เฮสนั่นอีกแล้ว ครม.ไฟเขียวมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 เปิดลงทะเบียน 24 ต.ค.นี้ แจก 1,000 บาทเพิ่มอีก 3 ล้านคน
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 ระยะที่ 2ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้เปิดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ผู้ลงทะเบียนเพิ่มอีก 3 ล้านคน วงเงินคนละ 1,000 บาท โดยเปิดรับสมัครวันละ 1 ล้านคน แบ่งเป็นวันละ 2 รอบ ได้แก่รอบที่ 1 เวลา 06.00 น. กำหนดจำนวนผู้รับสิทธิ 500,000 คน รอบที่ 2 เวลา 18.00น.กำหนดคนรับสิทธิ์ 500,000 คน ซึ่งธนาคารมั่นใจว่าระบบแอพพลิเคชั่นของธนาคารทั้งถุงเงินและเป๋าตังมีความพร้อมรองรับร้านค้าและผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารขอเชิญชวนผู้รับสิทธิตามมาตรการชิมช้อปใช้ เมื่อใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 1 รับสิทธิ1,000 บาท ครบแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิในกระเป๋า G- Wallet 2 เพื่อรับเงินคืนสูงสุด 20% หรือประมาณ8,500 บาท โดยขั้นตอนการเติมเงินง่ายมากและไม่ซับซ้อน โดยการเติมเงินผ่านการสแกน QR Code ด้วยแอปของทุกธนาคาร โดยเข้าไปที่แอปเป๋าตัง เลือกกดสัญลักษณ์รูป QR Code (เติมเงิน G-Wallet ) ด้านบนมุมซ้าย ต่อมาทำการบันทึกรูปภาพ QR Code ลงในโทรศัพท์ หลังจากนั้นเข้าแอปธนาคารของท่านและกดเลือกสแกน QR – Code จากรูปภาพที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ และใส่จำนวนเงินที่ต้องการเติมเงิน
นอกจากนี้ ยังสามารถเติมเงินง่ายๆผ่านตู้ATM ของ 5 ธนาคารใหญ่ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยการเติมเงินจะต้องใช้ตู้เอทีเอ็ม ที่ตรงกับบัตรเอทีเอ็มของธนาคารนั้นๆ ให้เข้าที่เมนู เติมเงิน เติมเงินพร้อมเพย์ หรือโอนเงิน แล้วแต่เมนูหน้าแรกของตู้เอทีเอ็มธนาคารนั้นๆ หลังจากนั้นเลือกบัญชีว่าจะให้ทำการโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน พร้อมใส่หมายเลข G-Wallet 15 หลัก ที่ได้จาก QR Code หลังจากนั้นใส่จำนวนเงินที่ต้องการและกดยืนยัน
ส่วนวิธีการชำระเงินเพื่อรับสิทธิเงินคืน 15-20% โดยเข้าแอปเป๋าตัง กดที่เมนูใช้สิทธิรับเงินคืน 15-20 % และเลือก ใช้จ่ายร้านค้าถุงเงิน หลังจากนั้น จะได้ QR Code เพื่อให้ร้านค้าใช้แอปถุงเงินสแกน โดยผู้รับสิทธิต้องตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระ และกดยืนยันการชำระเงิน ในส่วนของการรับเงินคืนนั้น จะได้รับเงินคืนภายในเดือนถัดไปหลังจากการเสร็จสิ้นการใช้สิทธิของมาตรการ
สำหรับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเฟสที่ 2 ขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิจะเหมือนเฟสที่ 1 โดยลงทะเบียนผ่านwww.ชิมช้อปใช้.com กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ โดยไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน หลังจากนั้นภายใน 3 วันธนาคารจะส่ง SMS เพื่อให้โหลดแอปเป๋าตัง โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย เพื่อรับสิทธิ 1,000 บาท ผ่านกระเป๋า G-Wallet1 และผู้ได้รับสิทธิสามารถเติมเงินในกระเป๋า G- Wallet 2 ใช้จ่ายในร้านที่ร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ ได้ทุกจังหวัด ที่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน เพื่อรับสิทธิเงินคืน โดยยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท รับเงินคืน 15%และยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รับเงินคืน 20 % หรือสูงสุด8,500 บาท ทั้งนี้ ผู้รับสิทธิตามมาตรการชิมช้อปใช้ เฟสที่ 1 และเฟสที่ 2 สามารถใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G- Wallet 2 ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
นายผยง กล่าวอีกว่า จะเห็นว่าผู้รับสิทธิในเฟสแรก สามารถจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตังได้อย่างสะดวก จะเห็นยอดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ล่าสุด ณ วันที่ 20 ตุลาคม2562 มียอดการใช้จ่ายผ่าน G- Wallet ทั้งสิ้นจำนวน8,892.40 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าประเภทชิม 14.5 % ร้านค้าประเภทช้อป 55.6% ร้านค้าประเภทใช้ 1.4% และร้านค้าประเภททั่วไปอีก 28.5% ซึ่งจากยอดการใช้จ่ายดังกล่าว ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้จ่ายที่ได้รับสิทธิ 1,000 บาท จากกระเป๋าช่องที่ 1 แต่กระเป๋าช่องที่ 2 ยังคงมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทั้งเฟส 1 จำนวน 10 ล้านคน และเฟส 2 อีก 3 ล้านคน จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาลได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี