nn จนถึงวันนี้เรื่องของ“หมูเถื่อน”ทะลักเข้าไทย...ก็ยังเป็นเรื่องที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ได้สะท้อนผ่านออกมาทางนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ...ในมุมที่ว่าหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง...ดูได้จาก ไม่เร่งทำลายหมูเถื่อนที่จับกุมล่าสุด 4.5 ล้านกิโลกรัมจากตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้ …และมีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากว่าแหล่งข่าวที่วิ่งงานนำสินค้าออกจากท่าเรือให้ข้อมูลว่าต้องจ่ายค่าน้ำร้อน น้ำชาตู้ละ 550,000 บาท ก็จะทำให้ทางโรยด้วยกลีบกุหลาบ ต่อกรณี Green Line นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร รับปากว่าจะเร่งปรับรายละเอียดพิธีการ (profile) กลุ่มสินค้าอาหารแช่แข็ง (Frozen Foods) ให้เข้าระบบ Red Line ทั้งหมด โดยอาจจะยกเว้นกลุ่มผู้นำเข้าที่ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย และทุกการกระทำผิดและตู้ตกค้าง คดีจะไม่จบที่กรมฯ แต่จะส่งต่อไปสำนักงานสอบสวนกลาง พร้อมยืนยัน “ของกลาง” ที่ยึดได้จะไม่หลุดรอดออกไปได้….
ถึงตรงนี้...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...มีข่าวดีมากฝากพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรกว่ากรมศุลกากรเขาเริ่มขยับตัวแล้วนะครับผม....ล่าสุดคุณพันธ์ทองลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี...แจ้งว่า กรมศุลกากรได้ยื่นหนังสือกับ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์เชาวนาศัย รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในฐานะนิติบุคคลและในฐานะส่วนตัว ในความผิดฐานนำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งหรือหมูเถื่อน เข้ามาในราชอาณาจักรไทย เป็นจำนวนมากถึง 4.5 ล้านกิโลกรัม และเมื่อรวมซากหมูเถื่อนทั้งหมดในช่วงปีเศษที่ผ่านมา จับกุมได้รวมถึง 4.8 ล้านกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมีความกังวลใจเนื่องจากอาจทำให้กลไกตลาดมีความเสียหาย เกิดการระบาดของโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFS) ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรของประเทศไทย ความมั่นคงทางด้านอาหาร และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสุขอนามัยของผู้บริโภคภายในประเทศ ซึ่งซากหมูเถื่อนเหล่านี้จะถูกส่งมาจากประเทศบราซิล สเปน และเดนมาร์ก เป็นต้น และ กรมศุลกากรจึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทสุกรมีชีวิต เนื้อสุกร และเครื่องในสุกร โดยได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเร่งรัดป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทสุกร
กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ทำการสำรวจของค้างบัญชีเรืออยู่ในอารักขาของศุลกากรเกินกำหนดเวลา และได้ทำการสำรวจของค้างบัญชีเรืออยู่ในอารักขาของศุลกากรเกินกำหนดเวลา 30 วัน จึงได้ออกเอกสารบัญชีของค้างบัญชีเรือ โดยไม่มีใบขนสินค้าอันได้รับรองและไม่ได้เสียอากรหรือวางเงินประกันค่าอากรที่พึงเรียกเก็บแก่ของนั้น และได้แจ้งไปยังตัวแทนเรือและผู้รับตราส่งตามที่ระบุไว้ในบัญชีเรือ เพื่อให้มีการชำระอากรหรือวางประกันค่าอากรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เมื่อครบกำหนดระยะเวลาก็ไม่มีผู้ใดมาแสดงความเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้มีสิทธิ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จึงได้ออกเอกสารบัญชีของค้างบัญชีเรือ และแจ้งไปยังตัวแทนเรือ แต่ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมาแสดงความเป็นเจ้าของ และทำการเปิดสำรวจ พบสินค้าประเภทสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ ซึ่งเป็นของควบคุมการนำเข้าตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ กรณีจึงเป็นการนำเข้าโดยฝ่าฝืนมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 อันเป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงข้อจำกัด ตามมาตรา 244 และเป็นของอันพึงต้องริบตามกฎหมายศุลกากร ตามมาตรา 166 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2560
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี