** ต้องยอมรับความจริงว่าในช่วงการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจในประเทศ ซึ่งก็จะสะท้อนออกมาชัดเจนในผลประกอบการของไตรมาส 2 และประเด็นมันอยู่ตรงที่ธุรกิจไหนได้รับผลกระทบมากน้อยกว่ากัน ธุรกิจไหนปรับตัวได้ดีกว่ากันธุรกิจไหนที่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่ากัน ในกรณีที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ถ้ามีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีและได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ไม่มากนัก...ก็จะถูกนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ หยิบเอามาวิเคราะห์และนำเสนอให้นักลงทุนให้ไปลงทุน เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าไปซื้อหุ้นในราคาที่ย่อลงมาเพื่อรอรับผลกำไรจากการฟื้นตัวที่รวดเร็วของหลักทรัพย์ตัวนั้น
ยกตัวอย่างกรณีของ บมจ.ซีพีออลล์ CPALL ผู้ก่อตั้งร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในประเทศไทย โบรกเกอร์หลายราย วิเคราะห์ว่า คาดว่ากำไร ของ CPALL ในไตรมาส 2 ปีนี้ จะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ ไตรมาส 2 ของปีก่อน โดยกำไรอยู่ระดับ 2 พันล้านบาท เพราะถูกกระทบจาก COVID-19 เหมือนค้าปลีกตัวอื่นๆ แต่คาดไม่แย่ถึงขั้นขาดทุน เพราะยังเป็นสินค้าจำเป็น และมีจำนวนสาขาตั้งกระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งคาด MAKRO ยังมีกำไรต่อเนื่องระดับ 900-1,000 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ นอกจากนี้คาดว่ากำไรของไตรมาส 2 ของปีนี้ จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ และจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่กลับมา Reopen กันอีกครั้งส่วนกำไรปีนี้จะลดลง 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และกลับมาฟื้นตัวดีปี 2564 โดยคาดว่าจะเพิ่มถึง 15.4% คาดว่าปี’64 ราคาเป้าหมายน่าจะอยู่ที่81 บาท ส่วนราคาหุ้นปัจจุบัน (67 บาท/หุ้น) นั้นสะท้อนกำไรที่แผ่วลงในไตรมาส 2 ไปแล้ว และราคาหุ้นปัจจุบันเทรดบน Forward PE ปี 2021ที่ 26 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มและของตัวเองในอดีตพอสมควรคำแนะนำคือ “น่าทยอยซื้อลงทุน”
คราวนี้ลองมาดูทิศทางของ CPALL จากเวทีการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาดูบ้าง...โดยนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทยังคงเดินหน้าแผนลงทุนตามแผนเดิมที่วางไว้ โดยจะลงทุน 11,500-12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเปิดร้านใหม่ประมาณ 700 สาขา โดยจะใช้งบฯ 3,800-4,000 ล้านบาทการปรับปรุงสาขาเดิม 2,400-2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจะมีการลงทุนในโครงการใหม่ การลงทุนบริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า รวมประมาณ 4,000-4,100 ล้านบาท รวมถึงแผนลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและเทคโนโลยีสารสนเทศรวมอีกประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายสาขา 7-11 ไปแล้ว 271 สาขา แบ่งเป็นสาขาของบริษัท 186 สาขา และสาขาพาร์ทเนอร์ และสาขาที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 85 สาขา ทำให้มีสาขารวม 11,983 สาขา โดยบริษัทมีเป้าจะขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขา ภายในปี 2564
ส่วนความคืบหน้าในการบุกตลาดทั้งประเทศนั้นหลังจากที่ CPALL (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลักสำหรับดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา กับ 7-Eleven, Inc.เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ ซึ่งCPALL (Cambodia) Co., Ltd. ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 30 ปี และคู่สัญญาอาจตกลงต่ออายุสัญญาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 ปี นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ 7-Eleven, Inc. เพื่อขยายสาขาไปยังประเทศลาวด้วย และจากประชากรจำนวน 16 ล้านคน ในกัมพูชา และ 6.9 ล้านคนในลาว และคาดว่าจะทำให้ซีพีออลล์ สามารถขยายสาขาได้อีกประมาณ 3,300 สาขา หรือประมาณ 1 ใน 3 ของสาขาในไทย
นอกจากนี้ CPALL กำลังขยายธุรกิจเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น กิจการ กิจการค้า นำเข้า ส่งออก ให้เช่า ให้เช่าซื้อ เครื่องจักร เครื่องยนต์ เครื่องมือกล เครื่องทุ่นแรง หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ ยานพาหนะ เครื่องกำเนิดและเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม สถานที่ออกกำลังกาย ศูนย์สุขภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงด้วย กิจการเกี่ยวกับการสร้าง บำรุงรักษา และพัฒนาหรือร่วมพัฒนาออนไลน์แอพพลิเคชั่น, ประกอบกิจการให้บริการ ดูแลรักษาระบบข้อมูล จัดสรรข้อมูล วิเคราะห์ และจัดกลุ่มประเภทข้อมูล และประกอบกิจการคลังสินค้า กิจการไซโล หรือกิจการห้องเย็น
ถึงตรงนี้ถ้าเป็นนักลงทุนไม่ใช่นักเก็งกำไรคงจะเห็นภาพชัดแล้วว่าบริษัทไทยรายนี้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งแค่ไหน
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี