น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ สรุปสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการเดือนสิงหาคม 2562 ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค(เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนสิงหาคม 2562 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 0.52% (YoY) ตามการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 2.63% โดยผักและผลไม้ สูงขึ้น 7.23% โดยเฉพาะผลไม้สด(ฝรั่ง มะม่วง สับปะรด) สูงขึ้น 8.69% ผักสด(มะนาว พริกสด มะละกอดิบ) สูงขึ้น 4.99% ตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อยประกอบกับฐานราคาในปีที่ผ่านมาค่อนข้างต่ำ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งโดยเฉพาะข้าวสารเหนียวและข้าวสารเจ้า สูงขึ้น 7.06% ตามปริมาณผลผลิตที่ออกน้อย ขณะที่ความต้องการมีอย่างต่อเนื่อง
เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร ปลานิล ไก่ย่าง) สูงขึ้น 3.63% ไข่และผลิตภัณฑ์นม (ไข่ไก่ นมสด นมเปรี้ยว) สูงขึ้น 1.82% ตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อย อาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน (กับข้าวสำเร็จรูป อาหารเช้า ข้าวราดแกง)สูงขึ้น 0.97% และ 0.96% ตามลำดับ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟร้อน/เย็น น้ำอัดลม น้ำผลไม้)สูงขึ้น 0.52% ขณะที่เครื่องประกอบอาหาร ลดลง 0.90%
สำหรับหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 0.67% ตามการลดลงของน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท ซึ่งลดลง 8.15% (ยกเว้นก๊าซธรรมชาติ (NGV) และก๊าซยานพาหนะ (LPG)) ส่งผลให้หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลง 2.22% หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลดลง 0.09% (รองเท้า เสื้อผ้าบุรุษและสตรี) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ลดลง 0.03%โดยเฉพาะของใช้ส่วนบุคคล (แป้งทาผิวกาย สบู่ถูตัว ยาสีฟัน) จากการส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
ขณะที่ค่าโดยสารสาธารณะ สูงขึ้น 6.19% หมวดเคหสถาน(ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน) สูงขึ้น 0.30% หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ (ค่าเดินทางไปเยี่ยมญาติและทำบุญ ค่าเล่าเรียน-ค่าธรรมเนียมการศึกษา) สูงขึ้น 0.79% และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์(สุราและเบียร์)สูงขึ้น 0.02%
ทั้งนี้ ในจำนวนสินค้าและบริการที่นำมาคำนวณอัตราเงินเฟ้อ จำนวน 422 รายการ มีสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น 221 รายการ ขณะที่สินค้าที่ราคาลดลง มี 112 รายการ ส่วนสินค้าที่ทรงตัว มี 89 รายการ
ทำให้เฉลี่ยในช่วง 8 เดือนแรก ยังสูงขึ้น 0.87% แม้จะอยู่ในกรอบคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 0.7-1.3% แต่คาดว่าปีนี้น่าจะขยายตัวไม่ถึง 1% หรืออยู่ที่ 0.8-0.9% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังคาดว่าจะโตที่ 1% จากการลดลงต่อเนื่องของราคาพลังงานและราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคค่อนข้างทรงตัว โดยยังมีสัญญาณการชะลอตัวของความต้องการบริโภค หรือประชาชนระมัดระวังการจับจ่าย แต่ยังไม่น่ากังวลว่าจะเกิดภาวะเงินฝืด เนื่องจากเป็นการลดลงจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
อย่างไรก็ตาม คงจะต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ไม่ว่าการประกันรายได้เกษตรกร และการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะกระตุ้นให้การบริโภค ทั้งทางตรงและทางอ้อมส่งผลให้เศรษฐกิจเคลื่อนไหวดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี