วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยผลประชาพิจารณ์ ร่างคำสั่งสำนักงานทะเบียนฯ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยผลประชาพิจารณ์ ร่างคำสั่งสำนักงานทะเบียนฯ

วันพุธ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 09.20 น.
Tag : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประชาพิจารณ์ SuperDBD
  •  

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดผลประชาพิจารณ์ ‘จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจควรเรียกเอกสารเจ้าบ้านยืนยันให้ใช้สถานที่หรือไม่?’ ตลอด 16 วันมีผู้มีส่วนได้เสียและผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความเห็น โดยระบุไม่เห็นด้วย (ไม่ควรเรียกเอกสาร) 621 ราย หรือ 86.37% เห็นด้วย 98 ราย หรือ 13.63% เหตุผลหลักที่ไม่เห็นด้วย เป็นการเพิ่มภาระแก่ผู้ประกอบการที่สุจริต เพิ่มต้นทุน เกิดความล่าช้า เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติ ไม่สอดคล้องกับรัฐบาลยุคดิจิทัล มาตรการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องหรือช่วยในการแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล และอาจละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเสนอแนะให้นำเทคโนโลยี/เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นมาใช้ในการตรวจสอบที่ตั้ง และหากพบนิติบุคคลทำผิดควรเร่งส่งเรื่องให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายดำเนินการโดยเร็ว

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (ประชาพิจารณ์) ร่างคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง กำหนดหลักเกณฑ์และเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด และจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ตั้งยินยอมให้ใช้เป็นสำนักงานนิติบุคคล โดยผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปได้แสดงความคิดเห็นทั้งผลดีและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากคำสั่งฯ ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม - วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย www.law.go.th และเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th ซึ่งเป็นไปตามมาตรการและแผนงานในการกำกับดูแลการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลให้เป็นไปอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่


ภายหลังเสร็จสิ้นระยะเวลารับฟังความคิดเห็นฯ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำการประมวลผลประชาพิจารณ์ร่างคำสั่งฯ ดังกล่าว พบว่ามีภาคธุรกิจ ประชาชนทั่วไป และผู้มีส่วนได้เสีย เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยผลการแสดงความคิดเห็นมีดังนี้

1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐานเพื่อแสดงว่าเจ้าของที่ตั้งสำนักงานยินยอมให้ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดใช้สถานที่เป็นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ประกอบคำขอจดทะเบียน (มีผู้แสดงความเห็นทั้งหมด 719 คน) * เห็นด้วย 98 ราย คิดเป็น 13.63% * ไม่เห็นด้วย 621 ราย คิดเป็น 86.37%

2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับคำสั่งฯ ฉบับนี้ (มีผู้แสดงความเห็นทั้งหมด 718 คน) * เห็นด้วย 94 ราย คิดเป็น 13.09% * ไม่เห็นด้วย 624 ราย คิดเป็น 86.91%
3. ข้อเสนอแนะอื่นๆ มีผู้แสดงความคิดเห็น 210 ราย

ทั้งนี้ ผลการรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่ “ไม่เห็นด้วย” กับการส่งหลักฐานหรือเอกสารเจ้าบ้านยินยอมให้ใช้สถานที่ และ “ไม่เห็นด้วย” กับร่างคำสั่งฯ ดังกล่าว โดยเหตุผลหลักที่ไม่เห็นด้วย คือ * เป็นการเพิ่มภาระและขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ประกอบธุรกิจอย่างสุจริต * เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติ * ทำให้เกิดความล่าช้า * เพิ่มต้นทุนในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล * ไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการทำงานภาครัฐในยุคดิจิทัลของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกประชาชนและภาคธุรกิจ * บัญชีม้านิติบุคคลและการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน * มาตรการดังกล่าวไม่มีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาการนำนิติบุคคลไปใช้เป็นบัญชีม้า * ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด

ขณะเดียวกัน ผู้แสดงความคิดเห็นได้ให้ข้อเสนอแนะถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล ดังนี้ * ควรนำเทคโนโลยีมาใช้ตรวจสอบสถานที่ตั้งของนิติบุคคล * เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นในการตรวจสอบ เช่น หน่วยงานภาษีหรือหน่วยงานท้องถิ่น * หากนิติบุคคลไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมายควรส่งเรื่องให้สำนักงาน ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่สร้างภาระให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ

กรมฯ น้อมรับฟังทุกความคิดเห็นของภาคประชาสังคม และพร้อมนำความคิดเห็นที่ได้รับมาดำเนินการพัฒนาระบบจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น การรับฟังความคิดเห็นฯ ข้างต้น เป็น 1 ในมาตรการหลักของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลกรณีไม่มีที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคลจริง หรือ แอบอ้างนำที่อยู่แจ้งที่ตั้งสำนักงานโดยเจ้าบ้านไม่อนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงาน ซึ่งเข้าข่ายเป็นบริษัทไม่มีสถานที่ตั้ง รวมทั้ง สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ที่ต้องการร่วมประกอบธุรกิจหรือทำธุรกรรมกับนิติบุคคลว่ามีสถานที่ตั้งที่ถูกต้องและมีสถานที่ตั้งอยู่จริง

ทั้งนี้ กรมฯ มีมาตรการเชิงบริหารในการกำกับดูแลการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและประชาชนเกี่ยวกับสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคล มิให้ถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้ดำเนินการดังนี้

1. จัดทำระบบตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคลผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หากพบว่าที่อยู่ของตนเองถูกนำไปใช้จัดตั้งนิติบุคคลโดยไม่ได้รับทราบมาก่อนหรือไม่ยินยอม สามารถส่งหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งนั้นได้ โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ส่งหนังสือและเอกสารมาถึงผู้อำนวยการกองธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เลขที่ 563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 และกรณีที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ส่วนภูมิภาคหรือต่างจังหวัดให้ยื่นต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่นิติบุคคลนั้นตั้งอยู่ หรือส่ง e-Mail มาที่ cgbusiness@dbd.go.th

2. สำหรับนิติบุคคลที่กรมฯ ตรวจสอบแล้ว หากพบว่าไม่มีที่ตั้งตามที่จดทะเบียนอยู่จริง กรมฯ จะดำเนินการหมายเหตุไว้ในระบบจดทะเบียนว่านิติบุคคลดังกล่าวว่า ‘ไม่มีที่ตั้งตามที่จดทะเบียนไว้’ และส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีฐานแจ้งข้อความเท็จ พร้อมหมายเหตุบนหน้าหนังสือรับรอง และระบบ DBD Datawarehouse+ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจได้รับทราบ

3. ไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกรมฯ ในการตรวจสอบสถานที่ตั้งนิติบุคคลตามที่ผู้ขอจดทะเบียนได้แจ้งไว้และปักหมุดพร้อมแสดงภาพถ่ายในลักษณะแผนที่ Google Map ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลที่ตั้งนิติบุคคลสามารถเช็คและเห็นภาพสถานที่ตั้งนิติบุคคลตามที่ได้แจ้งจดทะเบียนไว้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้เร็วๆ นี้

4. ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขยายผลเอาผิดและบังคับใช้กฎหมายกับผู้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานในเรื่องสถานที่ตั้งนิติบุคคลและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ นิติบุคคลต้องมีสำนักงานที่ตั้งและแจ้งต่อนายทะเบียนของกรมฯ เมื่อดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งสำนักงาน หากไม่กระทำตามจะต้องได้รับโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5. มาตรการป้องปรามบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงินที่ปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อ HR-03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมฯ ได้ออกคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ที่  3/2567 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดของบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน ตามรายชื่อของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยหากมีบุคคลซึ่งมีรายชื่ออยู่ในบัญชี HR-03 มาขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหรือแจ้งชื่อเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทจำกัด จะเรียกให้บุคคลดังกล่าวมาแสดงตนต่อหน้านายทะเบียน และส่งข้อมูลต่อให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อติดตามขยายผล ทั้งนี้ หากไม่มาแสดงตนก็จะไม่รับจดทะเบียนให้

นอกจากนี้ กรมฯ ได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ และสมาคมธนาคารไทย ดำเนินการร่วมกันในการตรวจสอบนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงเพื่อบรรเทาปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลป้องกันไม่ให้นำไปหลอกลวงประชาขน ซึ่งสร้างความสูญเสียทรัพย์สินในวงกว้าง” อธิบดีอรมน กล่าว

- 030 



 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สนค.ลงพื้นที่สกลนคร หนุนกินเนื้อ-นมในประเทศ สนค.ลงพื้นที่สกลนคร หนุนกินเนื้อ-นมในประเทศ
  • DITP เผย กัมพูชาแอบอ้างใช้ชื่อข้าวหอมมะลิไทยวางขายในจีน DITP เผย กัมพูชาแอบอ้างใช้ชื่อข้าวหอมมะลิไทยวางขายในจีน
  • การค้าชายแดน-ผ่านแดน 5 เดือนแรก 833,171ล้าน โต 11.0% การค้าชายแดน-ผ่านแดน 5 เดือนแรก 833,171ล้าน โต 11.0%
  • ธุรกิจ Bio-Innovation นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงการค้าโลก ธุรกิจ Bio-Innovation นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงการค้าโลก
  • ยอดจัดตั้งบริษัทใหม่ร่วง ก่อสร้าง-อสังหา-ภัตตาคารยังติดกลุ่มธุรกิจฮิต ยอดจัดตั้งบริษัทใหม่ร่วง ก่อสร้าง-อสังหา-ภัตตาคารยังติดกลุ่มธุรกิจฮิต
  • นบข.ไฟเขียว 4 มาตรการช่วยข้าวนาปี (ปีการผลิต 2568/69) วงเงินกว่า 5 หมื่นล้าน นบข.ไฟเขียว 4 มาตรการช่วยข้าวนาปี (ปีการผลิต 2568/69) วงเงินกว่า 5 หมื่นล้าน
  •  

Breaking News

‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้

วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว

ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'

‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved