นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และ น.ส.เกษสุรีย์ วิจารณกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก เข้าร่วมประชุม Round Table จัดโดยสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council : USABC) และ Business Council for International Understanding : BCIU โดยมีบริษัทเอกชนรายใหญ่ 4 ราย เข้าร่วมการประชุม ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ว่า ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจการค้า เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนรายใหญ่สหรัฐฯ และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย

ทั้งนี้ ไทยได้ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึงความพร้อมของไทยให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า เกษตรและอาหารแห่งอนาคต เครื่องมือแพทย์ พลังงานสะอาด อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับศักยภาพของสหรัฐฯ และสามารถเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ให้เข้าถึงห่วงโซ่อุปทานโลกได้มากขึ้น

“บรรยากาศเป็นไปด้วยดี บริษัทสหรัฐฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพในการลงทุนในไทย แม้ตอนนี้สถานการณ์การค้าโลกต้องยอมรับว่ามีความไม่แน่นอนสูง โดยสิ่งที่บริษัทต่างชาติต้องการ คือ กฎระเบียบภาครัฐต้องมีความชัดเจน และได้สอบถามเกี่ยวกับกฎเกณฑ์กฎระเบียบที่มีความสำคัญกับธุรกิจของเขา ซึ่งได้ยืนยันว่าไทยจะปรับปรุงกฎเกณฑ์ กฎระเบียบในประเทศให้เอื้อต่อการลงทุน และได้มีการประชาสัมพันธ์ว่าต่อไปทูตพาณิชย์จะทำงานในบทบาทเชิงรุกประชาสัมพันธ์กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจในไทยให้สามารถมีความมั่นใจได้ว่าไทยให้การต้อนรับเขา”นายฉันทวิชญ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนสหรัฐฯ ได้มีการสอบถามว่าการเจรจาด้านภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เป็นอย่างไร ซึ่งได้แจ้งว่าจะมีความคืบหน้าและบรรลุผลที่ชัดเจนขึ้นเร็ว ๆ นี้

สำหรับ USABC ก่อตั้งเมื่อปี 2527 เป็นองค์กรที่มีสมาชิกเป็นบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ลงทุนหรือดำเนินธุรกิจในอาเซียน มีบทบาทในการสนับสนุนความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ กับไทยและประเทศอาเซียน พร้อมทั้งส่งเสริมให้รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ ในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสาขา 7 แห่ง ได้แก่ นครนิวยอร์ก กรุงเทพฯ กรุงฮานอย กรุงจาการ์ตา กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา และประเทศสิงคโปร์

ส่วน BCIU เป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไร ก่อตั้งเมื่อปี 2498 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของสหรัฐฯ กับนานาประเทศทั่วโลก โดยจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ อาทิ การประชุม สัมมนา อบรม และเวทีเจรจาระหว่างผู้บริหารกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐของประเทศต่าง ๆ โดยสมาชิกประกอบด้วยบริษัทข้ามชาติที่มีความสนใจดำเนินธุรกิจในระดับสากล