นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพิ่มอีก 2 รายการ คือ “ส้มโอปราจีน” จังหวัดปราจีนบุรี และ “พุทรานมบ้านโพน” จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยทั้ง 2 รายการ เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ทั้งในแง่ของคุณภาพ รสชาติ และลักษณะที่โดดเด่น ซึ่งมั่นใจว่าการขึ้นทะเบียน GI ในครั้งนี้ จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลไม้ ช่วยเพิ่มความต้องการบริโภค ช่วยสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นได้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของ “ส้มโอปราจีน” เป็นส้มโอพันธุ์ทองดี พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง พันธุ์ขาวใหญ่ พันธุ์ขาวแตงกวา รสชาติหวาน ไม่ขม ไม่ซ่าลิ้น เปลือกบาง เนื้อเยอะ เมื่อครบกำหนดเก็บเกี่ยวสามารถตัดจากต้นแล้วปอกเปลือกทานได้เลย ไม่ต้องรอลืมต้น ปลูกและผลิตในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเท่านั้น สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี กว่า 100ล้านบาทต่อปี

ส่วน “พุทรานมบ้านโพน” มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น เนื้อละเอียดสีขาว ฉ่ำน้ำ กรอบ รสชาติหวาน มีผลกลมหรือกลมรีผิวเปลือกสีเขียวหรือเขียวอ่อน เปลือกบาง ก้านขั้วผลเป็นร่องลึก ปลูกและผลิตในอำเภอคำม่วงและอำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 21 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญามีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทย รวม 161 รายการ ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากกว่า 42,000 ล้านบาท และยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการไม่ให้ถูกกดราคาสินค้าเกษตรอีกด้วย

สำหรับวิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนท้องถิ่นที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ และมีคุณภาพ มีชื่อเสียง สามารถขอรับคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.1368

“การส่งเสริมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนท้องถิ่น โดยการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยยกระดับสินค้าท้องถิ่นไทยและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจากแหล่งต้นกำเนิดสินค้า”นายสินิตย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI “ผ้าไหมปักธงชัย” โดยเป็นสินค้า GI รายการที่ 9 ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมั่นใจจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าท้องถิ่น ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่อำเภอปักธงชัย อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 40 ล้านบาท และยังจะช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของอำเภอปักธงชัย ให้เติบโตได้เพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ในจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งหมด 9 สินค้า ได้แก่ กาแฟดงมะไฟ ไวน์เขาใหญ่ ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ กาแฟวังน้ำเขียว เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน มะขามเทศเพชรโนนไทย ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน และผ้าไหมปักธงชัย และอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนสินค้า GI เพิ่มอีก 2 รายการ ได้แก่ ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย และน้อยหน่าปากช่องเขาใหญ่

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดแล้ว เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการคุ้มครองสินค้าชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน ไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนท้องถิ่น
ให้ดีขึ้น และเพื่อให้สินค้า GI เป็นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม ขยายตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้ผลักดันให้จังหวัดต่างๆ ให้ความสำคัญในการจัดทำระบบควบคุมมาตรฐานสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า GI รวมทั้งช่วยสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้า GI ที่มีคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์