ก.แรงงาน จ่ายเงินเยียวยา ผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แล้วกว่า 17 ล้านบาท

วันที่ 3 เมษายน 2568 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม และก่อให้เกิดเหตุการณ์ตึกถล่ม ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นั้น ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้สั่งการให้จัดตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ภายใน 1 ชั่วโมงทันทีที่เกิดเหตุทั่วประเทศ โดยขณะนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2568 กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความช่วยเหลือโดยจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสิทธิประโยชน์ประกันสังคม ทั่วประเทศแล้ว 22 ราย รวมเป็นเงิน จำนวน 17,388,375 บาท แบ่งเป็น ค่าทำศพ 850,000 บาท เงินทดแทนตาย 15,568,392 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 969,983 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารจากทายาทผู้มีสิทธิเพื่อจ่ายเงินทดแทน

นายบุญสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรณีตึกถล่มนั้น พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบรวม 96 ราย จำแนกเป็น ผู้บาดเจ็บ 9 ราย โดยเป็นแรงงานไทย 2 ราย แรงงานต่างชาติ 6 ราย ไม่ทราบชื่อไม่ทราบสัญชาติ 1 ราย ผู้เสียชีวิต 15 ราย โดยเป็นคนไทย 10 ราย แรงงานต่างชาติ 3 ราย ยังไม่ทราบชื่อไม่ทราบสัญชาติ 2 ราย และสูญหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 72 ราย นั้น ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เตรียมจ่ายสิทธิประโยชน์ประกันสังคม จำนวน 15 ราย เป็นเงิน 12,700,537 บาท แบ่งเป็น ค่าทำศพ รายละ 50,000 บาทรวมเป็นเงิน 650,000 บาท เงินทดแทนตาย เป็นเงิน 11,468,184 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ เป็นเงิน 582,353 บาท ขณะที่ มีผู้ติดต่อสอบถามรวมถึงขอความช่วยเหลือมายังกระทรวงแรงงานผ่านทางสายด่วน 1506 จำนวน 260 ราย และมีสถานประกอบกิจการที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ จำนวน 179 แห่ง

“กระทรวงแรงงาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังพื้นที่ของพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่เสียชีวิต โดยมี 5 เสือแรงงาน เข้าไปร่วมด้วย ในเบื้องต้นเมื่อพิสูจน์ได้ว่าญาติที่เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นญาติท่าน สามารถนำเอกสารที่เกี่ยวข้อง มายื่นเพื่อดำเนินการสิทธิประโยชน์ได้ โดยกระทรวงแรงงานจะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากเอกสารครบ สามารถดำเนินการให้เสร็จ ภายใน 7 วัน และขอย้ำว่า กระทรวงแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์ของคนไทยและคนต่างชาติเท่ากัน เพราะฉะนั้น ขอให้ความมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเป็นคนชาติใดจะได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน” นายบุญสงค์ กล่าว