นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนก.พ. 2566 มีทั้งสิ้น165,612 คัน เพิ่มขึ้น 6.39% จากช่วงเดียวกันปี 2565 เพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น จึงผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 16.17% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 6.39% และเพิ่มขึ้น 2.02% จาก ม.ค.ปี 2566 โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ. 2566) มีจำนวนทั้งสิ้น 327,939 คันซึ่งเพิ่มขึ้น 6.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ในเดือนก.พ. 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 95,612 คัน เท่ากับ 57.73% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 16.17% จาก ก.พ. 2565 ทำให้ 2 เดือนแรกของปีนี้ ผลิตเพื่อส่งออกได้ 187,144 คัน เท่ากับ 57.07% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 11.73% จากปี 2565ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศในเดือนก.พ. 2566 ผลิตได้ 70,000 คัน เท่ากับ 42.27% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 4.58% จาก ก.พ. 2565 ทำให้ 2 เดือนแรกของปีนี้ผลิตได้ 140,795 คัน เท่ากับ 42.93% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 0.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของ ก.พ. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 71,551 คัน เพิ่มขึ้น 9.11% จาก ม.ค. 2566 แต่ลดลง 3.94% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากการผลิตรถกระบะเพื่อการขนส่งลดลงถึง 54.13% เพราะขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะลดลง 23.5% ทำให้ 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดขาย 137,130 คันลดลง 4.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนก.พ. 2566 ส่งออกได้ 88,525 คัน เพิ่มขึ้น 2% จาก ม.ค. 2566 และเพิ่มขึ้น 11.42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะได้รับชิ้นส่วน
เซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นจึงผลิตส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้น 50.04% และ 7.44% ตามลำดับ ทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ตะวันออกกลาง อเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยใน 2 เดือนแรกของปีนี้สามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 175,311 คัน เพิ่มขึ้น 17.43% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
“สถานการณ์การส่งออกหลังได้รับชิพเพิ่มและสถานการณ์ชิพโลกเริ่มคลี่คลาย หลังจากการเปิดประเทศทำให้การทำงานที่บ้านน้อยลง และความต้องการโน้ตบุ๊ค มือถือ ฯลฯ ลดลงตามจึงทำให้ชิพกลับมาใช้ในด้านยานยนต์มากขึ้น แต่ปัจจัยในการส่งออกที่ต้องจับตา คือ การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุด 22 มี.ค.ที่ขยับอีก 0.25% วิกฤตธนาคารต่างประเทศ ที่จะกระทบต่อการถดถอยของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเข้มงวดของสถาบันการเงินในไทยเพื่อการปล่อยสินเชื่อที่จะกระทบต่อแรงซื้อได้ นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามปัญหาเศรษฐกิจโลกหากไม่ไม่ขยายวงกว้าง ก็คาดว่าการผลิตรถยนต์ของไทยจะกลับไปสู่ระดับ 2 ล้านคันได้ในปี 2567 โดยในปีนี้เราก็ยังมั่นใจว่าเป้าการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.95 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.53% จากปีก่อน ซึ่งแบ่งเป็นยอดผลิตเพื่อส่งออก 1.05 ล้านคัน และยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9 แสนคัน” นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ในเดือน ก.พ. 2566 มียานยนต์ไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 7,536 คัน เพิ่มขึ้น 763.23% จาก ก.พ. 2565 ทำให้ 2 เดือนแรกของปีนี้
มียานยนต์ไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 12,243 คัน เพิ่มขึ้น 715.66% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่28 ก.พ. 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 44,294 คัน เพิ่มขึ้น 244.19% จากปีก่อน