วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“สวัสดีฤดูหนาว สวัสดีสายลม และสวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ”
เมื่อถึงเดือนธันวาคม หลายคนน่าจะนึกถึงเทศกาลแห่งการให้ของขวัญ ความสุข และความอบอุ่นหัวใจ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “เทศกาลคริสต์มาส” ช่วงนี้เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความอบอุ่น ความสัมพันธ์ และความสุขเริ่มปรากฏในแทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าและพื้นที่สาธารณะที่ตกแต่งเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ต้นคริสต์มาสและดนตรีชวนเคลิ้ม หรือในโรงเรียนที่มีการจัดงานฉลองกินเลี้ยงและกิจกรรมแลกเปลี่ยนของขวัญ สำหรับหลายครอบครัวก็คงจะมีการฉลองคริสต์มาสแบบไทยๆ การทำอาหารเย็นร่วมกัน และเด็กๆ จะแขวนถุงเท้าไว้รอของขวัญจาก “ซานตาคลอส” หรือ “ซานต้า” ที่อาจถูกสวมบทบาทด้วยพ่อแม่หรือคนในครอบครัว
ซานตาคลอส เดือนแห่งความรักและการแบ่งปัน (ผลประโยชน์ร่วมกัน) ?
ซานตาคลอสและเทศกาลคริสต์มาส ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ความปรารถนาดี ความเมตตา และการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ดังเช่นเรื่องเล่าที่ซานต้าจะเดินทางมอบของขวัญให้เด็กๆ ทั่วโลกเพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุข อย่างไรก็ตาม การให้ของขวัญในชีวิตจริงอาจมีมิติที่ซับซ้อนและแตกต่างออกไป โดยเฉพาะในบริบทแวดวงธุรกิจและราชการหรือหน่วยงานของสังคมไทย บางครั้งการให้อาจแฝงไปด้วยการแบ่งปันผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม จนนำไปสู่การทับซ้อนผลประโยชน์และความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การคอร์รัปชันในที่สุด
จากของขวัญสู่ “สินบน” ใต้เงาของวัฒนธรรมการให้
“การให้” ในบริบทของสังคมไทยถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและประเพณีที่สะท้อนถึงการแสดงความเคารพ ความปรารถนาดี และการสร้างความสัมพันธ์อันดีหรือในบางโอกาสถือเป็นการแสดงออกของมารยาททางสังคม แต่เมื่อการให้กลับถูกนำมาเป็นข้ออ้างในแวดวงราชการและธุรกิจ และมักจะถูกแอบแฝงด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวและการจูงใจ เพื่อให้ผู้รับทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อาจไม่ถูกต้องเป็นการตอบแทน เช่น การให้ของขวัญที่มีมูลค่าสูงเกินไปแก่เจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้มีอำนาจ เพื่อแลกกับให้สิทธิประโยชน์หรือการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ส่วนบุคคล และอาจส่งผล
กระทบต่อประโยชน์ส่วนรวมอีกด้วย
การให้ที่แอบแฝงด้วยผลประโยชน์มักโผล่มาในรูปแบบสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ยากต่อกระบวนการตรวจสอบ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทางไปสัมมนาวิชาการยังต่างประเทศซึ่งมีโปรแกรมการท่องเที่ยวแฝงอยู่ (ดูงานแฝงเที่ยว) หรือแม้แต่การให้ในรูปแบบเงินสด บัตรกำนัล สินค้าและบริการ
ซึ่งลักษณะการให้เหล่านี้เข้าข่าย “ค่ารับรองและของขวัญ” และถือเป็นการทุจริตประเภท “สินบน” ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 128 วรรคแรก และหากกระทำการให้-รับสินบน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ต้องระวางโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาทหรือประหารชีวิต
“อย่างไรก็ตาม การให้ที่แอบแฝงผลประโยชน์ แม้จะนำไปสู่การคอร์รัปชันเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าไม่กระทบถึงตัวเราก็ยอมได้”
ผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรกับคำกล่าวนี้บ้างครับ…หากยังไม่มีคำตอบ ลองพิจารณาสถานการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศที่ถูกขนานนามว่า สยามเมืองยิ้ม แล้วลองตอบในใจอีกครั้งก็ได้ครับว่าเห็นด้วยหรือไม่
ยิ้มที่ 1 การขออนุญาตก่อสร้างที่ดูยุ่งยากซับซ้อน กลับสามารถจบได้อย่างง่ายดายเพียงส่ง “ซองขาวพร้อมแบงก์เทา” ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อเร่งรัดให้ได้สิทธิที่ควรได้รับตามกฎหมายอยู่แล้ว
ยิ้มที่ 2 บริษัททางการแพทย์สนับสนุนสัมมนาและท่องเที่ยวให้ผู้บริหาร/บุคลากรโรงพยาบาล แลกกับการสั่งซื้อยาและอุปกรณ์ราคาแพงแต่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้คนไข้ต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็นและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ยิ้มที่ 3 บริษัทก่อสร้างมอบกระเช้าพิเศษบรรจุแบงก์เทานับไม่ถ้วนให้เจ้าหน้าที่ เพื่อแลกกับการละเว้นมาตรฐานการตรวจสอบ ส่งผลให้ถนนหรืออาคารพังไวกว่าปกติจากการใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
แล้วจะทำอย่างไรให้การให้นั้นโปร่งใสไร้คอร์รัปชัน?
ในมุมมองของผู้เขียน การลดโอกาส “การให้”ที่อาจนำไปสู่การติดสินบนสามารถทำได้โดยการที่ภาครัฐกำหนดกฎหมายและมาตรการที่เข้มงวด ควบคู่ไปกับการสนับสนุนช่องทางที่ปลอดภัยสำหรับการแจ้งเบาะแส รวมถึงการออกกฎหมายที่คุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน นอกจากนี้ ผู้เขียนเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในทุกระดับของสังคม ผ่านการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมการให้ที่ไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน แทนที่จะมองการให้เป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
อีกทั้ง สังคมควรร่วมกันสร้างความตระหนักถึงอันตรายของการให้ที่แฝงด้วยผลประโยชน์ ซึ่งเป็นบ่อนทำลายวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของสังคมไทย ทั้งนี้เพื่อให้การเสริมสร้างระบบนิเวศการต่อต้านการคอร์รัปชันมีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องเกิดการบูรณาการและสร้างความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อปลูกฝังให้ประชาชนเคารพและเชื่อมั่นในกฎหมาย รวมถึงมีพฤติกรรมที่ไม่ทำและไม่ทนต่อการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
และท้ายสุดนี้ ในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟที่กำลังจะมาถึง ผู้เขียนตั้งใจจะแขวนถุงเท้าไว้ พร้อมขอของขวัญจากซานต้าเป็น สยามเมืองยิ้มที่ไร้คอร์รัปชัน...ในสักวัน “Wishing you a Merry Christmas and a Happy New Year สวัสดีครับ”
อ้างอิง
การรับหรือให้ของขวัญ/ที่ระลึก โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์ของ ป.ป.ช.
https://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFO
CENTER1/DRAWER057/GENERAL/DATA0000/00000837.PDF
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑https://www.nacc.go.th/files/article/attachments/main_old_article_20190614144916.pdf
อย่างไรบ้างที่เข้าข่ายการรับสินบน โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)
ลักษณะการกระทำที่เข้าข่ายการรับ-ให้สินบนโดย เพจต้องแฉ
https://www.facebook.com/share/p/1AamPRjiuU/

'เพื่อไทย'เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.ล็อตใหม่เพิ่ม 11 คน เผย 'นนทบุรี' ครบทุกเขต
‘จุลพันธ์’ยันลูกชูวิทย์ กุ่ย ยังอยู่เพื่อไทย อุบชื่อแคนดิเดตนายกฯยังไม่เคาะ
'กัน จอมพลัง'กลับมาแล้ว! เตรียมฟ้องคนดัง10ราย ชาวเน็ตก็ไม่รอด
‘โฆษกรัฐบาล’ย้ำทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ ปรามสื่อมาเลย์ให้ระวังการสื่อสารให้มากขึ้น
โชเฟอร์ปวดท้องจอดรถเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันเสร็จภารกิจ โดน6ล้อเสยท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี