ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ(REPORT ON BUSINESS SENTIMENT INDEX)เดือนเมษายน 25688 ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับลดลงมาอยู่ที่47.1 จาก 50.2 ในเดือนก่อน ตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ สำหรับความเชื่อมั่นภาคการผลิตปรับลดลงมากโดยเฉพาะด้านการผลิต ส่วนหนึ่งจากผลของปัจจัยเชิงฤดูกาลที่จำนวนวันทำการ (business days) น้อยกว่าเดือนก่อน
อย่างไรก็ตามหากขจัดผลเชิงฤดูกาลแล้ว ความเชื่อมั่นโดยรวมของภาคการผลิตค่อนข้างทรงตัว โดยความไม่ชัดเจนของมาตรการภาษีของสหรัฐฯ กระทบต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก นำโดยกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มผลิตยางพาราแปรรูปและพลาสติก รวมทั้งกลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ยางล้อ เซมิคอนดักเตอร์เม็ดและบรรจุภัณฑ์พลาสติก
นอกจากนี้ ดัชนีฯ ของกลุ่มธุรกิจอื่นในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้น ส่วนความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตปรับลดลงในหลายหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงทุกองค์ประกอบจากผลของแผ่นดินไหวที่ทำให้ในระยะสั้นมีผู้ซื้อบางส่วนชะลอการโอนที่อยู่อาศัยแนวสูงออกไป และกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงต่อเนื่องในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านคำสั่งซื้อและปริมาณการให้บริการ ตามจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ในปีนี้ที่ต่ำกว่าคาดและต่ำกว่าปีก่อน โดยเฉพาะชาวจีนที่ยังมีความกังวลด้านความปลอดภัย(safety concern)
ทั้งนี้ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ความเชื่อมั่นปรับลดลงลดลงมาอยู่ที่ 48.9ในเกือบทุกองค์ประกอบและเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ความเชื่อมั่นด้านการผลิตและผลประกอบการปรับลดลงมากคาดว่าเป็นผลจากการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นหลังครบกำหนดระยะผ่อนผันภาษีตอบโต้ในอีก 90 วัน และกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงมากในทุกองค์ประกอบ และทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ส่วนหนึ่งจากความกังวลด้านความปลอดภัยของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวตามความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆเช่นความเชื่อมั่นการลงทุน 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงมาอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี ตามการปรับลดลงในหลายธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่บางส่วนมีการชะลอการลงทุนใหม่ เพื่อรอความชัดเจนของภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ของสหรัฐฯโดยหากไม่สามารถเจรจาลด tariff ให้ลงมาอยู่ในระดับที่ธุรกิจแข่งขันได้อาจกระทบต่อการลงทุนใหม่ชัดเจนและ broad-based มากขึ้นในระยะถัดไป
ธุรกิจกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากจนปรับขึ้นมาเป็นข้อจำกัดอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจ จากหลายปัจจัย อาทิผลกระทบของสถานการณ์แผ่นดินไหวต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ท่องเที่ยวและการค้ารวมทั้งความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีของสหรัฐฯต่อธุรกิจผลิตเพื่อส่งออกอย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5 จาก 2.3 ในเดือนก่อน
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี