** ที่หลายคนพูดไว้ว่า “โลกมันหมุนเร็ว” นั้นไม่ผิดจริงๆ ยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตและธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยมี “เทคโนโลยี” เป็นแรงขับสำคัญทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป และเปลี่ยนอย่างรวดเร็วด้วย อย่างที่ชัดเจนของภาคธุรกิจที่เปลี่ยนตามพฤติกรรมผู้บริโภคคือ ธุรกิจค้าปลีก วันนี้ “เศรษฐศาสตร์วันหยุด” จะหยิบเอาธุรกิจ “ร้านสะดวกซื้อ” มาเป็นตัวอย่าง และหากพูดถึง “ร้านสะดวกซื้อ” ก็ต้องหยิบเอา เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-11) มากล่าวถึง
“7-11” เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นร้านที่จำหน่ายน้ำแข็งและต่อมาได้พัฒนาเป็นร้านสะดวกซื้อเล็กๆที่มีสินค้าอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดให้บริการในช่วงเวลา 07.00 AM-11 PM จึงเป็นที่มาของชื่อร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” (7-11) และปรับการให้บริการมาเป็น 24 ชั่วโมง เหมือนในปัจจุบันและได้ขยายธุรกิจไปในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา
สำหรับจุดเริ่มต้นของ เซเว่น-อีเลฟเว่น ในประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2531 โดยสาขาแรกเปิดที่ถนนพัฒน์พงศ์ โดยมีแผนการดำเนินธุรกิจคือ “ใกล้แต่ไม่เคยปิด” (Close But NeverClosed) เพื่อบริการความสะดวกในการซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งโครงสร้างของประชากรไทยในสมัยนั้นลูกค้าของ เซเว่น-อีเลฟเว่น จะมีอายุเฉลี่ยระหว่าง 5-24 ปี แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าก็เปลี่ยน ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมของคนทำงาน สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้น เซเว่น-อีเลฟเว่น จึงต้องปรับตัว เปลี่ยนไปตามฐานโครงสร้างของประชากรไทย
การปรับตัวของ เซเว่น-อีเลฟเว่น เริ่มจากได้ปรับหลักการทำธุรกิจภายใต้สโลแกน “เพื่อนที่รู้ใจใกล้ๆคุณ” เพื่อให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่เมื่อมีการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้น เซเว่น-อีเลฟเว่น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง คือ เปลี่ยนจาก “ร้านสะดวกซื้อ” มาสู่ “ร้านอิ่มสะดวก” ด้วยการบริการจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน พร้อมกับเปลี่ยนสโลแกนอีกครั้งนั่นคือ “หิวเมื่อไหร่...ก็แวะมา” และปัจจุบันเซเว่น-อีเลฟเว่น มีจำนวนสาขารวมกว่า 12,000 สาขา และเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกให้กับลูกค้าทั่วประเทศ เราจึงมีการเปลี่ยนจาก Food Store มาสู่ All Convenience เพื่อบริการความสะดวกให้กับทุกคน
ใน ค.ศ.2020 นี้เองที่โลกเปลี่ยนอย่างเร็วและแรง เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยน วิถีชีวิตคนเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน คู่แข่งเปลี่ยน การทำธุรกิจจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะเมื่อโลกต้องเจอกับมรสุมทางเศรษฐกิจ และ เกิดโรคระบาดโดยเฉพาะโควิด-19 ทำให้หลายๆธุรกิจมีรายได้ลดลง โรงงานธุรกิจปิดตัว กำลังการซื้อลดลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ New Normal หรือ “วิถีใหม่” รูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก
ผู้บริหารของเซเว่นฯ ท่านหนึ่งบอกว่า สิ่งที่เราเคยมองและวางแผนไว้ว่า สิ่งที่จะทำจะเกิดขึ้นในอีก 5 ปี แต่ตอนนี้มันลดลงเหลือภายใน 2 เดือน แต่ในวิกฤติก็ย่อมมีโอกาสเสมอ เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตัวให้ไว เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่เปลี่ยนไป การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้เราเรียนรู้ว่า ผู้คนที่เจอปัญหาล้วนกระโดดเข้ามาใช้เทคโนโลยีทั้งสิ้น จากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เอง เซเว่น-อีเลฟเว่น จึงต้องปรับการให้บริการในรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “ออลล์ ออนไลน์” (ALL Online) โดยมีสโลแกน “สะดวกครบ จบที่เดียว” เช่น “จากเดิมลูกค้าใช้เงินสดในการซื้อสินค้า เราเปลี่ยนและปรับมาเป็น สร้างสังคมไร้เงินสด ร่วมกับ True Money Wallet, เพิ่มบริการความสะดวกในการสั่ง-ส่งสินค้า หรือ 7 Delivery ฯลฯ” ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่และสะดวกทุกการซื้อสินค้า, สะดวกทุกบริการ, สะดวกทุกที่ และสะดวกทุกเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่มีมากกว่า 14 ล้านคนต่อวัน
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี