นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “อาหารไทย” เป็นหนึ่งใน Soft Power สำคัญของประเทศที่สามารถต่อยอดสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดยเฉพาะในยุคที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแสวงหาประสบการณ์ที่แท้จริงผ่านอาหาร ตราสัญลักษณ์ “Thai SELECT” จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการส่งเสริมคุณภาพร้านอาหารไทย พร้อมเชื่อมโยงเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

กรมฯ จึงใช้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมคุณภาพร้านอาหารไทย โดยขยายพื้นที่การมอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ให้กับร้านอาหารไทยทั่วทุกภูมิภาค ล่าสุดได้มอบให้ร้านอาหารไทยใน 3 จังหวัด ได้แก่ 1) ร้านสวนอาหารริเวอร์ไซด์การ์เด้น จังหวัดชุมพร ร้านอาหารท้องถิ่นที่โดดเด่นด้วยเมนูรสชาติต้นตำรับและบรรยากาศริมแม่น้ำที่สะท้อนถึงเสน่ห์ของแห่งเมืองชายทะเลภาคใต้ 2) ร้านสะเลเต แฮชเชอรี่ จังหวัดร้อยเอ็ด นำเสนออาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่โดดเด่นด้วยเมนูต้นตำรับและการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพ ถ่ายทอดเป็นเมนูไทยร่วมสมัยที่ชวนลิ้มลอง สร้างชื่อเสียงและเป็นจุดหมายของผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติและบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด และ 3) ร้านคำนิยม จังหวัดสระแก้ว ร้านอาหารริมน้ำที่สะท้อนวิถีชีวิตพื้นถิ่นในอำเภออรัญประเทศ มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยแท้ที่ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังเดินสายมอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ให้แก่ร้านอาหารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจนได้รับตราสัญลักษณ์
Thai SELECT จึงไม่ใช่แค่เครื่องหมาย แต่คือมาตรฐานรับรองแห่งคุณภาพร้านอาหารไทยในด้าน รสชาติ วัตถุดิบ บริการ และบรรยากาศ โดยร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ฯ ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ประกอบด้วย (1) เปิดให้บริการมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน (2) รองรับลูกค้าพร้อมกันได้ ไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่งและมีพนักงานให้บริการ (3) มีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 (4) มีหัวหน้าพ่อครัวหรือหัวหน้าแม่ครัว (เชฟ) เป็นคนไทย หรือหากไม่ใช่คนไทยต้องมีใบรับรองผ่านงานหรือผ่านการฝึกอบรมการทำอาหารไทย (5) ร้านอาหารไทยที่มีมากกว่า 1 สาขา แต่ละสาขาต้องยื่นใบสมัครขอรับตราฯ หรือขอต่ออายุการใช้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แยกจากสาขาอื่น

ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT มีอายุ 3 ปี นับจากวันที่ได้รับตราสัญลักษณ์ฯ
ในปี 2568 กรมฯ ได้ปรับรูปแบบตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากเดิม คือ 1.Thai SELECT SIGNATURE 2.Thai SELECT CLASSIC 3.Thai SELECT UNIQUE เป็นรูปแบบใหม่ คือ “ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้”       แบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1) Thai SELECE ดาวเกียรติยศ 1 ดาว (ได้รับคะแนนรวม 75-84 คะแนน) ‘รสชาติไทยแท้ มาตรฐานมั่นใจ’ ร้านอาหารไทยที่ถ่ายทอดรสชาติต้นตำรับ พร้อมมาตรฐานด้านวัตถุดิบ ความสะอาด และบริการ เหมาะสำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการสัมผัสอาหารไทยแท้ในราคาที่เป็นมิตร 2) Thai SELECE ดาวเกียรติยศ 2 ดาว (ได้รับคะแนนรวม 85-94 คะแนน) ‘รสชาติไทยสร้างสรรค์ บริการมืออาชีพ’ ร้านอาหารไทยที่ยกระดับประสบการณ์ด้วยการตกแต่งอาหารอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมการบริการแบบมืออาชีพ ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาอาหารไทยที่มากกว่าความอร่อย 3) Thai SELECE ดาวเกียรติยศ 3 ดาว (ได้รับคะแนนรวม 95 คะแนนขึ้นไป) ‘รสชาติไทยสุดประณีต สัมผัสประสบการณ์ชั้นเลิศ’ ร้านอาหารไทยชั้นนำที่ผสานความหรูหรา ความเป็นไทยและศิลปะการเล่าเรื่องผ่านเมนูอาหาร มอบประสบการณ์วัฒนธรรมไทยอันงดงามให้กับผู้บริโภคอย่างเหนือระดับ
ทั้งนี้ การมอบตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของกรมฯ ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐาน เพื่อต่อยอดมูลค่าอาหารไทยให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านแนวทางการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอาหารไทยซึ่งเป็น Soft Power สำคัญของประเทศ รวมถึงยังเป็นการสร้างจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน เพิ่มรายได้ให้ชุมชน 

ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เปรียบเสมือนใบเบิกทางที่รับรองคุณภาพของร้านอาหารไทยในด้านรสชาติ วัตถุดิบ การบริการ และการถ่ายทอดวัฒนธรรมความเป็นไทยอย่างครบถ้วน การส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยให้ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพของร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ สร้างรายได้สู่ชุมชน กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น และช่วยเผยแพร่ความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล” อธิบดีอรมน กล่าวสรุป
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568) มีร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทั่วประเทศ จำนวน 496 ร้าน แบ่งเป็น ภาคกลาง 189 ร้าน ภาคเหนือ 96 ร้าน ภาคใต้ 87 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 87 ร้าน และ ภาคตะวันออก 37 ร้าน
 

-032