ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์หรือSCB EIC ปรับประมาณการส่งออกไทยทั้งปีขึ้นเป็น -0.1% จาก -0.4% จากประมาณการครั้งก่อน โดยผลกระทบด้านการค้าระหว่างประเทศจะรุนแรงและชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เป็นต้นไป หลังจากที่หลายประเทศได้เร่งผลิตและส่งออกก่อนได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ทั้งนี้มองว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าอาจยืดเยื้อไม่เสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา ผนวกกับกระบวนการทางกฎหมายภายในของสหรัฐฯ ต่อประเด็นอำนาจของประธานาธิบดีในการใช้นโยบายภาษีนำเข้า จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้ายังอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
หากพิจารณาสาเหตุการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นจากปัจจัยชั่วคราว และมีความเสี่ยงที่ปัจจัยเหล่านี้จะทยอยหมดไปในช่วงที่เหลือของปี สะท้อนจากแหล่งที่มาของการขยายตัวส่งออกไทย 5 เดือนแรก (14.9%) และพบข้อสังเกตดังนี้
การเร่งส่งออกสินค้าที่ยังไม่โดนภาษี : สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากยังคงไม่ถูกตั้งกำแพงภาษี ส่งผลให้เกิดการเร่งส่งออกสินค้าดังกล่าวไปสหรัฐฯ โดยการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มดังกล่าว เป็นแหล่งที่มาของการขยายตัว 5 เดือนแรกของไทยสูงถึง 5.5% จาก 14.9% อย่างไรก็ดีสินค้ากลุ่มนี้แนวโน้มชะลอลง จากความเสี่ยงต่อการโดนเก็บภาษีเฉพาะเจาะจงสินค้า (Specific tariff) ในระยะข้างหน้าและแรงหนุนการเร่งส่งออกที่จะแผ่วลง
ปัจจัยส่งออกทองคำชั่วคราวไปอินเดีย : ปัจจัยหนุนส่งออกทองคำพิเศษจากอินเดียชั่วคราวผ่านช่องว่างทางกฎหมายประเทศอินเดียที่เริ่มเห็นผลช่วงท้ายปี 2024 เป็นแหล่งที่มาจากการขยายตัวของการส่งออกไทย 5 เดือนแรก 2.2% อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนดังกล่าวเริ่มหมดไปหลังจากอินเดียได้มีการปรับเปลี่ยนกฎหมายใหม่ในช่วงเดือนมีนาคม
ปัจจัยฐานต่ำในช่วงไตรมาแรกของปี 2024 : มูลค่าการส่งออกของไทยไตรมาส 1 ขยายตัวสูงส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานที่ค่อนข้างต่ำในปีก่อนหน้า โดยส่งออกไทยไตรมาสแรกของปี 2024 หดตัว -0.6% ส่งผลให้เกิดแรงส่งในช่วงต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 มีปัจจัยฐานสูง โดย ไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ขยายตัว 7.5% และ 10.5% ตามลำดับ สะท้อนถึงผลบวกจากปัจจัยฐานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่จะลดลง
มูลค่าการส่งออกข้าวมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง : มูลค่าการส่งออกข้าวมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2025 เนื่องจากราคาข้าวมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากสต็อกข้าวโลกที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกนโยบายควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย นอกจากนี้ ปริมาณการส่งออกข้าวก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดโลกคืนให้อินเดียและความต้องการนำเข้าข้าวของประเทศคู่ค้าปรับตัวลดลง
SCB EIC มองว่าในช่วงที่เหลือของปีการส่งออกไทยเผชิญความเสี่ยงด้านลบเพิ่มเติมจากปัจจัยนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยอาจมีแนวโน้มใช้ Specific Tariff เพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสินค้าส่งออกของไทยส่วนมากมีแนวโน้มได้รับผลกระทบ โดยพบว่า หากดูข้อมูลสินค้าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ที่มูลค่าสูงสุด 20 อันดับแรก (77.2% ของส่งออกไทยไปสหรัฐฯ) 4 จาก 20 สินค้า (33.8% ของส่งออกไทยไปสหรัฐฯ; กลุ่ม EE) อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดนเก็บ Specific Tariffs, 3 จาก 20 (9.8% ของส่งออกไทยไปสหรัฐฯ; กลุ่มเหล็ก&รถยนต์) อยู่ในกลุ่มโดนเก็บ Specific tariffs แล้ว และ 14 จาก 20 สินค้ากระจุกตัวในตลาดสหรัฐฯ ค่อนข้างสูง (มูลค่าส่งออกทั้งหมดของสินค้านั้นพึ่งพาตลาด สหรัฐฯ มากกว่า 20%)
ความขัดแย้งอิสราเอลและอิหร่านที่หากบานปลายเป็นความขัดแย้งระดับภูมิภาค หรือรุนแรงขึ้นจนช่องแคบฮอร์มุซถูกปิดลงอาจกระทบราคาพลังงานและทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทั่วโลก เพิ่มความเสี่ยงเงินเฟ้อและซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่เผชิญผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ รวมถึงทำให้การขนส่งได้รบผลกระทบ และการค้าโลกอาจชะลอลงไปมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี