู้ปกครองสามารถจับต้องได้โดยตรงนั้น ได้แก่ รายการค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งสถานศึกษาจะต้องจ่ายเงินสด ให้กับนักเรียน หรือผู้ปกครอง ตามอัตรางบประมาณสนับสนุนของนักเรียนแต่ละระดับชั้น ก่อนการเปิดภาคเรียน เพื่อให้ผู้เรียน/ผู้ปกครองสามารถจัดหาอุปกรณ์การเรียนและเครื่องแต่งกายได้ตามเหมาะสม ซึ่งสามารถถัวเฉลี่ยค่าใช้จ่ายได้ โดยผู้เรียนจะต้องนำส่งใบเสร็จการใช้จ่ายเงิน เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับการสนับสนุน

งบประมาณค่าใช้จ่ายตามที่กล่าวไปข้างต้นจึงถือเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองตามแนวทางในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือที่เรียกกันว่านโยบายเรียนฟรีของภาครัฐนั่นเอง จึงเป็นหน้าที่ของผู้เรียน/ผู้ปกครอง และภาคประชาชนที่ต้องติดตามและตรวจสอบ พร้อมทั้งร่วมประเมินคุณภาพของการจัดการศึกษา ว่าเงินอุดหนุนทั้งหลายที่ถูกนำไปเป็นค่าใช้จ่ายทางการศึกษานั้น ถูกจัดสรรและบริหารอย่างเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร?

เนื่องจากแนวทางการสนับสนุนค่าใช้จ่ายของภาครัฐนี้ อาจเป็นทั้งเรื่องน่ายินดี และน่าจับตามองไปพร้อมๆ กัน เพราะงบประมาณจำนวนมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษานั้นจะถูกคำนวณมาจากสัดส่วนผู้เรียนรายหัวของสถานศึกษาแต่ละแห่ง และดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้กระจายไปยังสถานศึกษาตามสังกัดต่างๆ โดยภาครัฐ ถือเป็นการกระจายอำนาจในการบริหารจัดการ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่หน่วยงานได้บริหารจัดการตามบริบทและความเหมาะสมของตนเอง แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะการกระจายอำนาจในการบริหารจัดการนี้ กลับยังไม่มีแนวทางในการเปิดเผยข้อมูลและการติดตามผลที่ชัดเจน และโปร่งใส ทำให้ภาคประชาชนไม่สามารถร่วมตรวจสอบการจัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มากเท่าที่ควร ช่องว่างของการเปิดเผยข้อมูลเพื่อติดตามผลนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เรายังสามารถพบเห็นการทุจริต และเหตุความไม่โปร่งใสในสถานศึกษาอยู่บ่อยครั้ง

...เพื่อเฝ้าระวัง และร่วมติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบเงินอุดหนุนส่วนนี้ต่อไป ผู้เขียนได้รวบรวมเหตุอันเป็นทุจริต ซึ่งสามารถเกิดจากช่องว่างในการจัดสรรงบเงินอุดหนุน รวม 4 ประการ ดังนี้

ประการแรกคือ เด็กผี การขอรับการสนับสนุนงบประมาณเกินจำนวน ซึ่งเกิดจากการปลอมแปลงบัญชีรายชื่อของนักเรียนในสถานศึกษาให้ไม่ตรงกับจำนวนนักเรียนจริง อาจมีรายชื่อนักเรียนซ้ำซ้อน ทำให้มีผลต่อการจัดสรรงบประมาณ โรงเรียนจึงควรเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้เรียน และงบประมาณที่ได้รับการอุดหนุนที่ชัดเจนให้สามารถทำการติดตามและตรวจสอบได้

ประการที่สองคือ เงินทอน การปลอมแปลงเอกสาร หลักฐานสำคัญในการใช้จ่ายเงินให้มียอดค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนอัตราการสนับสนุนเพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่างนั้น โดยส่วนนี้เอง จำต้องใช้ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการป้องกันปัญหา ทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา และร้านค้า รวมถึงการติดตาม และตรวจสอบภายในสถานศึกษาเองด้วย

ประการสามคือ เงินบริจาค ในกรณีที่ผู้เรียนและผู้ปกครองไม่ประสงค์รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ หรือมีความประสงค์ที่จะบริจาคเงินที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวให้กับโรงเรียนด้วยความสมัครใจ โรงเรียนจะสามารถนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้ตามวัตถุประสงค์ของโรงเรียนต่อไป ทั้งนี้ผู้เรียนและผู้ปกครองที่ประสงค์จะบริจาคเงินนั้นจะต้องแนบหลักฐานเพื่อแสดงเจตจำนงในการบริจาคเงินทุกครั้ง และทางโรงเรียนก็ต้องชี้แจงยอดงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนดังกล่าวด้วย

ประการสุดท้ายคือ การเอื้อประโยชน์ เนื่องจากสถานศึกษาสามารถดำเนินการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการจัดหาเครื่องแบบนักเรียนที่มีคุณภาพให้แก่นักเรียนได้ รวมถึงสามารถจัดซื้อ จัดจ้าง จัดหาตัวแทนในการดำเนินงานด้านอื่นๆ ผู้เรียนและผู้ปกครอง รวมถึงภาคประชาชนทุกท่านควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่มาในการสรรหาหรือใช้จ่ายงบประมาณนั้น ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามระเบียบที่ระบุไว้อย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อป้องกันการขัดกันทางผลประโยชน์ (conflict of interest) ที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง

แม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีช่องทางหรือระบบที่สามารถติดตามการใช้จ่ายงบเงินอุดหนุนแยกตามรายการใช้จ่ายได้โดยตรง แต่ผู้เขียนขอนำเสนอ ACT Ai เครื่องมือต่อต้านคอร์รัปชันภาคประชาชน ที่รวบรวมข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พร้อมทั้งระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง มาเป็นตัวอย่างในการร่วมติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณบางประเภทที่เกี่ยวข้อง ทุกท่านสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ https://actai.co/ และสามารถสืบค้นการใช้จ่ายงบประมาณบางประเภทของโรงเรียนได้จากการสืบค้นผ่าน keyword เช่น “ชื่อสถานศึกษา” “ค่าหนังสือเรียน” “กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน” เป็นต้น

สุดท้ายนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อมูลแกะกล่องงบเงินอุดหนุนและแนวทางในการติดตามช่องว่างของการทุจริตงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้ผู้อ่านทุกท่านร่วมรักษาสิทธิฯ ของตนเอง และมีส่วนร่วมในการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณในปีการศึกษาใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการบริหารจัดการสถานศึกษา และเพื่อผลประโยชน์อันสูงสุดในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของนักเรียนทุกคนนะคะ

ศุทธิรัตน์ พัชรวุฒิพันธุ์ Hand Social Enterprise

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:10 น. ฝนถล่ม'เหนือ-อีสานตอนบน' เตือน!น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
07:00 น. แนวหน้าวิเคราะห์ : รัฐบาล‘เพื่อไทย’ถอย‘กาสิโน’ ดัน‘นิรโทษกรรม’แค่ถอยอำพราง รอเวลาลุยต่อ
06:00 น. BBLผสานศักยภาพธ.เพอร์มาตา คว้าโอกาสจากศก.อินโดฯที่กำลังขยายตัว
06:00 น. ใช้สิทธิFTAพุ่ง13.4% ตลาดอาเซียนมาเป็นอันดับ1
06:00 น. ‘เมืองแก้ว’ อีพีแรกสะกดหัวใจ ‘พิ้งค์พลอย’เปิดตัวลุคสุดเดิ้นทำ ‘เข้ม’ ตะลึง
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สายฝนกระหน่ำสำโรง น้ำท่วมขัง'ถนนเทพารักษ์'สมุทรปราการ

ย้อนวิบากกรรม‘อิ๊งค์’ หยุดปฏิบัติหน้าที่แค่ยกแรก ‘มรสุม’เรื่องร้องรอถล่มอื้อ

(คลิป) ซัดทุกประเด็นร้อน!ไม่รู้ ไม่รู้...ไม่จริง ชาตินักรบไม่คุยเขมร'ทักษิณ'ซื้อยกพรรค'อิ๊งค์'เด็กฝึกงาน

ลูกบ้านรวมกลุ่มโวย‘ผญบ.’ไม่โปร่งใส สารภาพนำเงินกองทุนฯไปใช้ทางอื่น

(คลิป) 'อนุทิน' เย้ย! ครม.ใหม่ พท. ปูดแหลกเบื้องหลัง!!

3 โรคยอดฮิตของเด็ก ในช่วงฤดูฝน ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม

  • Breaking News
  • ฝนถล่ม\'เหนือ-อีสานตอนบน\' เตือน!น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ฝนถล่ม'เหนือ-อีสานตอนบน' เตือน!น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
  • แนวหน้าวิเคราะห์ : รัฐบาล‘เพื่อไทย’ถอย‘กาสิโน’ ดัน‘นิรโทษกรรม’แค่ถอยอำพราง รอเวลาลุยต่อ แนวหน้าวิเคราะห์ : รัฐบาล‘เพื่อไทย’ถอย‘กาสิโน’ ดัน‘นิรโทษกรรม’แค่ถอยอำพราง รอเวลาลุยต่อ
  • BBLผสานศักยภาพธ.เพอร์มาตา คว้าโอกาสจากศก.อินโดฯที่กำลังขยายตัว BBLผสานศักยภาพธ.เพอร์มาตา คว้าโอกาสจากศก.อินโดฯที่กำลังขยายตัว
  • ใช้สิทธิFTAพุ่ง13.4% ตลาดอาเซียนมาเป็นอันดับ1 ใช้สิทธิFTAพุ่ง13.4% ตลาดอาเซียนมาเป็นอันดับ1
  • ‘เมืองแก้ว’ อีพีแรกสะกดหัวใจ ‘พิ้งค์พลอย’เปิดตัวลุคสุดเดิ้นทำ ‘เข้ม’ ตะลึง ‘เมืองแก้ว’ อีพีแรกสะกดหัวใจ ‘พิ้งค์พลอย’เปิดตัวลุคสุดเดิ้นทำ ‘เข้ม’ ตะลึง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เปิดไม่โปร่ง ข้อมูลภาครัฐยังเร้นลับจริงไหม?

เปิดไม่โปร่ง ข้อมูลภาครัฐยังเร้นลับจริงไหม?

14 มิ.ย. 2566

ฟื้นฟูจากโควิด และระบบตรวจสอบภาคประชาชน

ฟื้นฟูจากโควิด และระบบตรวจสอบภาคประชาชน

21 ก.ย. 2565

Back to School จับตาดูงบเงินอุดหนุน

Back to School จับตาดูงบเงินอุดหนุน

11 พ.ค. 2565

สวัสดีปีใหม่ ไร้สินน้ำใจ ไร้คอร์รัปชัน

สวัสดีปีใหม่ ไร้สินน้ำใจ ไร้คอร์รัปชัน

29 ธ.ค. 2564

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved